สวัสดีคะ ขอกลับมาต่อภาค 2 ให้จบกับอีก 6 วันที่เหลือในญี่ปุ่นกับคุณยายวัย 83 นะคะ
ติดตามอ่านกระทู้ภาคแรกได้ที่
http://ppantip.com/topic/32432351
#วันที่ 7 ออกจาก Takayama เยี่ยมเยือน Osaka ก่อนไปพัก Kyoto
วันนี้ จขกท ตื่นแต่เช้าอีกแล้ว ไปนอนในรถไฟเอาแรง เส้นทางเดินทางต้อนย้อนกลับไปนาโกย่า แล้วจะนั่ง shinkansen hikari ไป shin osaka กันคะ
ถึง shin osaka จะเข้าตัวเมืองจำเป็นต้องเปลี่ยนไปนั่ง jr line คะ จาก shin osaka นั่งรถสายไหนไปสถานี osaka ก้อได้ ถัดไปแค่ 1 สถานีคะ นี่เป็นแผนผังรถไฟในโอซาก้านะคะ ใครถือ jr pass ไม่ต้องใช้เงินแม้สตางแดงเดียว
นิดนึงคะ ที่ญี่ปุ่นมีตู้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะด้วยอยากให้คนไทยมีบ้าง แถมอีกหน่อย การนั่งรถเมล์ รถไฟ หรือที่สนามบิน จะมีป้าย priority seat อยู่ เป็นรูปคนชรา เด็ก คนท้อง คนพิการ จริงๆไม่ควรนั่งนะคะ ถ้านั่งเวลามีคนในกลุ่มที่กล่าวมานี้ขึ้นมา เราต้องลุกให้นั่งคะโดยมารยาท ตอนยืนอยู่เห็นคุณตาพาคุณหลานขึ้นรถเมล์ มีฝรั่งสองคนนั่งิยู่ตรง priority seat สองคนมองหน้ากันปริบๆ แต่ฝรั่งก้อยังไม่รู้เรื่อง...
เสริมอีกนิดคะ การใช้รถไฟรถบัสปกติเค้าจะให้ปิดเสียง หรือปิดโทรศัพท์มือถือไปเลยนะคะ และไม่พูดคุยเสียงดังกันบนรถ
สายที่เราจะนั่งคือ osaka loop (สีแดง) คะ แต่ขอให้ระวังมีบางสาย (ที่ไป university-city) สีคล้ายกันมากอาจนั่งผิด เรานั่งผิดไปแล้วด้วย เสียเวลามากคะ เราจะไปขึ้นที่ platform 2 ไป osaka castle ka ลงสถานีที่ 4 Osakajokoen คะ ออกมาจากสถานีเดินเลี้ยวทางซ้ายลงบันได ไปทาง hall ใหญ่ๆ
วันนี้คนเพียบโดยเฉพาะวัยรุ่นสาวๆ แต่งตัวกันเต็มที่ ไม่รู้มีงานอะไร แต่เห็นมีคนถือกระเป๋า พัด เสื้อ เป็นรูป boybrand วงนึง และ เขียนว่า Jump จขกท ไม่ค่อยแน่ใจนะคะว่าวงไหน สงสัยแก่ละ 555
แต่งตัวเหมือนแฝดเลย ถึงโดมแล้วซ้าย ตรงต่อไปสัก 200-300เมตร เจอป้ายบอกให้เลี้ยวขวา เดินตรงต่อไปจนถึงสะพานข้ามเข้าไปในเขตปราสาทโอซาก้า เดินต่อไปอีกนานพอตัว ทีนี้เดินตามยอดปราสาทเลยคะ ง่ายๆ ถึงแล้ว
คนญี่ปุ่นถือว่า ปราสาทโอซาก้าไม่เก่าจริงเพราะถูกบูรณะขึ้นมาใหม่หลังถูกไฟไหม้ แต่ประวัติความเป็นมายิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ไหนนะคะ เพราะเคยเป็นที่มั่นของ hideyoshi คนสามัญที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาตร์การรวมชาติญี่ปุ่นได้ และยังเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลขนาดเคยเป็นคู่อริสำคัญของตระกูล togukawa อีกด้วย เราก้อเลยเข้าไปชม ในขณะที่คุณยายนั่งรอชิวๆ กางร่มท่ามกลางฝนปรอยตรงนี้ มีไอติมอีกแล้ว
ค่าเข้า 600y มีนิทรรศการให้ชม 8 ชั้น เราขึ้นลิฟต์ไปชั้นสูงสุดก่อนคะ มีแต่ลิฟต์ขึ้นนะคะ ลิฟต์ลงไม่มี ถ่ายรูปมุมนี้มาได้ เห็นรอบๆปราสาทโอซาก้า
หลังจากนั้นค่อยๆเดินดูทีละชั่นคะ แรกเริ่มมีประวัติของ hideyoshi ตั้งแต่เกิด แต่งงาน มีลูก มีนางสนมกี่คน จากนั้นการแผ่อิทธิพลโดยการแต่งงานข้ามตระกูล และทหารผู้มีอิทธิพลอื่นๆ รวมถึง summer war of osaka ที่เกิดเป็นสงครามก๊กเหล่าหลายแคว้นทั่วญี่ปุ่นมารวมกัน การสิ้นสุดสงคราม และ จนมาถึงการยึดปราสาทโอซาก้า hideyoshi ตาย และปราสาทโอซาก้าตกอยู่ในมือของตระกูล togukawa.
