เที่ยวลาวใต้ เมืองปากซอง ที่ราบสูง บอละเวน อุทยานแห่งชาติ ดงหัวสาว 9-11 ส.ค. 2557 3 วัน 2 คืน กับความประทับใจ !!!

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า กลุ่มของผมมีน้องๆ และ พี่ๆ ที่เขาได้มีโอกาศไปเที่ยวลาวบ่อย มาเล่าให้ผมฟัง แต่ส่วนใหญ่เขาจะไปเที่ยวปากเซ ปากซองก็เที่ยวแถวพวกตาด (น้ำตก) ที่เอารถเข้าไปถึงนั้นละ ต่างจากที่เเห่งนี้ต้องเดินเท้าเข้าไป
    ผมเห็นถ่ายรูปมาเย้ยหยันความต้องการ มันน่านัก!!! ผมมีโอกาศจะต้องไปเยือนให้ได้ และแล้ววันนี้ก็มาถึงเมื่อไปเห็นพวกเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ไปเที่ยวที่แห่งนี้ในเว็บ ในกระทู้ต่างๆ เลยได้ศึกษาหาข้อมูลก่อนที่จะไป เห็นแต่ละท่านลงรูป โอ้ว!! แม่เจ้ามันน่าไปสัมผัสอย่างมาก
    ส่วนใหญ่ข้อมูลที่ได้ก็มาจาก pantip นี่ล่ะครับ ผมมีเวลาศึกษาหาข้อมูลจากที่ไม่เคยรู้เลยว่ามีที่เที่ยวแห่งนี้ประมาณ 10 วัน หลังจากที่ได้รู้ว่าตัวเองมีวันหยุดอยู่ทั้งหมด 4 วัน 9-12 สิงหาคม 2557  เริ่มหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดในการเดินทาง ศึกษาเรื่องเส้นทางในการเดินทาง ระยะทางในการเดินป่า คิดว่าคงไม่อะไรมากมาย เพราะ ภูกระดึง 45 กม. ยังเดินกันมาแล้ว ศึกษาภูมิประเทศ ,ภูมิอากาศ ว่าฝนต้องตกทั้งวัน มีหมอก อากาศจะต้องหนาวว่าเราจะต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ,คำนวณค่าใช้จ่ายในการเดินทาง , คำนวนเวลาในการเดินทาง
    แต่มีสิ่งที่ไม่รู้เลยคือว่าจะต้องติดต่อใครยังไง ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียในการจ้างไกด์ ลูกหาบเขาคิดกันยังไง
เพราะไม่เคยไปมาก่อน และ เพื่อนๆที่รีวิวก็ไม่เห็นลงรายละเอียดให้ครบ และคงเป็นเพราะพวกผมมีเวลากันน้อยในการเตรียมตัว เลยทำให้ทุกอย่าง ไม่ค่อยจะลงตัวเท่าไหร่อาศัยว่าเป็นคนพื้นเพ จ.อุบลราชธานี อ.พิบูลมังสาหาร โดยกำเหนิด เที่ยวช่องเม็กก็บ่อย เพื่อนๆ พี่ๆ ก็เอารถลงไปเที่ยวกันเองบ่อย คงไม่ยากในการสอบถามการเดินทางในครั้งนี้ ก่อนการเดินทางครั้งนี้เราเรามีนัดกันไว้ทั้งหมด 6 คน หรือถ้ามากกว่านี้เราจะเอารถตู้ไป แต่สุดท้ายเหลือแค่ 4 คนเลยเอาเก๋งไปกว่าจะชัวร์เรื่องจำนวนสมาชิก ก็วันสุดท้ายก่อนการเดินทาง
    สรุปทุกอย่างลงตัวผมก็เริ่มจองตั๋วทั้งไป ทั้งกลับ จาก กรุงเทพ <> อุบลราชธานี วางแผนการเดินทาง รถออกจากหมอชิต 20.30 น. กะถึงประมาณ 7-8 โมงเพราะเดินทางวันศุกร์ที่ 8 รถคงติดน่าดู


จัดเตรียมอุปกรณ์ ทุกอย่างพร้อมลงกระเป๋าก่อนการเดินทาง



20.30 น. ได้เวลารถออกเเล้วถ่ายรูปเป็นหลักฐานก่อนการเดินทาง

07.40 น. เดินทางถึง อ.พิบูล จ.อุบล เเล้วขึ้นรถโดยสารเพื่อเดินทางต่อเพื่อไปขึ้นรถที่บ้านใช้เวลาประมาณ 20 นาที



เวลา 10.00 น. เดินทางถึงบ้านรวมตัว ล้อหมุนสู่ด่านช่างเม็ก ระยะทาง 40 กม.



