อ่านรีวิวของเพื่อนๆในพันธุ์ทิพย์มาเยอะมาก คราวนี้ขอลองดูซักครั้ง หากขาดตกบกพร่องประการใด ขอรับคำแนะนำไปปรับปรุงนะครับ ^^
ทริปนี้แก็งค์ซาตี๋มีวันหยุดยาวช่วงวันแม่ 3 วัน 2 คืน จึงชวนไปเที่ยวพัทยากัน โดยมีคุณย่าและครอบครัวของเราไปกันทั้งหมด 6 คน โดยคืนแรกเราพักกันที่โรงแรม Eastin Pattaya และคืนที่สองพักที่ Pullman Hotel G Pattaya ครับ
เราออกจากสมุทรสาครประมาณเที่ยงและมาถึงพัทยาประมาณบ่ายสาม โดยที่พักคืนแรก Eastin Pattaya เราได้จองห้องพักแบบ Theme Suite ไว้ ซึ่งห้องแบบนี้มีห้องเดียวในโรงแรมครับ เป็นห้องที่รอบรับ 6-8 คน มีที่นอนแบบเบาะรองนอน (ไม่ใช่เตียง) และแบ่งเป็นที่นอน 2 ชั้นครับ
ภาพบริเวณที่นอน เป็นแบบฟูกปูไว้ที่พื้น และมี 2 ชั้นครับ มีบันไดขึ้น และมีสไลเดอร์ไว้ให้ลื่นลงครับ ^^
ภาพบริเวณนั่งเล่น มีทีวี LED โซฟา และเกมส์ประเภทกระดานไว้ให้เล่นกันครับ ^^
ภาพบริเวณห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้าย ไว้ทำภารกิจทั้งหนักและเบา มีโถสำหรับอาเจียรด้วยนะครับ
ส่วนห้องทางขวาจะเป็นห้องอาบน้ำแบบตู้ Shower และตู้เสื้อผ้าครับ
ภาพบรรยากาศในห้องครับ ^^
หลังจากเก็บของและพักซักแปป พวกเราก็พากันออกมาทานอาหารกัน วันนี้ให้คุณย่าเลือกว่าอยากทานอะไร
จึงมาลงที่ร้านปรีชาซีฟู้ดส์ครับ มาถึงร้านตอนหกโมงกว่า คนเยอะเป็นปกติ
วันที่ 2 ตอนเช้าเราทานอาหารกันที่โรงแรมและออกมาหากิจกรรมทำ ซึ่งแก็งค์ซาตี๋ก็เลือกเล่นโกคาร์ท เพราะยังไม่เคยลองเล่นมาก่อน
เราจึงมาที่ สนามโกคาร์ท พัทยาสปีดเวย์ ครับ ค่าใช้จ่ายสำหรับสนามซ้อมและสนามเด็กคือ 300 บาท/ 10 นาที
จากนั้นสามซ่าแก็งค์ซาตี๋ก็มาที่ Ripley Believe it or not!!! กันต่อครับ ซึ่งที่นี่มาเครื่องเล่นหลายอย่างเลยครับ
คราวนี้เราซื้อแพ็คเกจมาจากงานท่องเที่ยวไทย เป็นแบบชุด 3 คนๆละ 3 อย่าง (ไม่รวมบอลลูน) ราคา 1,000 บาท
ซึ่งจะถูกกว่ามาซื้อด้านหน้าพอสมควรครับ ^^
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทูโซครับ
ออกมาก็มาหล่อมือตัวเองจากขี้ผึ้งกันครับ มีค่าใช้จ่ายอันละ 200 บาท หากทำเป็น 2 สี ราคา 250 บาทครับ
เสร็จจากเล่นเครื่องเล่นแก็งค์ซาตี๋ก็เดินทางไปเช็คอินที่โรงแรมสำหรับคืนที่ 2 นี้ครับ
คืนนี้เราพักที่ Pullman Hotel G Pattaya ครับ เนื่องจากเราจองในช่วงโปรโมชั่นของแอคคอร์จึงได้ราคาพิเศษครับ
