๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ขอเอาคำถามที่เพื่อนสมาชิกถามไว้ มาตั้งเป็นกระทู้ตอบครับ

ขอบคุณทุกๆท่าน  ที่ช่วยกด + โหวตให้ครับ

อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17






ตอบคุณ innerpeace 152

สำหรับผม  มันขึ้นอยู่ที่เป้าหมายที่ผมจะซื้อหุ้นตัวนั้นครับ

เป้าหมายหลักของผม    
คือได้เงินปันผลมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำธนาคารซักสองเท่าขึ้นไป

พอเป้าหมาย ไม่ได้อยู่ที่จะให้ราคาหุ้นที่ซื้อ
ขึ้นไปเป็นเท่าๆหรือหลายเท่าๆ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
เท่ากับผมได้ใช้ความสามารถที่ตัวเองทำได้ดีที่สุด  ได้เต็มที่

แต่เมื่อไร ราคาหุ้นเพิ่มมาก
จนยีลด์เงินปันผลของหุ้น ลดลงมาใกล้เคียงเงินฝากประจำธนาคาร
ก็จะขายทิ้งไปถือตัวอื่น  หรือไม่ก็ขายเอาเงินต้นออกมาก่อน  
เหลือหุ้นส่วนหนึ่ง ไว้ลุ้นปันผล กับผลประกอบการต่อไปครับ


ดังนั้น  ตราบใดที่หุ้นตัวนั้น  ให้ผลตอบแทนดีกว่า
การอยู่เฉยๆ  โดยไม่ต้องเสี่ยง หรือเงินฝากประจำของธนาคาร
ผมก็จะถือไปเรื่อยๆ   จนกว่าจะหาตัวอื่นที่คิดว่าดีกว่า ตัวที่ถืออยู่ได้ครับ
หรือไม่ ถ้าได้ปันผลต่ำกว่าเงินฝากธนาคาร
ก็จะต้องเป็นหุ้นที่ ผลประกอบการโตต่อเนื่อง
ทั้งรายได้ กำไรและเงินปันผลต่อหุ้น

หรือไม่ก็ มีเจ้ามือกำลังปั่น  
โดยมีสื่อต่างๆ บวกกับนักวิเคราะห์เป็นกองเชียร์  
อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16


มันเป็นเหตุผลด้านผลประกอบการโตต่อเนื่อง
ที่ทำให้ผมตัดใจขายหุ้นฟาร์มเฮ้าส์ไม่ลงครับ

ส่วนหุ้นบางตัว  ก็ถือรอเพื่อขาย
เมื่อเชื่อว่าเจ้ามือปั่นราคาหุ้น  
จนแต้มต่อด้านราคาหุ้นมันหมดแล้ว(รายย่อยไม่ยอมจ่ายแพงเพื่อลุ้นกำไรส่วนเกินทุนจากราคาหุ้น)
อย่างเช่น ifec  epco maco  ฯลฯ

สำหรับผม  การถือหุ้นรอซักหกเดือน  เป็นเรื่องที่ทำได้สบายมากๆเลย  



เพราะผม ไม่เอาพอร์ตตัวเอง ไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จอันรวดเร็วของคนอื่นๆ




แต่ถือๆไปแล้ว   หุ้นส่วนใหญ่  
ส่วนเกินทุนจากราคาหุ้น
มันจะวิ่งเข้ามาหาเราเอง

ผมจะคิดแบบนี้

เพราะเป้าหมายต่ำแต่ต้น  ผลตอบแทนเลยมักจะเกินความคาดหมายเสมอๆ ครับ


อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16




แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่