ชั้น 4 กับชั้น 3 ห้ามถ่ายรูปคะ เพราะเป็นพวกจดหมายเหตุ ประมาณนี้
ลงมาแล้ว เดินย้อนกลับไป station จะไป namba คะ นั่ง osaka loop line เหมือนเดิมคะ แต่ต้องไปเปลี่ยนขึ้นรถไฟสาย Jr Namba ได้ที่ Tennoji, Shin-Imiyama, หรือ Imiyama คะ
ถึง สถานี namba ขึ้นบันไดเลื่อนมาหนึ่งชั่น เดินออกมาทาง north exit จะเห็ยบันไดเลื่อนลงไป namba walk คะ
ลงไปแล้วแล้วขวา จริงๆก้อห้างขนาดย่อมนี่เอง เดินสบายเวลาฝนตก อาหารก้อไม่แพงคะ
เดินไปเรื่อยๆดูป้ายด้วยคะเวลามีแยก ให้หาทางออกหมายเลข 14 หรือป้ายเขียนบอก dotomburi เดิน 10 นาทีเห็นจะได้เจอแล้ว
ถ้าออกทางออก 25 จะจอร้านเท็นดงที่เรากับคุณยายไปฝากท้อง เป็นร้านสาขาของ asakusa tokyo
เราขึ้นทาง 14 ก้อถึงต้นถนน เลยคะ จริงๆแล้ว dotomburi เป็นชื่อแม่น้ำ แต่ต่อมาร้านค้าที่ขายของแถวนี้ ถูกเรียกรวมไปเลยเป็นย่าน dotombori
ทาโกะยากิ เราไม่รู้หรอกคะร้านไหนดัง เห็นคนเข้าคิวก้อไแต่อกับเค้าบ้าง 8ลูก 1 set 550y คะ
ขาปูเผา เราอยากบอกว่า เฉยๆมาก 2 ขา 700y คุณยายบอกเราว่า รสชาติเหมือนปูม้าบ้านเราเลย 555+
ร้านอื่นๆ และ osaka ในวันฝนพรำ
ขึ้น shinkansen กลับไปเกียวโตคะเราพักกันที่นั่นคืนนี้ ถึงแล้วออกมาจากสถานีปุ้ปเจอเลยท่ารถบัสขนาดใหญ่
มองไปฝั่งตรงข้าม Kyoto Tower เด่นเป็นสง่า
เดืนข้ามไปฝั่งเกียวโต ทาวเวอร์เลยคะ แล้วเดินๆๆตรงไป ไม่ถึง 10 นาทีสี่แยกแรก (มีอุโมงค์ให้หมุดไปจนถึงสี่แยกนี้นะคะ แค่ลงทาง Porta underground shopping อะคะ) ข้ามถนน ไปหน้า lawson แล้ว เดืนเข้าซอยตรงข้าม ถึงแล้วคะที่พักเราคืนนี้ kyoto hana hostel
ห้าง yodabashi มีพูดภาษาไทยด้วย และดูเหมือนห้างนี้ปลอดภาษีคะ มีป้ายติดไว้หน้าห้างเลย free taxไม่แน่ใจเป็นช่วงลดราคาพิเศษอะไรป่าวนะคะ หรือ free ตลอดก้อไม่รู้
จบวันที่ 7 คะ
[CR] Japan At Glance [ภาคกระเตงคุณยายวัย 83 ไปด้วย] Part 2
ติดตามอ่านกระทู้ภาคแรกได้ที่
http://ppantip.com/topic/32432351
#วันที่ 7 ออกจาก Takayama เยี่ยมเยือน Osaka ก่อนไปพัก Kyoto
วันนี้ จขกท ตื่นแต่เช้าอีกแล้ว ไปนอนในรถไฟเอาแรง เส้นทางเดินทางต้อนย้อนกลับไปนาโกย่า แล้วจะนั่ง shinkansen hikari ไป shin osaka กันคะ
ถึง shin osaka จะเข้าตัวเมืองจำเป็นต้องเปลี่ยนไปนั่ง jr line คะ จาก shin osaka นั่งรถสายไหนไปสถานี osaka ก้อได้ ถัดไปแค่ 1 สถานีคะ นี่เป็นแผนผังรถไฟในโอซาก้านะคะ ใครถือ jr pass ไม่ต้องใช้เงินแม้สตางแดงเดียว
