รากบุญถือเป็นละครน้ำดี แม้กระแสจะไม่แรง แต่ก็เป็นละครดีๆ ที่ควรค่าแก่การจดจำ
วันนี้เป็นตอนจบของรากบุญภาค 2 ในฐานะติ่งของละครเรื่องนี้ ขออนุญาตวิจารณ์บ้าง เนื่องจากชอบละครเรื่องนี้มาก จึงมีอะไรที่อยากพูดหลายอย่างเลยค่ะ
เริ่มจากคำชม
เนื้อหา
เรื่องนี้เนื้อหาดีอยู่แล้ว ว่าด้วยเรื่องของการเอาชนะกิเลส การต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว ซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่จะเห็นได้บ่อยในละครไทย เราว่าเรื่องนี้เป็นละครที่สะท้อนสังคมอย่างแท้จริง คือไม่ใช่แค่สะท้อนเพื่อความสะใจหรือแค่ให้เห็นความจริงที่เป็นอยู่ในสังคม แต่สะท้อนเพื่อให้คนได้คิด ได้รู้จักมองหา “กสิณ” หรือกิเลสที่อยู่ในตัวเอง ว่าตอนนี้มันเติบโตไปมากแค่ไหน แล้วเรายังมีโอกาส “ชำระ” มันได้ทันอยู่หรือไม่
ตัวละคร
อีกหนึ่งอย่างที่ต้องปรบมือดังๆ คือเรื่องนี้สามารถสร้างคาแรกเตอร์ของตัวละครออกมาได้มีมิติ ซึ่งละครไทยน้อยเรื่องมากที่จะทำได้แบบนี้ ที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะเป็น “พิมพ์อร” และ “เจติยา” ตัวแทนของด้านสว่างและด้านมืดที่ชัดที่สุด ขอชื่นชมคุณวุ้นเส้นที่ทำให้ตัวละครตัวนี้ออกมามีชีวิตชีวาและสมจริงมากๆ ด้วยท่าทางลักษณะการพูดที่ดูมีพลัง มีพาวเวอร์ สมกับเป็นผู้นำของบริษัทยักษ์ใหญ่ ด้วยตัวของคุณวุ้นเส้นที่สวยมากๆ อยู่แล้ว แต่งหน้าไม่จัด แต่ก็ดูร้ายด้วยคำพูดดูแคลน น้ำเสียงเย้ยหยันแบบคนมีการศึกษา การกระทำที่มีที่มาที่ไปว่าทำไมถึงต้องร้าย ทำไมต้องฆ่า (ขาดความอบอุ่น พ่อป่วย อดีตโดนทำร้ายร่างกาย โดนสิทธิพรดูถูกถากถางทุกครั้งที่เจอหน้า) คุณวุ้นเส้นเล่นได้ดี ไม่ขาดไม่เกิน สวยทุกท่วงท่า
ต่อมาคือเจติยา ชอบตรงที่นางเอกฉลาด มีความมั่นคงในความรัก รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เป็นคนมีเหตุผล ไม่หูเบา เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่อ่อนแอ หญิงไทยควรยกเธอเป็นไอดอลนะ รู้สึกว่าผู้หญิงแบบนี้แหละที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง มาร์กี้ก็เล่นได้ดีในแบบของมาร์กี้ เป็นแบบที่เราชอบมาตั้งแต่ภาคแรกเลย
การกระจายบท
อันนี้ก็สำคัญและรู้สึกว่าผู้กำกับสามารถกระจายบทให้ตัวละครทุกตัวดูมีความสำคัญในระดับที่เกือบๆ เท่ากัน ทั้งลุงทวี โอ้เอ้ ฐา พี่ผู้กอง นที อยุทธ์ ชาคร ทุกตัวละครที่รายล้อมรอบพระเอกนางเอกมีความเด่นชัดในตัวเอง ไม่ใช่แค่ตัวประกอบที่โผล่มาปล่อยมุกหรือเสริมบรรยากาศแค่สองสามฉากแล้วหายไป คือถ้าพูดถึงรากบุญก็จะนึกถึงไมค์ มาร์กี้ วุ้นเส้น ตามมาด้วยคนอื่นๆ ในเรื่องอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะคาแรกเตอร์เป็นที่จดจำไปแล้ว
มาที่คำวิจารณ์กันบ้าง...