ภาพบริเวณโถงล้อบบี้ ระหว่างรอเช็คอินครับ
เนื่องจากห้องของเรายังไม่พร้อม (ขนาดมาตอนบ่ายสองโมงครึ่งนะ) แก็งค์ซาตี๋จึงเดินไปเล่นกันที่ Kids Club เพื่อรอเวลาครับ
บริเวณคิดส์คลับจะมี 3 ห้อง คือ ห้องเด็กเล็ก ห้องปิงปองและโต๊ะพูล และห้องเล่นวีดีโอเกมส์(เสียค่าใช้จ่าย) ครับ
แก็งค์ซาตี๋เข้ามาเล่นในห้องปิงปองกันครับ
ปล.เนื่องจากได้ห้องช้า ทางโรงแรมจึงอัพเกรดให้พวกเราสามารถใช้บริการที่ซันเซ็ตเลาน์จได้โดยสามารถกินของว่างและเครื่องดื่มได้ฟรีตั้งแต่เวลา 17.30-18.30 น. รวมทั้งสามารถไปกินมื้อเช้าที่นี่ได้เลยครับ ^^
ประมาณบ่ายสามโมงครึ่งเราก็ได้ห้องพัก เป็นห้องแบบ Family Suite ซึ่งในห้องจะแบ่งเป็นพื้นที่ห้องใหญ่และห้องเด็กครับ
ในส่วนของห้องเด็กจะมีเตียง 2 ชั้น และเครื่องเล่นเกมส์เพล์ยไว้ให้ ^^
หลังจากเก็สัมภาระพวกเราก็ออกมาเล่นน้ำกันที่สระว่ายน้ำของโรงแรม ซึ่งจะอยู่บริเวณริมทะเลครับ
ที่นี่มีสระ 2 สระครับ ระดับลึกที่สุดน่าจะประมาณ 2 เมตรกว่าครับ
บริเวณริมทะเลจะมีที่นั่งไว้ให้นั่งชิลๆ หรือใครอยากจะเป็นส่วนตัวก็มี Cabana ไว้ให้บริการโดยมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 1500 บาท โดยจะสามารถรับบริการนวดฟรีระยะเวลา 1.30 ชั่วโมงครับ
ในเวลา 17.00 น.จะมีช่วง Happy Hours สามารถซื้อเครื่องดื่ม Cocktail และ Mocktail ได้ในราคา 50% ครับ
หลังจากว่ายน้ำกันเสร็จก็ได้เวลามื้อเย็น แก็งค์ซาตี๋สรุปกันว่าอยากจะกินอาหารประเภทสเต็ก และจากการสอบถามอากู๋แล้ว มีคำแนะนำว่าที่พัทยา ร้านสเต็กที่อร่อยคือที่ร้าน Beefeater อยู่บริเวณพัทยากลาง ใกล้กับวิลล่ามาเกต ซึ่งจะอยู่หลังห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลครับ
แผนที่
ข้อมูลร้านครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sasiseesom&month=06-2013&date=14&group=6&gblog=114
พวกเราไปจอดรถกันในบริเวณวิลล่ามาเกต หากซื้อของจากร้านค้าในบริเวณวิลล่ามาเกตและนำบัตรจอดรถไปแสตมป์ก็จะไม่เสียค่าจอดครับ
จากนั้นก็เดินไปที่ร้านซึ่งอยู่ไม่ไกล พอเข้ามาในร้านพวกเราเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยครับ เพราะไม่มีคนไทยเลยนอกจากพนักงานเสริฟ
แนะนำว่าถ้าจะมาร้านนี้ควรโทรจองไว้ครับ พวกเราค่อนข้างโชคดีที่มีที่นั่งว่างพอดีเลยไม่ต้องรอ
รสชาดอาหารค่อนข้างดีครับ ราคาสเต็ก 200 กรัม ประมาณจานละ 500-600 บาท
