หลายปีมานี้...ผมพบผู้คนไม่น้อย ที่มี
"เสี้ยวของพระอาทิตย์" อยู่ในตัว
.
จิตใจของพวกเขาลุกโชนด้วย
"เปลวไฟแห่งความหวัง" ตลอดเวลา
.
ไม่เกี่ยวกับเพศ วัย ฐานะ การศึกษา อาชีพ ( หรือแม้แต่
"สังขาร" เพราะแม้ไม่ครบ 32 แต่ก็สู้ไม่ถอยกับอุปสรรคทั้งปวง)
.
ไม่ว่าจะเจออุปสรรคลำบากแค่ไหน หากลมหายใจยังมี พวกเขาไม่เคยล้มเลิกที่จะก้าวไปข้างหน้า
.
อ่า...ผมทำอย่างพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หรอกครับ
.
ทำไมน่ะหรือ? คนที่จะทำเช่นนั้นได้ มันต้องมีเป้าหมายในชีวิตที่แรงกล้า
.
ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นเพื่อผู้อื่น ( ครอบครัว , ประเทศชาติ , สังคมโลก )
.
ไม่ว่าจะเป็นความทะเยอทะยานเพื่อตนเอง ( เกียรติยศ , ความมั่งคั่ง , อำนาจ , การแก้แค้น )
.
เพราะสิ่งเหล่านี้ หลายคนจึงไม่กลัวความเหนื่อยยาก และไม่หวั่นแม้ความตาย
.
ทว่า...ผมไม่มีใจอยากร่ำรวย มีอำนาจ ( จริงๆ ผมรังเกียจเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ ใช่ครับ...ผมเกลียด
"การเมือง" แม้จะติดตามข่าวการเมืองตลอดก็ตาม การเมืองเป็นหนทางไปสู่ความชั่วร้ายครับ )
.
และไม่แคร์เรื่องเกียรติหรือหน้าตาภาพลักษณ์ อีกทั้งไม่มีศัตรูให้ต้องแก้แค้น
.
ขณะเดียวกัน ผมมักจะมีคำถาม และความลังเลสงสัยกับผู้อื่น สิ่งอื่นอยู่เสมอ
.
"ครอบครัว" นั้นคือสัญลักษณ์แห่ง
"รักแท้" จริงๆ หรือเปล่า? เพราะมีผู้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า
"พ่อแม่ก็ดี ผู้ใหญ่ก็ดี มักเลี้ยงดูเด็กๆ เพราะหวังให้พวกเขาเติบโตขึ้นมาเลี้ยงดูตนตอนชรา หรือไม่อย่างน้อยที่สุด ก็หวังให้เด็กๆ สร้างชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ต่อโลก เพราะตัวเองก็จะได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือผู้ปกครองดีเด่นเช่นกัน"
.
"ประเทศชาติ"คำๆ นี้มีอยู่จริงหรือเปล่า? หรือเป็นเพียง
"นิทานก่อนนอน" เพื่อให้คนมากมาย ทำงานและสละชีวิตเพื่อ
"ชนชั้นนำ" เพียงหยิบมือเท่านั้น
.
"สังคมโลก" เป็นสิ่งที่ควรปกป้องจริงหรือ? เมื่อมนุษย์นั้นมีแต่จะเอาเปรียบผู้ด้อยกว่า เจ้าเล่ห์ ดุร้าย หากไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ครอบครัวของตัวเอง หรือกลุ่มชนของตัวเอง มนุษย์ก็ละเลย หรือทำลายทิ้ง
"มิใช่เพื่ออยู่รอด แต่เพื่อความบันเทิง"
.
เมื่อไม่ทะเยอทะยานเพื่อตนเอง และไม่อาจไว้วางใจที่จะปกป้องผู้อื่น...
"เปลวไฟแห่งความหวัง" จึงไม่เกิด
.
บางที...ชีวิตที่ไม่ต้อง
"คิดมาก - ตั้งคำถามมาก - สงสัยมาก" แต่คิดแล้วทำเลย หวังแล้วทำเลย ถึงจะล้มบ้างลุกบ้าง ถึงจะมีคนนินทา ด่าว่าโง่บ้าง สิ้นคิดบ้าง เห็นแก่ตัวบ้าง เฉกเช่นชีวิตคนปกติทั่วไป อาจจะดีก็ได้นะครับ
.
เพราะอย่างน้อย...ชีวิตมันก็ยังได้เคลื่อนที่ มิใช่อยู่เฉยๆ ไร้สีสัน
.
.
.
( ไม่มีอะไร...แค่เบื่อๆ เลยบ่นโน่นนี่นั่น เลอะเทอะไปเรื่อยเปื่อยครับ โปรดอย่าถือสา )
.
ปล.ฝากเพลงกันหน่อย ( ถ้าหมดยุควงนี้ ผมยังนึกไม่ออกว่าจะมีใครมาแทน เพราะ Trend เพลงไทย หันไปหาพวก BB , GG หรือ Korean Style มากขึ้นเรื่อยๆ )
[เวิ่นเว้อ...เลอะเทอะไปเรื่อย] บางทีชีวิตง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก สงสัยเยอะ อาจจะดีก็ได้
.