นักแสดง
แน่นอนว่ายังมีหลายคนที่เล่นแข็ง ไม่ลื่นไหล ไม่เป็นธรรมชาติ ชัดๆ เลยคือ นที อยุทธ์ แต่คิดว่าฝีมือคงจะสามารถพัฒนาไปได้กว่านี้ ถ้าฝึกฝนเรื่องการแสดงอีกเยอะๆ
การตัดฉาก
ภาคนี้หนักกว่าภาคแรกตรงที่ปล่อยให้คนดูคิดเอาเอง “มากเกินไป” หลายตอนที่จู่ๆ โผล่มาก็มีเรื่องเลย ที่ชัดที่สุดคือตอนคุณเรนี่ มาถึงก็ตายแล้ว กว่าจะไปเฉลยว่าอะไรเป็นอะไรก็นู่นนน อีกอย่างที่ละครไม่บอกและตัดทิ้งไปดื้อๆ เลยคือคนที่อยุทธ์บอกว่าเป็นแฟน (ตอนที่ยังไม่คบกับเรนี่) หลังจากนั้นก็ไม่เห็นใครพูดถึงอีกเลยว่าผู้หญิงคนไหนไปไหน เลิกกันแล้ว? หรือแค่มาโกหกแฟนเก่าเรนี่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง? จุดนี้ผู้กำกับอาจจะอยากให้คนดูคิดเอาเอง แต่ความจริงคือมันเป็นช่องโหว่เล็กๆ ที่ควรจะหาอะไรมาอุดดีกว่า ยังมีอีกหลายตอนที่มีช่องโหว่แบบนี้ ซึ่งถ้ามีการเกริ่นสักนิดจะดีกว่าให้คนดูคิดเอาเอง แล้วไปเฉลยตูมเดียวตอนท้าย
ภาพ
จริงๆ เรื่องนี้ภาพสวยและมุมกล้องเก๋ไก่มากๆ แต่ภาพที่เป็นเงาสะท้อนของกระจกมันเยอะจนดูเหมือนหมดมุกไปหน่อย และบางภาพที่ไม่สำคัญก็ดันตัดเอามาแทรกบ่อยๆ เช่น ภาพมือนทีปิดก๊อกน้ำ ภาพมือนทีรินน้ำให้ต้น อะไรแบบเนี้ย ซึ่งเราว่ามันไม่สำคัญถึงขนาดต้องเอามาแทรก เพราะเรารู้สึกว่าการฉายภาพใกล้แบบนี้ นอกจากจะแสดงอารมณ์ของหนังหรือละครแล้ว มันต้องแสดงว่ามีนัยยะสำคัญอะไรบางอย่างเกี่ยวกับภาพๆ นั้น (ซึ่งความจริงมันไม่มีนัยยะอะไร และไม่ได้แสดงอารมณ์ของละครเลย)
เรื่องภาพอีกอย่างคือ บางภาพโทนสีอีกแบบ ตัดมาอีกภาพนึงแต่ในฉากเดียวกัน กลับกลายเป็นโทนสีอีกแบบ เข้าใจว่าใช้กล้องถ่ายไม่เหมือนกัน ภาพเลยออกมาคนละอย่าง มันทำให้ฉากนั้นดูโดดไปโดดมา ไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
แต่งหน้า
อะไรก็เกือบจะดี มาตกม้าตายเรื่องแต่งหน้านอนนี่แหละค่ะ เจติยาไม่น่าเลย ขนตาตอนนอนแพรวพราวเชียว ส่วนพิมพ์อรดูสวยทั้งเรื่องก็จริง แต่ขนาดอยู่บ้าน เสื้อผ้าหน้าผมยังจัดเต็ม แม้ในตอนวาดรูป เรากลับคิดว่าถ้าพิมพ์อรใส่ชุดอยู่บ้านบ้าง ชุดนอนบ้างก็จะดี มันจะดูมีสีสันมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว แล้วก็คุณกบกับคุณดี้ไม่เหมือนคนป่วยใกล้ตายเลย คุณดี้หน้าเนียนมาก คุณกบก็ยังดูแข็งแรงสุดๆ ดูไม่แก่ ไม่ป่วย ดูดีตลอดเวลาด้วยซ้ำ แล้วก็เสื้อผ้าของฐาเหมือนทอมมาก โดยเฉพาะรองเท้า แต่ทรงผมกลับดูสวยหวาน ทั้งตอนเกล้าครึ่ง และตอนถักเปีย มันดูขัดกันอย่างแรง