พวกเรากินกันเสร็จประมาณ 3 ทุ่มกว่าจึงกลับที่พักไปนอนดูหนังที่ห้องด้วยกันต่อ
วันที่ 3 พวกเรามากินมื้อเช้ากันที่ซันเซตเลาน์จซึ่งเราได้รับการอัพเกรดมา โดยผมเข้าใจว่าอาหารที่เลาน์จนี้จะคุณภาพดีกว่า สังเกตว่ามีแซลมอลรมควัน และการบริการก็จะมีพนักงานมาคอยบริการจดเออร์เดอร์ด้วยครับ
เสร็จจากมื้อเช้า พวกเราก็เตรียมเก็บของและเช็คเอาท์ จากนั้นก็มาแวะที่ มิโมซ่า กันก่อนที่จะเดินทางกลับ
ที่มิโมซ่ามีค่าเข้า 150 บาทต่อคน เด็กคนละ 75 บาท โดยตั๋วสามารถนำไปใช้เป็นบัตรชมภาพวาด 3D หรือชมสวนสัตว์ได้อย่างใดอย่างนึงครับ
เดินเข้ามาเราก็เจอบ้านกลับหัว เลยเข้าไปดูพร้อมกับถ่ายภาพมาซะหน่อย
ปล.นางแบบทำท่าไม่เนียนเลย 55555
เดินมาซักพักก็เจอห้องภาพ 3D ครับ
ปล.สงสัยตากล้องจะฝีมือไม่ถึง เอ...หรือว่านางแบบทำท่าไม่เนียนนะเนี่ยะ 55555
บรรยากาศในมิโมซ่าครับ
ออกจากมิโมซ่าแก็งค์ซาตี๋ก็ตรงกลับบ้านเลยครับเนื่องจากกลัวว่ารถจะติด ดังนั้นจึงขอจบการรีวิวทริปพัทยาของเราไว้เท่านี้นะครับ ^^
พบกันใหม่ทริปหน้า คาดว่าจะเป็นที่ หินตกริเวอร์แคมป์ กาญจนบุรี ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ครับ ^^
[CR] มินิรีวิวครั้งแรก แก็งค์ซาตี๋@พัทยา นอนห้องโจรสลัดที่ Eastin Pattaya เล่นน้ำริมหาดที่ Pullman Hotel G
ทริปนี้แก็งค์ซาตี๋มีวันหยุดยาวช่วงวันแม่ 3 วัน 2 คืน จึงชวนไปเที่ยวพัทยากัน โดยมีคุณย่าและครอบครัวของเราไปกันทั้งหมด 6 คน โดยคืนแรกเราพักกันที่โรงแรม Eastin Pattaya และคืนที่สองพักที่ Pullman Hotel G Pattaya ครับ
เราออกจากสมุทรสาครประมาณเที่ยงและมาถึงพัทยาประมาณบ่ายสาม โดยที่พักคืนแรก Eastin Pattaya เราได้จองห้องพักแบบ Theme Suite ไว้ ซึ่งห้องแบบนี้มีห้องเดียวในโรงแรมครับ เป็นห้องที่รอบรับ 6-8 คน มีที่นอนแบบเบาะรองนอน (ไม่ใช่เตียง) และแบ่งเป็นที่นอน 2 ชั้นครับ
ภาพบริเวณที่นอน เป็นแบบฟูกปูไว้ที่พื้น และมี 2 ชั้นครับ มีบันไดขึ้น และมีสไลเดอร์ไว้ให้ลื่นลงครับ ^^
ภาพบริเวณนั่งเล่น มีทีวี LED โซฟา และเกมส์ประเภทกระดานไว้ให้เล่นกันครับ ^^
ภาพบริเวณห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้าย ไว้ทำภารกิจทั้งหนักและเบา มีโถสำหรับอาเจียรด้วยนะครับ
ส่วนห้องทางขวาจะเป็นห้องอาบน้ำแบบตู้ Shower และตู้เสื้อผ้าครับ
ภาพบรรยากาศในห้องครับ ^^