นิดนึงคะ ที่ญี่ปุ่นมีตู้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะด้วยอยากให้คนไทยมีบ้าง แถมอีกหน่อย การนั่งรถเมล์ รถไฟ หรือที่สนามบิน จะมีป้าย priority seat อยู่ เป็นรูปคนชรา เด็ก คนท้อง คนพิการ จริงๆไม่ควรนั่งนะคะ ถ้านั่งเวลามีคนในกลุ่มที่กล่าวมานี้ขึ้นมา เราต้องลุกให้นั่งคะโดยมารยาท ตอนยืนอยู่เห็นคุณตาพาคุณหลานขึ้นรถเมล์ มีฝรั่งสองคนนั่งิยู่ตรง priority seat สองคนมองหน้ากันปริบๆ แต่ฝรั่งก้อยังไม่รู้เรื่อง...
เสริมอีกนิดคะ การใช้รถไฟรถบัสปกติเค้าจะให้ปิดเสียง หรือปิดโทรศัพท์มือถือไปเลยนะคะ และไม่พูดคุยเสียงดังกันบนรถ
สายที่เราจะนั่งคือ osaka loop (สีแดง) คะ แต่ขอให้ระวังมีบางสาย (ที่ไป university-city) สีคล้ายกันมากอาจนั่งผิด เรานั่งผิดไปแล้วด้วย เสียเวลามากคะ เราจะไปขึ้นที่ platform 2 ไป osaka castle ka ลงสถานีที่ 4 Osakajokoen คะ ออกมาจากสถานีเดินเลี้ยวทางซ้ายลงบันได ไปทาง hall ใหญ่ๆ
วันนี้คนเพียบโดยเฉพาะวัยรุ่นสาวๆ แต่งตัวกันเต็มที่ ไม่รู้มีงานอะไร แต่เห็นมีคนถือกระเป๋า พัด เสื้อ เป็นรูป boybrand วงนึง และ เขียนว่า Jump จขกท ไม่ค่อยแน่ใจนะคะว่าวงไหน สงสัยแก่ละ 555
แต่งตัวเหมือนแฝดเลย ถึงโดมแล้วซ้าย ตรงต่อไปสัก 200-300เมตร เจอป้ายบอกให้เลี้ยวขวา เดินตรงต่อไปจนถึงสะพานข้ามเข้าไปในเขตปราสาทโอซาก้า เดินต่อไปอีกนานพอตัว ทีนี้เดินตามยอดปราสาทเลยคะ ง่ายๆ ถึงแล้ว
คนญี่ปุ่นถือว่า ปราสาทโอซาก้าไม่เก่าจริงเพราะถูกบูรณะขึ้นมาใหม่หลังถูกไฟไหม้ แต่ประวัติความเป็นมายิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ไหนนะคะ เพราะเคยเป็นที่มั่นของ hideyoshi คนสามัญที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาตร์การรวมชาติญี่ปุ่นได้ และยังเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลขนาดเคยเป็นคู่อริสำคัญของตระกูล togukawa อีกด้วย เราก้อเลยเข้าไปชม ในขณะที่คุณยายนั่งรอชิวๆ กางร่มท่ามกลางฝนปรอยตรงนี้ มีไอติมอีกแล้ว
ค่าเข้า 600y มีนิทรรศการให้ชม 8 ชั้น เราขึ้นลิฟต์ไปชั้นสูงสุดก่อนคะ มีแต่ลิฟต์ขึ้นนะคะ ลิฟต์ลงไม่มี ถ่ายรูปมุมนี้มาได้ เห็นรอบๆปราสาทโอซาก้า
หลังจากนั้นค่อยๆเดินดูทีละชั่นคะ แรกเริ่มมีประวัติของ hideyoshi ตั้งแต่เกิด แต่งงาน มีลูก มีนางสนมกี่คน จากนั้นการแผ่อิทธิพลโดยการแต่งงานข้ามตระกูล และทหารผู้มีอิทธิพลอื่นๆ รวมถึง summer war of osaka ที่เกิดเป็นสงครามก๊กเหล่าหลายแคว้นทั่วญี่ปุ่นมารวมกัน การสิ้นสุดสงคราม และ จนมาถึงการยึดปราสาทโอซาก้า hideyoshi ตาย และปราสาทโอซาก้าตกอยู่ในมือของตระกูล togukawa.