เรื่อง CG อันนี้เราหลายว่าหลายๆ คนยอมรับได้ สำหรับละครไทย ได้เท่านี้ถือว่าดีมากๆ แล้วจริงๆ ในอนาคตเชื่อว่าจะสามารถทำได้ดีกว่านี้อีก
สรุป มองโดยรวมเราว่ารากบุญทำออกมาได้ดีมากทั้งสองภาค สิ่งที่เราวิจารณ์ไปเราว่ามันเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาและปรับปรุงให้ดีกว่านี้ได้ บางอย่างอาจจะดีอยู่แล้วสำหรับคนดูละครหลายๆ ท่านด้วยซ้ำ
ถ้าคิดเป็นคะแนน เราให้ 9/10 สิ่งที่เราวิจารณ์ไปทั้งหมด เอามารวมๆ กันแล้วลบไปแค่คะแนนเดียว ที่เหลือคือดีหมดเลย ชอบ ปลื้ม อยู่ในใจ
ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนค่ะ
ขอบคุณพื้นที่ในพันทิพย์ที่ให้เรามีที่ระบายความในใจด้วยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล.เรายังไม่ได้ดูตอนจบนะคะ คิดว่าจะดูย้อนหลังแบบรวดเดียววันพรุ่งนี้เลยค่ะ
ขอวิจารณ์รากบุญในมุมมองของเรา ในฐานะติ่งละครเรื่องนี้
วันนี้เป็นตอนจบของรากบุญภาค 2 ในฐานะติ่งของละครเรื่องนี้ ขออนุญาตวิจารณ์บ้าง เนื่องจากชอบละครเรื่องนี้มาก จึงมีอะไรที่อยากพูดหลายอย่างเลยค่ะ
เริ่มจากคำชม
เนื้อหา
เรื่องนี้เนื้อหาดีอยู่แล้ว ว่าด้วยเรื่องของการเอาชนะกิเลส การต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว ซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่จะเห็นได้บ่อยในละครไทย เราว่าเรื่องนี้เป็นละครที่สะท้อนสังคมอย่างแท้จริง คือไม่ใช่แค่สะท้อนเพื่อความสะใจหรือแค่ให้เห็นความจริงที่เป็นอยู่ในสังคม แต่สะท้อนเพื่อให้คนได้คิด ได้รู้จักมองหา “กสิณ” หรือกิเลสที่อยู่ในตัวเอง ว่าตอนนี้มันเติบโตไปมากแค่ไหน แล้วเรายังมีโอกาส “ชำระ” มันได้ทันอยู่หรือไม่
ตัวละคร
อีกหนึ่งอย่างที่ต้องปรบมือดังๆ คือเรื่องนี้สามารถสร้างคาแรกเตอร์ของตัวละครออกมาได้มีมิติ ซึ่งละครไทยน้อยเรื่องมากที่จะทำได้แบบนี้ ที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะเป็น “พิมพ์อร” และ “เจติยา” ตัวแทนของด้านสว่างและด้านมืดที่ชัดที่สุด ขอชื่นชมคุณวุ้นเส้นที่ทำให้ตัวละครตัวนี้ออกมามีชีวิตชีวาและสมจริงมากๆ ด้วยท่าทางลักษณะการพูดที่ดูมีพลัง มีพาวเวอร์ สมกับเป็นผู้นำของบริษัทยักษ์ใหญ่ ด้วยตัวของคุณวุ้นเส้นที่สวยมากๆ อยู่แล้ว แต่งหน้าไม่จัด แต่ก็ดูร้ายด้วยคำพูดดูแคลน น้ำเสียงเย้ยหยันแบบคนมีการศึกษา การกระทำที่มีที่มาที่ไปว่าทำไมถึงต้องร้าย ทำไมต้องฆ่า (ขาดความอบอุ่น พ่อป่วย อดีตโดนทำร้ายร่างกาย โดนสิทธิพรดูถูกถากถางทุกครั้งที่เจอหน้า) คุณวุ้นเส้นเล่นได้ดี ไม่ขาดไม่เกิน สวยทุกท่วงท่า
ต่อมาคือเจติยา ชอบตรงที่นางเอกฉลาด มีความมั่นคงในความรัก รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เป็นคนมีเหตุผล ไม่หูเบา เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่อ่อนแอ หญิงไทยควรยกเธอเป็นไอดอลนะ รู้สึกว่าผู้หญิงแบบนี้แหละที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง มาร์กี้ก็เล่นได้ดีในแบบของมาร์กี้ เป็นแบบที่เราชอบมาตั้งแต่ภาคแรกเลย
การกระจายบท
อันนี้ก็สำคัญและรู้สึกว่าผู้กำกับสามารถกระจายบทให้ตัวละครทุกตัวดูมีความสำคัญในระดับที่เกือบๆ เท่ากัน ทั้งลุงทวี โอ้เอ้ ฐา พี่ผู้กอง นที อยุทธ์ ชาคร ทุกตัวละครที่รายล้อมรอบพระเอกนางเอกมีความเด่นชัดในตัวเอง ไม่ใช่แค่ตัวประกอบที่โผล่มาปล่อยมุกหรือเสริมบรรยากาศแค่สองสามฉากแล้วหายไป คือถ้าพูดถึงรากบุญก็จะนึกถึงไมค์ มาร์กี้ วุ้นเส้น ตามมาด้วยคนอื่นๆ ในเรื่องอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะคาแรกเตอร์เป็นที่จดจำไปแล้ว
มาที่คำวิจารณ์กันบ้าง...
นักแสดง
แน่นอนว่ายังมีหลายคนที่เล่นแข็ง ไม่ลื่นไหล ไม่เป็นธรรมชาติ ชัดๆ เลยคือ นที อยุทธ์ แต่คิดว่าฝีมือคงจะสามารถพัฒนาไปได้กว่านี้ ถ้าฝึกฝนเรื่องการแสดงอีกเยอะๆ
การตัดฉาก
ภาคนี้หนักกว่าภาคแรกตรงที่ปล่อยให้คนดูคิดเอาเอง “มากเกินไป” หลายตอนที่จู่ๆ โผล่มาก็มีเรื่องเลย ที่ชัดที่สุดคือตอนคุณเรนี่ มาถึงก็ตายแล้ว กว่าจะไปเฉลยว่าอะไรเป็นอะไรก็นู่นนน อีกอย่างที่ละครไม่บอกและตัดทิ้งไปดื้อๆ เลยคือคนที่อยุทธ์บอกว่าเป็นแฟน (ตอนที่ยังไม่คบกับเรนี่) หลังจากนั้นก็ไม่เห็นใครพูดถึงอีกเลยว่าผู้หญิงคนไหนไปไหน เลิกกันแล้ว? หรือแค่มาโกหกแฟนเก่าเรนี่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง? จุดนี้ผู้กำกับอาจจะอยากให้คนดูคิดเอาเอง แต่ความจริงคือมันเป็นช่องโหว่เล็กๆ ที่ควรจะหาอะไรมาอุดดีกว่า ยังมีอีกหลายตอนที่มีช่องโหว่แบบนี้ ซึ่งถ้ามีการเกริ่นสักนิดจะดีกว่าให้คนดูคิดเอาเอง แล้วไปเฉลยตูมเดียวตอนท้าย