หลังจากเก็บของและพักซักแปป พวกเราก็พากันออกมาทานอาหารกัน วันนี้ให้คุณย่าเลือกว่าอยากทานอะไร
จึงมาลงที่ร้านปรีชาซีฟู้ดส์ครับ มาถึงร้านตอนหกโมงกว่า คนเยอะเป็นปกติ
วันที่ 2 ตอนเช้าเราทานอาหารกันที่โรงแรมและออกมาหากิจกรรมทำ ซึ่งแก็งค์ซาตี๋ก็เลือกเล่นโกคาร์ท เพราะยังไม่เคยลองเล่นมาก่อน
เราจึงมาที่ สนามโกคาร์ท พัทยาสปีดเวย์ ครับ ค่าใช้จ่ายสำหรับสนามซ้อมและสนามเด็กคือ 300 บาท/ 10 นาที
จากนั้นสามซ่าแก็งค์ซาตี๋ก็มาที่ Ripley Believe it or not!!! กันต่อครับ ซึ่งที่นี่มาเครื่องเล่นหลายอย่างเลยครับ
คราวนี้เราซื้อแพ็คเกจมาจากงานท่องเที่ยวไทย เป็นแบบชุด 3 คนๆละ 3 อย่าง (ไม่รวมบอลลูน) ราคา 1,000 บาท
ซึ่งจะถูกกว่ามาซื้อด้านหน้าพอสมควรครับ ^^
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทูโซครับ
ออกมาก็มาหล่อมือตัวเองจากขี้ผึ้งกันครับ มีค่าใช้จ่ายอันละ 200 บาท หากทำเป็น 2 สี ราคา 250 บาทครับ
เสร็จจากเล่นเครื่องเล่นแก็งค์ซาตี๋ก็เดินทางไปเช็คอินที่โรงแรมสำหรับคืนที่ 2 นี้ครับ
คืนนี้เราพักที่ Pullman Hotel G Pattaya ครับ เนื่องจากเราจองในช่วงโปรโมชั่นของแอคคอร์จึงได้ราคาพิเศษครับ
ภาพบริเวณโถงล้อบบี้ ระหว่างรอเช็คอินครับ
เนื่องจากห้องของเรายังไม่พร้อม (ขนาดมาตอนบ่ายสองโมงครึ่งนะ) แก็งค์ซาตี๋จึงเดินไปเล่นกันที่ Kids Club เพื่อรอเวลาครับ
บริเวณคิดส์คลับจะมี 3 ห้อง คือ ห้องเด็กเล็ก ห้องปิงปองและโต๊ะพูล และห้องเล่นวีดีโอเกมส์(เสียค่าใช้จ่าย) ครับ
แก็งค์ซาตี๋เข้ามาเล่นในห้องปิงปองกันครับ
ปล.เนื่องจากได้ห้องช้า ทางโรงแรมจึงอัพเกรดให้พวกเราสามารถใช้บริการที่ซันเซ็ตเลาน์จได้โดยสามารถกินของว่างและเครื่องดื่มได้ฟรีตั้งแต่เวลา 17.30-18.30 น. รวมทั้งสามารถไปกินมื้อเช้าที่นี่ได้เลยครับ ^^
ประมาณบ่ายสามโมงครึ่งเราก็ได้ห้องพัก เป็นห้องแบบ Family Suite ซึ่งในห้องจะแบ่งเป็นพื้นที่ห้องใหญ่และห้องเด็กครับ
ในส่วนของห้องเด็กจะมีเตียง 2 ชั้น และเครื่องเล่นเกมส์เพล์ยไว้ให้ ^^
หลังจากเก็สัมภาระพวกเราก็ออกมาเล่นน้ำกันที่สระว่ายน้ำของโรงแรม ซึ่งจะอยู่บริเวณริมทะเลครับ
ที่นี่มีสระ 2 สระครับ ระดับลึกที่สุดน่าจะประมาณ 2 เมตรกว่าครับ
บริเวณริมทะเลจะมีที่นั่งไว้ให้นั่งชิลๆ หรือใครอยากจะเป็นส่วนตัวก็มี Cabana ไว้ให้บริการโดยมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 1500 บาท โดยจะสามารถรับบริการนวดฟรีระยะเวลา 1.30 ชั่วโมงครับ
