[CR] >>>บันทึกการเดินทาง ตอน ผจญภัยแดนภูเขาไฟ อินโดนีเซีย : เอาแหวนไปทำลาย ณ The Ijen Volcano

>>>บันทึกการเดินทาง ตอน ผจญภัยแดนภูเขาไฟ อินโดนีเซีย : สรุปแผนการเดินทาง ค่าใช้จ่าย ละเอียด
http://ppantip.com/topic/32443073




ต่อจากกระทู้ที่แล้ว ตอนที่ 1
>>>บันทึกการเดินทาง ตอน ผจญภัยแดนภูเขาไฟ อินโดนีเซีย : Bromo หนาวมาก
http://ppantip.com/topic/32440278

Day 3 :
6 June 2014

10.00 น. Check Out เพื่อทางไปยัง คาวาอีเจ้น
ถึงที่พักที่ คาวาอีเจ้น ประมาณ 18.30 น.
พัก คาวาอีเจ้น 1 คืน
-------------------
Day4

7 June 2014
04.00 น. ตื่นเตรียมตัวขึ้น อีเจี้ยน เพื่อดูเปลวไฟสีน้ำเงิน
เดินขึ้น อีเจี้ยนใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมงกว่าเก็บของ check out ออกจากที่พักเลย

ลงจากเขาเดินทางกลับเข้า สุราบายา พัก 1 คืน สุราบายา






หลังจากเดินทางออกจากโบรโม่ เราเก็บของเตรียมตัวเดินทางต่อไปที่ Catimor homestay ซึ่งอยู่อีกเมือง และทางที่จะไปค่อนข้างแคบเป็นทางเขา โค้ง และชัน พอสมควรเกือบ 5-6 ชม. บนรถ พวกเราหลับๆ ตื่นๆ บ้างตลอดทาง

โผล่พ้นออกมาเส้นถนนหลัก ทางในเมือง ขับรถได้สุดแย่ ทั้งรถบรรทุก ทางแคบ เราแทบจะเครียดตามคนขับรถ ที่จะต้องมาหาจังหวะแซงรถ เครียดไปก็เท่านั้น ... จนหลับไปอีกตื่น ก็เจอว่า เรานั่งมาในทางที่สองข้างทางเป็นป่า เฟิร์นต้นใหญ่กว่าตัวคน เขียวขจี ทางลงเนิน ขึ้นเนิน ระทึกมาก จนนึกว่า เราหลงเข้ามาในยุคไดโนเสาร์ เพื่อนตื่นกันหมด ทำให้บนรถคึกคักมาตลอดทาง คุยกันสนุกสนาน แต่ใครจะรู้ ...



ฟ้าเริ่มมืดลง เราก็เริ่มสังเกตได้ว่า คนขับรถเรา ไม่รู้ทาง และคนขับรถเรา กำลังพาพวกเราหลงทาง จนกระทั่งไปถามทางคนแถวนั้น ได้ใจความมาว่าเราต้องขับย้อนขึ้นไปใหม่ ในบรรยากาศฟ้าโผล้เผล้ เราไม่โวยวาย มีเสบียงพอให้เรากินรองท้อง จนกว่าจะถึงที่พักก็คิดว่าใช้เวลาไม่นาน

จนกระทั่ง ขึ้นเนิน ที่ความลาดชันอาจจะไม่มาก แต่เป็นทางลาดชัน ยาว ... รถดับ !!
คนขับพยายามสตาร์ท แตะเบรค สตาร์ทใหม่ ลองกันเป็นสิบรอบ รถไหลลงไปเรื่อยๆ จนได้กลิ่นผ้าเบรครถไหม้ ร้องไห้

เอ่อ ซวยแล้ว มาดับกลางป่า ไม่มีรถสวน ทางชัน ป่ารถทึบ เฮ้ยยยย... แล้วฟ้ากำลังจะมืดสนิท

คนขับรถให้ผช.สองคน ลงจากรถไปหาหิน เราก็พยายามจะลงไปช่วยเพื่อน แต่ก็โดนไล่ขึ้นรถแล้วคนขับรีบปิดประตูรถ
แล้วคนขับรถทำหน้าแบบผู้หญิง ไม่ต้องลงมาจากรถ !!
( ตกใจเลย )

หลังสมาชิกในทริป ชายหนุ่ม 2 คนลงจากรถ เหลือไว้แต่สาวๆ  คนขับพยายามสตาร์ท ใช้ความพยายามแค่ 2 ครั้ง รถก็สตาร์ทติด พวกเราโล่งใจ คนขับพาขับให้เลยเนินตรงนี้ไป แล้วหยุดรอ 2 คนนั้น ทุกคนขึ้นรถพร้อมกับความรู้สึกโล่งที่พ้นเนินตรงนี้มาได้ และกังวล ว่ารถจะเสียแบบนี้อีกรึเปล่า ระหว่างรอผช.สองคน คนขับรถหันมาถามเราด้วยสีหน้าเครียดว่า  เค้าขอสูบบุหรี่ในรถได้รึเปล่า สีหน้าเครียดแบบไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้มาก่อน เราเลยพยักหน้าแล้วบอกว่า " โอเค "