จิตใจของพวกเขาลุกโชนด้วย "เปลวไฟแห่งความหวัง" ตลอดเวลา
.
ไม่เกี่ยวกับเพศ วัย ฐานะ การศึกษา อาชีพ ( หรือแม้แต่ "สังขาร" เพราะแม้ไม่ครบ 32 แต่ก็สู้ไม่ถอยกับอุปสรรคทั้งปวง)
.
ไม่ว่าจะเจออุปสรรคลำบากแค่ไหน หากลมหายใจยังมี พวกเขาไม่เคยล้มเลิกที่จะก้าวไปข้างหน้า
.
อ่า...ผมทำอย่างพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หรอกครับ
.
ทำไมน่ะหรือ? คนที่จะทำเช่นนั้นได้ มันต้องมีเป้าหมายในชีวิตที่แรงกล้า
.
ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นเพื่อผู้อื่น ( ครอบครัว , ประเทศชาติ , สังคมโลก )
.
ไม่ว่าจะเป็นความทะเยอทะยานเพื่อตนเอง ( เกียรติยศ , ความมั่งคั่ง , อำนาจ , การแก้แค้น )
.
เพราะสิ่งเหล่านี้ หลายคนจึงไม่กลัวความเหนื่อยยาก และไม่หวั่นแม้ความตาย
.
ทว่า...ผมไม่มีใจอยากร่ำรวย มีอำนาจ ( จริงๆ ผมรังเกียจเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ ใช่ครับ...ผมเกลียด "การเมือง" แม้จะติดตามข่าวการเมืองตลอดก็ตาม การเมืองเป็นหนทางไปสู่ความชั่วร้ายครับ )
.
และไม่แคร์เรื่องเกียรติหรือหน้าตาภาพลักษณ์ อีกทั้งไม่มีศัตรูให้ต้องแก้แค้น
.
ขณะเดียวกัน ผมมักจะมีคำถาม และความลังเลสงสัยกับผู้อื่น สิ่งอื่นอยู่เสมอ
.
"ครอบครัว" นั้นคือสัญลักษณ์แห่ง "รักแท้" จริงๆ หรือเปล่า? เพราะมีผู้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า "พ่อแม่ก็ดี ผู้ใหญ่ก็ดี มักเลี้ยงดูเด็กๆ เพราะหวังให้พวกเขาเติบโตขึ้นมาเลี้ยงดูตนตอนชรา หรือไม่อย่างน้อยที่สุด ก็หวังให้เด็กๆ สร้างชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ต่อโลก เพราะตัวเองก็จะได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือผู้ปกครองดีเด่นเช่นกัน"
.
"ประเทศชาติ"คำๆ นี้มีอยู่จริงหรือเปล่า? หรือเป็นเพียง "นิทานก่อนนอน" เพื่อให้คนมากมาย ทำงานและสละชีวิตเพื่อ "ชนชั้นนำ" เพียงหยิบมือเท่านั้น
.
"สังคมโลก" เป็นสิ่งที่ควรปกป้องจริงหรือ? เมื่อมนุษย์นั้นมีแต่จะเอาเปรียบผู้ด้อยกว่า เจ้าเล่ห์ ดุร้าย หากไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ครอบครัวของตัวเอง หรือกลุ่มชนของตัวเอง มนุษย์ก็ละเลย หรือทำลายทิ้ง "มิใช่เพื่ออยู่รอด แต่เพื่อความบันเทิง"
.
เมื่อไม่ทะเยอทะยานเพื่อตนเอง และไม่อาจไว้วางใจที่จะปกป้องผู้อื่น..."เปลวไฟแห่งความหวัง" จึงไม่เกิด
.
บางที...ชีวิตที่ไม่ต้อง "คิดมาก - ตั้งคำถามมาก - สงสัยมาก" แต่คิดแล้วทำเลย หวังแล้วทำเลย ถึงจะล้มบ้างลุกบ้าง ถึงจะมีคนนินทา ด่าว่าโง่บ้าง สิ้นคิดบ้าง เห็นแก่ตัวบ้าง เฉกเช่นชีวิตคนปกติทั่วไป อาจจะดีก็ได้นะครับ
.
เพราะอย่างน้อย...ชีวิตมันก็ยังได้เคลื่อนที่ มิใช่อยู่เฉยๆ ไร้สีสัน
.
.
.
( ไม่มีอะไร...แค่เบื่อๆ เลยบ่นโน่นนี่นั่น เลอะเทอะไปเรื่อยเปื่อยครับ โปรดอย่าถือสา )
.
ปล.ฝากเพลงกันหน่อย ( ถ้าหมดยุควงนี้ ผมยังนึกไม่ออกว่าจะมีใครมาแทน เพราะ Trend เพลงไทย หันไปหาพวก BB , GG หรือ Korean Style มากขึ้นเรื่อยๆ )