ชั้น 4 กับชั้น 3 ห้ามถ่ายรูปคะ เพราะเป็นพวกจดหมายเหตุ ประมาณนี้
ลงมาแล้ว เดินย้อนกลับไป station จะไป namba คะ นั่ง osaka loop line เหมือนเดิมคะ แต่ต้องไปเปลี่ยนขึ้นรถไฟสาย Jr Namba ได้ที่ Tennoji, Shin-Imiyama, หรือ Imiyama คะ
ถึง สถานี namba ขึ้นบันไดเลื่อนมาหนึ่งชั่น เดินออกมาทาง north exit จะเห็ยบันไดเลื่อนลงไป namba walk คะ
ลงไปแล้วแล้วขวา จริงๆก้อห้างขนาดย่อมนี่เอง เดินสบายเวลาฝนตก อาหารก้อไม่แพงคะ
เดินไปเรื่อยๆดูป้ายด้วยคะเวลามีแยก ให้หาทางออกหมายเลข 14 หรือป้ายเขียนบอก dotomburi เดิน 10 นาทีเห็นจะได้เจอแล้ว
ถ้าออกทางออก 25 จะจอร้านเท็นดงที่เรากับคุณยายไปฝากท้อง เป็นร้านสาขาของ asakusa tokyo
เราขึ้นทาง 14 ก้อถึงต้นถนน เลยคะ จริงๆแล้ว dotomburi เป็นชื่อแม่น้ำ แต่ต่อมาร้านค้าที่ขายของแถวนี้ ถูกเรียกรวมไปเลยเป็นย่าน dotombori
ทาโกะยากิ เราไม่รู้หรอกคะร้านไหนดัง เห็นคนเข้าคิวก้อไแต่อกับเค้าบ้าง 8ลูก 1 set 550y คะ
ขาปูเผา เราอยากบอกว่า เฉยๆมาก 2 ขา 700y คุณยายบอกเราว่า รสชาติเหมือนปูม้าบ้านเราเลย 555+
ร้านอื่นๆ และ osaka ในวันฝนพรำ
ขึ้น shinkansen กลับไปเกียวโตคะเราพักกันที่นั่นคืนนี้ ถึงแล้วออกมาจากสถานีปุ้ปเจอเลยท่ารถบัสขนาดใหญ่
มองไปฝั่งตรงข้าม Kyoto Tower เด่นเป็นสง่า
เดืนข้ามไปฝั่งเกียวโต ทาวเวอร์เลยคะ แล้วเดินๆๆตรงไป ไม่ถึง 10 นาทีสี่แยกแรก (มีอุโมงค์ให้หมุดไปจนถึงสี่แยกนี้นะคะ แค่ลงทาง Porta underground shopping อะคะ) ข้ามถนน ไปหน้า lawson แล้ว เดืนเข้าซอยตรงข้าม ถึงแล้วคะที่พักเราคืนนี้ kyoto hana hostel
ห้าง yodabashi มีพูดภาษาไทยด้วย และดูเหมือนห้างนี้ปลอดภาษีคะ มีป้ายติดไว้หน้าห้างเลย free taxไม่แน่ใจเป็นช่วงลดราคาพิเศษอะไรป่าวนะคะ หรือ free ตลอดก้อไม่รู้
จบวันที่ 7 คะ