ในเวลา 17.00 น.จะมีช่วง Happy Hours สามารถซื้อเครื่องดื่ม Cocktail และ Mocktail ได้ในราคา 50% ครับ
หลังจากว่ายน้ำกันเสร็จก็ได้เวลามื้อเย็น แก็งค์ซาตี๋สรุปกันว่าอยากจะกินอาหารประเภทสเต็ก และจากการสอบถามอากู๋แล้ว มีคำแนะนำว่าที่พัทยา ร้านสเต็กที่อร่อยคือที่ร้าน Beefeater อยู่บริเวณพัทยากลาง ใกล้กับวิลล่ามาเกต ซึ่งจะอยู่หลังห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลครับ
แผนที่
ข้อมูลร้านครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sasiseesom&month=06-2013&date=14&group=6&gblog=114
พวกเราไปจอดรถกันในบริเวณวิลล่ามาเกต หากซื้อของจากร้านค้าในบริเวณวิลล่ามาเกตและนำบัตรจอดรถไปแสตมป์ก็จะไม่เสียค่าจอดครับ
จากนั้นก็เดินไปที่ร้านซึ่งอยู่ไม่ไกล พอเข้ามาในร้านพวกเราเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยครับ เพราะไม่มีคนไทยเลยนอกจากพนักงานเสริฟ
แนะนำว่าถ้าจะมาร้านนี้ควรโทรจองไว้ครับ พวกเราค่อนข้างโชคดีที่มีที่นั่งว่างพอดีเลยไม่ต้องรอ
รสชาดอาหารค่อนข้างดีครับ ราคาสเต็ก 200 กรัม ประมาณจานละ 500-600 บาท
พวกเรากินกันเสร็จประมาณ 3 ทุ่มกว่าจึงกลับที่พักไปนอนดูหนังที่ห้องด้วยกันต่อ
วันที่ 3 พวกเรามากินมื้อเช้ากันที่ซันเซตเลาน์จซึ่งเราได้รับการอัพเกรดมา โดยผมเข้าใจว่าอาหารที่เลาน์จนี้จะคุณภาพดีกว่า สังเกตว่ามีแซลมอลรมควัน และการบริการก็จะมีพนักงานมาคอยบริการจดเออร์เดอร์ด้วยครับ
เสร็จจากมื้อเช้า พวกเราก็เตรียมเก็บของและเช็คเอาท์ จากนั้นก็มาแวะที่ มิโมซ่า กันก่อนที่จะเดินทางกลับ
ที่มิโมซ่ามีค่าเข้า 150 บาทต่อคน เด็กคนละ 75 บาท โดยตั๋วสามารถนำไปใช้เป็นบัตรชมภาพวาด 3D หรือชมสวนสัตว์ได้อย่างใดอย่างนึงครับ
เดินเข้ามาเราก็เจอบ้านกลับหัว เลยเข้าไปดูพร้อมกับถ่ายภาพมาซะหน่อย
ปล.นางแบบทำท่าไม่เนียนเลย 55555
เดินมาซักพักก็เจอห้องภาพ 3D ครับ
ปล.สงสัยตากล้องจะฝีมือไม่ถึง เอ...หรือว่านางแบบทำท่าไม่เนียนนะเนี่ยะ 55555
บรรยากาศในมิโมซ่าครับ
ออกจากมิโมซ่าแก็งค์ซาตี๋ก็ตรงกลับบ้านเลยครับเนื่องจากกลัวว่ารถจะติด ดังนั้นจึงขอจบการรีวิวทริปพัทยาของเราไว้เท่านี้นะครับ ^^
พบกันใหม่ทริปหน้า คาดว่าจะเป็นที่ หินตกริเวอร์แคมป์ กาญจนบุรี ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ครับ ^^