พวกเราขึ้นรถ คนขับมองกระจก หันมาเป็นระยะ ทุกคนในรถเงียบ ด้วยความลุ้นระทึก
แล้ว คนขับก็พูดขึ้นมา พยายามจะถามเรื่องบางเรื่อง ที่พวกเรา ก็ไม่เข้าใจ ...
จนเค้าขับไป เอามือถือ พิมพ์ไป แล้วยื่นมาให้อ่าน ( มันลำบากมากกับการที่พยายามจะสื่อสารอะไรในช่วงเวลาแบบนี้เนี่ย )

อยู่ดีๆ ใจก็เต้นตึกตัก ... อย่าให้เป็นแบบที่คิดได้มั้ย

มือถือ นั้น พิมพ์ข้อความว่า

" Do you believe in Gosh ? "

ทุกคนบนรถ .... เงียบ หนักกว่าเดิม
ขนลุก ... อืมม เราจะไม่พูดอะไรกัน จนกว่าจะพ้นป่า โอเค นะ
เรารู้ว่าเค้าพิมพ์ผิด แต่เราไม่เอ่ยอะไรใช่ป๊ะ

คนขับรถ หันมาคุยเพราะเห็นพวกเราเงียบว่า แหนะ สวดมนต์อยู่เหรอ
ใช่เสะ !!

พอผ่านด่านตรวจ หมู่บ้านไปแล้วก็พ้นป่า เค้าก็เริ่มชวนคุยปกติแล้วถามชื่อเรา เราชื่อเราแล้วเค้าถามว่า

" Can you see them ??? " เอ้ออ เห็นอาร๊าย ไม่เห็นนนน เว้ยยย T_T
อย่าถามแบบเน้ เสะ

เลยตอบไปแบบหน้าเจื่อนๆ ว่า " I can't see anything here. ok??? "  

จนถึงทางแยกที่จะไปที่พัก ที่เราคิดว่า ทั้งๆ ที่เราขับผ่านมาทางเดิม แต่เราทำไมไม่เห็น !
เออ แต่ช่างเหอะ เรื่องนี้ ปล่อยมันไปเราจะไม่ถาม พวกเราเชคอินเข้าที่พัก เรียบร้อย คนขับรถจัดการเรื่องห้องพัก มื้อเย็น ช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี พร้อมกับนัดหมายกันว่า ตี 1 เจอกันที่รถนะ

ระหว่างรอมื้อค่ำ หลายคนสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนขับรถ ชื่อ การ์ฟ่า เลยเล่าให้ฟัง พร้อมรายละเอียดว่า เค้ามองเห็นจากกระจกว่า บนรถไม่ได้มีแค่เรา เค้าเห็นมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมา เป็นเด็ก เด็ก จำนวนหนึ่ง

จากที่เรามีกัน 6 คน แต่เค้าเห็นเป็น 10
ขนาดพูดอังกฤษไม่ได้ ก็ยังบอกอีกว่า " หนึ่งคน มีเลือดไหลจากตา  อีกหนึ่งคนไม่มีหู "  ไม่ต้องถามต่อนะ ว่านั่งที่ไหน ... T_T
ช่วงที่รถพักรอเพื่อนเดินมา เค้าบอกว่า เค้าเห็นและบอก ผู้ที่โดยสารเกินมาทีหลังว่า " ต้องไปส่งเพื่อน ให้ร่วมทางไปไม่ได้ ขอให้ลงจากรถ "

พอเล่าจบ เราก็นั่งกินข้าวต่อ แล้วบอกเพื่อนๆ ว่า เรา... ไม่คุยเรื่องนี้กันอีกนะ โอเค๊
แต่ก็คืนนี้ เฮ้ยยย ... จะนอนหลับมั้ยซิ พับผ่า และน้ำร้อนที่พัก ก็ไม่ร้อน ต้องอาบน้ำเย็นก่อนนอน ตะโกนคุยกับเพื่อนตลอดเพราะ กลัวผี 55+

และท้ายสุด สรุปว่า ด้วยความเพลียเราก็หลับ และออกจากที่พักกันตอนตี 1 กว่าๆ เก็บกระเป๋า ไม่ย้อนมาทางเดิม ( ไม่อยากย้อนกลับมาอีกแล้ว ) และคืนนี้ เราจะไปเดินขึ้นเขากันตอนมืดๆ เนี่ยแหละ
ชื่อสินค้า:   Ijen Crater
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่