เวลา 10.50 น. เดินทางถึงด่านช่องเม็ก ทำบัตรผ่านด่านชั่วคราวอยู่ได้ 7 วัน คนละ 50 บาท


เวลา 11.30 น. ต่อเเถวเพื่อรอยื่นเอกสารผ่านด่านไปฝั่งลาว ผ่านเขตนี้ไปเเล้วเราจะต้องเสียค่าธรรมเนียมที่ฝั่งราวอีก คนละ 100 บาท ได้ยินมาว่าบางวันก็ 50 บาท สงสัยวันหยุดเลยต้อง 100 ค่ารถผ่านด่าน 400 บาท

เราต้องเดินทางผ่านเมืองปากเซ ระยะทาง 50 กม. ข้ามสะพานแม่น้ำโขง ลาว-ญี่ปุ่น เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองปากซองอีก 50 กม.

ในระหว่างทางข้ามปากเซมาเเล้ว เริ่มเข้าเขตุเมืองปากซอง เราต้องผ่านโรงงานกาเเฟดาว *เอิ้นดาวกะได้*

ระยะทางที่ขับมาเราจะผ่านผ่านตาดต่างๆ (น้ำตก) เเต่เราไม่ได้เเวะเนื่องจากกลัวเวลาไม่พอ จากปากเซมาระยะ 50 กม. ตลอดเส้นทางจะมีขายผลไม้ เงาะ ทุเรียน สัปรส อะโวคาโด้ ผักต่างๆ เราเเวะซื้อของเพื่อเป็นเสบียงสำหรับวันนี้ อากาศเริ่มเย็น หูอื้อเป็นครั้งคราวเนื่องจากเส้นทางระยะ 50 กม. จะค่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆเเบบไม่รู้ตัว




15.00 น. จากการที่จอดถามไถ่ชาวบ้านหาทางเข้า บ้านหนองหลวง ว่าระยะทางเข้ากี่ กม. ชาวบ้านบอกว่า ประมาณ 12 กม. รถผมจะเข้าได้ไหม จากสายตายืนจ้องมาสักพักชาวบ้านบอกว่าไม่ได้ เอาเเล้วงานเข้าซะเเล้ว เเต่เราก็ลองไปดู เลี้ยวซ้ายเข้ามายังไม่ทันถึง 300 เมตร เอาซะเเล้วเจอด่านเเรกจอดเลย ชาวบ้านบอกว่าระยะทางข้างหน้าหนักกว่านี้ไม่มีใครเอาเก๋งเข้าไปหลอก ติดต่อว่าเเล้วผมจะเข้าไปยังไง พวกผมเลยถามหารถเช่ากะว่าจะเช่ามอไซต์เข้าไปเเต่ก็ไม่มี ถามหารถเหมา รถโดยสารก็ไม่วิ่งเเล้วเพราะมันบ่าย 3 เเล้ว โชคดีมีรถอีเเต๋น หรือรถเเต๊กๆ ที่ชาวบ้านเขาเรียกกัน โบกสิครับถามว่าจะไปข้างในหรือเปล่า พี่เขาบอกว่าเข้าไปในหนองหลวงเเต่ไม่ถึง เหลืออีก 2 กม. ถึงเลยขออาศัยพี่เขาไป บอกว่าจะจ่ายค่าน้ำมันขอติดรถเข้าไปข้างใน ตกลงเสร็จสรรพ จับกระเป๋าโยนขึ้นรถ เพื่อออกเดินทางทันที พี่เขาบอกว่า เดี๋ยวไปส่งถึงในหนองหลวงเลย เพราะเดินต่อคงไม่ได้เพราะไกล้มืดเเล้ว




16.30 น. เราก็เดินทางมาถึงบ้านหนองหลวง ในระหว่างทางเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาก็มีการถามไถ่เรื่องการเดินทางเข้า-ออก เพื่อเป็นข้อมูลในการเดินทางครั้งต่อไป มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่งั้นเปิดหงส์ฉลองเลยเเล้วกัน พอมาถึงหนองหลวงพี่เขาก็ช่วยตระเวณสอบถาม เรื่องที่พักว่าเราจะพักกันได้ที่ไหน เพราะต้องมีการติดต่อพ่อบ้านบอกกล่าวก่อนเข้าพัก วันนี้คิดว่ามันเริ่มจะมืดเเล้วฝนเริ่มตกเราคงไม่ได้เดินทางต่อ !!!