ภาพ
จริงๆ เรื่องนี้ภาพสวยและมุมกล้องเก๋ไก่มากๆ แต่ภาพที่เป็นเงาสะท้อนของกระจกมันเยอะจนดูเหมือนหมดมุกไปหน่อย และบางภาพที่ไม่สำคัญก็ดันตัดเอามาแทรกบ่อยๆ เช่น ภาพมือนทีปิดก๊อกน้ำ ภาพมือนทีรินน้ำให้ต้น อะไรแบบเนี้ย ซึ่งเราว่ามันไม่สำคัญถึงขนาดต้องเอามาแทรก เพราะเรารู้สึกว่าการฉายภาพใกล้แบบนี้ นอกจากจะแสดงอารมณ์ของหนังหรือละครแล้ว มันต้องแสดงว่ามีนัยยะสำคัญอะไรบางอย่างเกี่ยวกับภาพๆ นั้น (ซึ่งความจริงมันไม่มีนัยยะอะไร และไม่ได้แสดงอารมณ์ของละครเลย)
เรื่องภาพอีกอย่างคือ บางภาพโทนสีอีกแบบ ตัดมาอีกภาพนึงแต่ในฉากเดียวกัน กลับกลายเป็นโทนสีอีกแบบ เข้าใจว่าใช้กล้องถ่ายไม่เหมือนกัน ภาพเลยออกมาคนละอย่าง มันทำให้ฉากนั้นดูโดดไปโดดมา ไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
แต่งหน้า
อะไรก็เกือบจะดี มาตกม้าตายเรื่องแต่งหน้านอนนี่แหละค่ะ เจติยาไม่น่าเลย ขนตาตอนนอนแพรวพราวเชียว ส่วนพิมพ์อรดูสวยทั้งเรื่องก็จริง แต่ขนาดอยู่บ้าน เสื้อผ้าหน้าผมยังจัดเต็ม แม้ในตอนวาดรูป เรากลับคิดว่าถ้าพิมพ์อรใส่ชุดอยู่บ้านบ้าง ชุดนอนบ้างก็จะดี มันจะดูมีสีสันมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว แล้วก็คุณกบกับคุณดี้ไม่เหมือนคนป่วยใกล้ตายเลย คุณดี้หน้าเนียนมาก คุณกบก็ยังดูแข็งแรงสุดๆ ดูไม่แก่ ไม่ป่วย ดูดีตลอดเวลาด้วยซ้ำ แล้วก็เสื้อผ้าของฐาเหมือนทอมมาก โดยเฉพาะรองเท้า แต่ทรงผมกลับดูสวยหวาน ทั้งตอนเกล้าครึ่ง และตอนถักเปีย มันดูขัดกันอย่างแรง
เรื่อง CG อันนี้เราหลายว่าหลายๆ คนยอมรับได้ สำหรับละครไทย ได้เท่านี้ถือว่าดีมากๆ แล้วจริงๆ ในอนาคตเชื่อว่าจะสามารถทำได้ดีกว่านี้อีก
สรุป มองโดยรวมเราว่ารากบุญทำออกมาได้ดีมากทั้งสองภาค สิ่งที่เราวิจารณ์ไปเราว่ามันเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาและปรับปรุงให้ดีกว่านี้ได้ บางอย่างอาจจะดีอยู่แล้วสำหรับคนดูละครหลายๆ ท่านด้วยซ้ำ
ถ้าคิดเป็นคะแนน เราให้ 9/10 สิ่งที่เราวิจารณ์ไปทั้งหมด เอามารวมๆ กันแล้วลบไปแค่คะแนนเดียว ที่เหลือคือดีหมดเลย ชอบ ปลื้ม อยู่ในใจ
ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนค่ะ
ขอบคุณพื้นที่ในพันทิพย์ที่ให้เรามีที่ระบายความในใจด้วยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้