คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
พ่อ แม่ รับรู้ปัญหาของคุณมั้ย ลองคุณกับท่านดูก่อนรึป่าว
หนี้ก้อนใหญ่ บ้านหลังใหญ่ ช่วยกันลดให้มันเหลือน้อยลงได้รึป่าว
พร้อมกับทำประกันชีวิต ให้ท่านทั้ง 2 เผื่อไว้ด้วยก็น่าจะดี
ย้ายพ่อ กับ แม่ มาอยู่กับคุณแบบใกล้ที่ทำงานคุณจะได้มั้ย เช่น มาอยู่คอนโด หรือบ้านมือ 2 หลังละไม่กี่ล้าน แต่ทำให้คุณต้องผ่อนน้อยลงซักครึ่งนึง
เงินที่จ่ายค่าเช่าก็เก็บสะสมไว้จ่ายหนี้ญาติ ประมาณนกน้อยทำรังแต่พอตัว พร้อมกับที่คุณหารายได้เสริมเพิ่ม นอกเวลางาน
แล้วจัดเวลาไปเที่ยวพร้อมครอบครัว ซักปีละ 1-2 ครั้ง เที่ยวแค่ในประเทศก็ได้ เช่น ทะเล ศาสนสถาน
ปัญหามันน่าจะมีทางทำให้มันลดน้อยลงได้นะ ถ้าคุณหาทางคิดหาการบริหาร ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
บางทีแค่ปรับให้มันลดน้อย ถอยลงมา คุณอาจจะสามารถได้สิ่งที่คุณต้องการทุกอย่างได้เลยนะ
เช่น อยากเที่ยว ก็ได้เที่ยว อยากมีครอบครัว มีแฟน มีหลานให้พ่อแม่
ลองตั้งโจทย์ แล้วคิดคำตอบดูก่อนในกระดาษก็ได้ เช่น
หนี้เงินกู้ จ่ายเดือนละหมื่น จาก 15 ปี เพิ่มเป็น 30 ปี แต่จ่ายเดือนละ 5 พัน
บ้าน จ่ายเดือนละ หมื่นหก ไปหาอยู่คอนโดใหม่ หรือบ้านมือสอง ใกล้ที่ทำงาน จ่ายเดือนละ หมื่นสอง ประมาณ 35 ปี
หนี้ญาติ อาจจะขอเก็บเงินก้อนแล้วไปจ่าย หรือญาติจะให้ผ่อนจ่ายเดือนละเท่าไหร่ ก็รองต่อรองกับเค้าดู ว่าเราจ่ายไหวเท่าไหร่
อยากเที่ยว ก็วางงบเที่ยวไว้แค่หลักร้อย - หลักหมื่นต้น ๆ แล้วก็ไปทำตามใจอยาก
อยากมีแฟน ก็ลองหาคบกับใครซักคนดู หากไปรอดก็คิดเรื่องแต่งงาน หรือรับปัญหาของครอบครัวเราได้
หนี้ก้อนใหญ่ บ้านหลังใหญ่ ช่วยกันลดให้มันเหลือน้อยลงได้รึป่าว
พร้อมกับทำประกันชีวิต ให้ท่านทั้ง 2 เผื่อไว้ด้วยก็น่าจะดี
ย้ายพ่อ กับ แม่ มาอยู่กับคุณแบบใกล้ที่ทำงานคุณจะได้มั้ย เช่น มาอยู่คอนโด หรือบ้านมือ 2 หลังละไม่กี่ล้าน แต่ทำให้คุณต้องผ่อนน้อยลงซักครึ่งนึง
เงินที่จ่ายค่าเช่าก็เก็บสะสมไว้จ่ายหนี้ญาติ ประมาณนกน้อยทำรังแต่พอตัว พร้อมกับที่คุณหารายได้เสริมเพิ่ม นอกเวลางาน
แล้วจัดเวลาไปเที่ยวพร้อมครอบครัว ซักปีละ 1-2 ครั้ง เที่ยวแค่ในประเทศก็ได้ เช่น ทะเล ศาสนสถาน
ปัญหามันน่าจะมีทางทำให้มันลดน้อยลงได้นะ ถ้าคุณหาทางคิดหาการบริหาร ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
บางทีแค่ปรับให้มันลดน้อย ถอยลงมา คุณอาจจะสามารถได้สิ่งที่คุณต้องการทุกอย่างได้เลยนะ
เช่น อยากเที่ยว ก็ได้เที่ยว อยากมีครอบครัว มีแฟน มีหลานให้พ่อแม่
ลองตั้งโจทย์ แล้วคิดคำตอบดูก่อนในกระดาษก็ได้ เช่น
หนี้เงินกู้ จ่ายเดือนละหมื่น จาก 15 ปี เพิ่มเป็น 30 ปี แต่จ่ายเดือนละ 5 พัน
บ้าน จ่ายเดือนละ หมื่นหก ไปหาอยู่คอนโดใหม่ หรือบ้านมือสอง ใกล้ที่ทำงาน จ่ายเดือนละ หมื่นสอง ประมาณ 35 ปี
หนี้ญาติ อาจจะขอเก็บเงินก้อนแล้วไปจ่าย หรือญาติจะให้ผ่อนจ่ายเดือนละเท่าไหร่ ก็รองต่อรองกับเค้าดู ว่าเราจ่ายไหวเท่าไหร่