17.00 น. เราเดินหาบ้านที่จะติดต่อเรื่องการเดินทางได้เเล้ว โชคดีมาเจอกลุ่มที่มาก่อนเราเป็นคนไทยเหมือนกัน เเต่ประเด็นว่าขณะนั้นเรายังไม่ได้ไกด์ เพื่อนำทางเราเเต่เราอยากจะเดินทางนะตอนนั้น ฝนก็เริ่มตกเเล้วรู้สึกจะหนักขึ้นทุกที เราเลยขอว่าให้ผมขึ้นไปกับกลุ่มพี่เขาก่อนได้ไหม เพราะคืนนี้อยากนอนบนด่านใหญ่ เรื่องไกด์หาได้เเล้วค่อยตามผมขึ้นไป เพราะยังไงผมก็ต้องมีไกด์นำทาง เป็นกฏของที่นี่ครับ นักท่องเที่ยว  2 ต่อ ไกด์ 1 คน กลุ่มที่มาถึงก่อนเรา พี่เขาก็ดีรอพวกเราบอกว่าของทุกอย่างพร้อมหรือยัง พี่เขาจะรอเดินไปด้วยกัน มีของเยอะไหมพี่เขาจะช่วยเเบกไปก่อน ยอมรับว่าช่วงนั้นชุลมุนมาก ของจะเเบกก็ยังไม่เคลียร์ ฝนก็ตกหนัก มากัน 4 คนเเต่หอบของยังกะมากัน 10 คน ก็เล่นเจออะไรซื้อหมด เพราะคิดว่าจะเอารถเข้ามาถึงเเล้วเคลัยร์ของ สุดท้ายก็ได้ไกด์ หรือ ลูกหาบ 2 คนเตรียมตัวออกเดินทางต่อ ฝนตกอากาศหนาวเเล้ว ต้องรีบเดินทางเพราะอย่างน้อยมี 3 ชม. กว่าจะถึง เพราะระยะทางประมาณ 6 กม. ได้ ขณะนี้ 17.30 น. เเล้วฝนตกเริ่มออกเดินทางกัน !!!!




17.50 น. เดินทางได้ 20 นาทีฝนเริ่มหยุดตก อยากถ่ายรูปเก็บบรรยากาศเเล้ว ได้เบยลาว เป็นเพื่อนเหงายามเดินทางพอได้จิบให้คลายกระหาย !!!




เดินมาอีกนิดเราก็มาถึงป้ายทางเข้าเขตุอุทยาน ร่วมถ่ายรูปเป็นหลักฐาน เเบ่งปันสัมภาระให้ลูกหาบ ให้เท่าเทียมกันก่อนเดินทางต่อ สังเกตุดูลูกหาบจะเดินตามหลังพวกเรา เพราะก่อนหน้านี้ที่บอกว่าลูกหาบยังไม่ได้ เเต่เราขอเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ก็เพราะกลัวมันมืดค่ำ จะไม่ได้นอนบนด่านใหญ่ !!!

18.10 น. มาถึงตรงนี้เราต้องข้ามน้ำไป ข้างล่างน้ำเเรงมาก ซึ่งเป็นน้ำที่ไหลจากน้ำตกข้างบนที่เราจะไป เส้นทางที่เราเดิน เต็มไปด้วยต้นกาเเฟของชาวบ้าน เพราะ บอละเวน เป็นเเหล่งปลูกกาแฟที่ขึ้นชื่อติดอันดับของโลก!!!








18.40 น. หลังจากข้ามน้ำมา ฟ้าเริ่มมืด นับตั้งเเต่บัดนี้เราต้องเดินทางฝ่าความมืด เพื่อลงทางชันลงไปเรื่อยๆ สลับกับขึ้นเนินบ้างตามเส้นทาง ที่มีไกด์ผู้เชียวชาญ เป็นผู้นำทาง เราจึงได้ควักไฟฉายที่เราได้เตรียมไว้ส่องสว่างนำทางออกมาใช้งาน



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่