อยากเที่ยว ก็วางงบเที่ยวไว้แค่หลักร้อย - หลักหมื่นต้น ๆ แล้วก็ไปทำตามใจอยาก
อยากมีแฟน ก็ลองหาคบกับใครซักคนดู หากไปรอดก็คิดเรื่องแต่งงาน หรือรับปัญหาของครอบครัวเราได้
แสดงความคิดเห็น
ผมกำลังอยู่บนทางแยกชีวิต อยากถามทุกท่านว่า ถ้าเป็นท่านจะเลือกทางไหน
หนี้ก้อนแรก เกิดจากการกู้ธนาคาร เพื่อเอาเงินไปให้แม่ใช้หนี้ ตรงนี้ผมต้องผ่อนเดือนละ 10000 บาท เป็นเวลา 15 ปี
หนี้ก้อนที่สอง ก็เกิดจากการกู้ธนาคาร เพื่อเอาเงินไปซื้อบ้าน ให้พ่อกับแม่ผมที่กำลังจะไม่มีบ้านอยู่ ตรงนี้ผมต้องผ่อนเดือนละ 16000 บาท เป็นเวลา 30 ปี
รายจ่ายก้อนแรก เกิดจากหน้าที่ในฐานะบุตร ผมต้องให้เงินพ่อกับแม่ใช้เดือนละ 5000 บาท
รายจ่ายก้อนที่สอง เกิดจากความจำเป็นในการทำงาน เพราะบ้านที่ผมหาได้ มันไกลจากที่ทำงานเหลือเกิน ผมต้องจ่ายค่าหอพักเดือนละ 3000 บาท
ผมมีรายได้หลังหักภาษีต่อเดือน 42000 บาท นั่นหมายความว่า ผมจะมีเหลือใช้ต่อเดือน 8000 บาท
อันที่จริงมันก็ควรจะจบตรงนั้นครับ ถ้าผมไม่มารู้ทีหลังว่า พ่อกับแม่ผมเป็นหนี้ญาติที่ผมเคารพรักมากอีกราว 1 ล้าน 5 แสนบาท
วันนี้ผมอายุ 32 ผมได้เงินเดือนเพิ่มปีละไม่เกิน 1200 (แต่ก็อาจจะมากขึ้นทุกปีตามฐานเงินเดือนที่มากขึ้น)
จับพลัดจับผลู ก็อาจได้เลื่อนตำแหน่ง สิบปีหน หนละ 10000
มาถึงทางแยกที่ผมเกริ่นแล้วครับ
ถ้าท่านอยู่ในสถานการณ์แบบผม ท่านจะตัดสินใจอย่างไรครับ
ท่านจะเอาเงินทั้งหมดที่ได้เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน ไปใช้หนี้ญาติ
หรือท่านจะเก็บเงินทั้งหมดที่ได้เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน ไว้ให้พ่อกับแม่ใช้
หรือท่านจะเก็บเงินทั้งหมดที่ได้เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน ไว้เพื่ออนาคตของตัวเอง
ณ วันนี้ ถ้าไม่นับภาระที่กล่าวมา ผมไม่มีอะไรสักอย่างครับ
ผมไม่มีภาระส่วนตัว ผมไม่มีแฟน
ผมไม่มีทรัพย์สินมีค่า ไม่มีเลย นอกจากครอบครัวและบ้านอีกหลังหนึ่ง
ถามว่ามีความฝันไหม อยากทำอะไรที่ตัวเองชอบไหม อยากกินอยากเที่ยวไหม อยากมีอยากได้ไหม อยากมีครอบครัวแบบคนอื่นไหม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากครับ
แต่ก็เตือนตัวเองมาตลอดว่า พ่อกับแม่ยังไม่มีปัญญาเลี้ยง แล้วจะไปทำอะไรหรือจะไปเลี้ยงใคร
วันนี้ น่าจะพอบอกได้ว่า เจอกับทางแยกที่จะต้องเลือกและต้องเดินไปทางนั้นตลอดชีวิต
ผมไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะสามารถเลือกเดินทางสายกลางได้
ถ้าผมอยากให้ครอบครัวอยู่สบาย ผมก็ต้องหยุดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทุกอย่าง
หรือถ้าผมอยากเริ่มสร้างอนาคตตัวเอง ผมก็ต้องเก็บเงินทุกบาทไว้เอง
หรือถ้าผมทำในสิ่งที่ถูกต้อง เลือกใช้หนี้ญาติแทนพ่อกับแม่ ผมก็ต้องทิ้งสองข้อข้างต้นไป
ทางเดินทางไหนที่ควรเลือกเดินครับ
ขอบคุณที่ทนอ่านครับ