สวัสดีครับ พอดีผมอยากเล่าให้ฟังว่าทำไมผมถึงยังใช้กล้องฟิล์ม ทั้งๆที่ภาพที่ได้จากกล้องฟิล์มนั้นคุณภาพส็กล้องดิจิตอลไม่ได้เลยสักนิด ทั้งยังต้องเสียเวลาในการล้างสแกนอีกกว่าจะได้เห็นรูปๆนึงนั้นผ่านกระบวนการเยอะแยะ เสียตังหลายต่อ ต้นทุนสูง แล้วทำไมยังต้องใช้กล้องฟิล์ม ทำไมไม่ไปใช้กล้องดิจิตอล ที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วทันใจไม่ต้องยุ่งยาก ไม่ต้องมารอให้เสียเวลา คุณภาพของภาพที่ได้ออกมาก็ดีกว่า ใช่ครับถ้าเราจะเอาระหว่างกล้องฟิล์มกลับกล้องดิจิตอลมาเปรียบเทียบเรื่องคุณภาพและการใช้งานนั้น ผมว่ากล้องฟิล์มไม่มีอะไรส็ดิจิตอลได้หลอกครับ ถึงเราจะเอาน็นนี่นั้นมาอ้างว่ากล้องฟิล์มถ่ายออกมาได้อารมความร็สึกมากกว่า ซึ่งผมว่าดิจิตอลมันก็สามารถถ่ายให้ได้อารมความร็สึกเหมือนกล้องฟิล์มได้เหมือนกัน ถ้าพูดมาถึงขนาดนี้ แล้วทำไมถึงยังถ่ายกล้องฟิล์มอยู๋ละ ซึ่งคนที่ยังใช้กล้องฟิล์มอยู๋นั้นมันก็มีเยอะพอสมควร แสดงว่ามันต้องมีเสน่อะไรแน่เลยที่ทำให้คนยังคนหลงไหลในกล้องฟิล์ม ผมว่าเค้าคงมีเหตุผลของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป แต่วันนี้ผมจะมาพูดถึงเหตุผลของผมว่าทำไมผมถึงยังใช้กล้องฟิล์ม
สิ่งแรกเลยที่ผมชอบกล้องฟิล์มก์คือ ความงามครับ ซึ่งแน่นอน ข้อนี้ทุกคนต้องยอมรับในความสวยงามและคลาสิคของกล้องฟิล์มอย่างแน่นอน แต่เหตุผลแค่นี้มันยังไม่พอครับ(แต่สำหรับผมแค่นี้มันพอแล้ว) มันยังต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ครับ
สิ่งที่สองก็คือที่ทำให้ผมนั้นหลงไหลในกล้องฟิล์มก็คือ อารม แต่ไม่ใช่อารมของภาพที่ออกมานะครับนะครับ แต่เป็นอารมความร็สึกที่ผมมีต่อกระบวนการต่างๆของกล้องฟิล์มครับ ซึ่งก็คือการ รอคอยครับ ผมหลงไหลในการรอคอย การรอที่จะได้เห็นรูปที่เราถ่าย มันทำให้เหนถึงคุนค่าของภาพที่ถ่ายออกมา ลองคิดดูนะครับ สมมุติเราถ่ายรูปๆนึง ปรับนู้นปรับนี้ โฟกัส และก็กดถ่าย ถ่ายเสรจเราก็อยากเหนภาพเลยว่ามันสวยไหม ชัดไหม แสงได้ไหม องประกอบได้ไหม แต่กล้องฟิล์มนั้นมันดันไม่ให้เราดูเลย มันเลยทำให้เราต้องเก็บความร็สึกที่จะเห้นภาพในตอนนั้นเอาไว้ก่อน แล้วก็รอถ่ายรูปจนหมดม้วน แล้วก็เอาไปล้าง เอาไปสแกน ถึงจะมาดูได้ พอผ่านกระบวนการทั้งหมดเสรจคราวนี้แหละเรามาดูรูปกันว่าเปนงัย โอ้แม่เจ้าาาา!!! เห็นภาพเท่านั้นแหละ เบลอเกือบทุกรูป เหลือชัดๆไม่กี่รูป รูปที่ตั้งใจถ่ายกลับไม่ชัด แสงโอเวอรบ้าง อันเดอรบ้าง แต่ถึงจะชัดมันก็ดันองประกอบไม่ได้ โดยรวมแล้วเรียกว่าเสียเกือบหมด อุส่ารอมาตั้งนาน ทำไมเปนแบบนี้เนี่ย ถ้าเปนอย่างนี้ เปนคุณ คุณรู้สึกยังไง ? แต่เปนผม ผมพูดเลย ผมมีความสุขมาครับ ถึงการรอคอยที่ผมรอมานั้นมันจะผิดหวังไปสักหน่อย "แต่ภาพทุกภาพที่มันเบลอนั้น มันกลับชัดในความทรงจำผม" จำได้ไหมครับว่าความร็สึกที่เราต้องเก็บไว้ตอนที่เราถ่ายรูปแล้วเรายังไม่เหนรูป ความร็สึกนั้นมันถูกเก็บไว้และมันถูกก็ถูกเปิดออกตอนเห็นภาพที่ล้างสแกนออกมาครับ ความรู้สึกนี่แหละมันสุดยอดจิงๆ เป็นความรู้สึกที่อธิบายเปนคำพูดไม่ได้จิงๆ เนี่ยแหละครับผมว่ามันคือเสน่ห์ของกล้องฟิล์มที่ผมหลงไหล ผมไม่ร็ว่าจะมีคนเข้าใจเหมือนผมไหม ผมก็อธิบายไม่ค่อยถูก มันเปนฟิลลิ่งล้วนๆครับ ไม่เกี่ยวกลับอะไรเลย ส่วนกล้องฟิล์มคู่ใจผมนั้น มันก็คือ olympus om-10 และ olympus pen ee-2 (ชอบ olympus เป็นการส่วนตัวครับกำลังตามสะสมอยู๋ ^^) ส่วนภาพที่ผมถ่ายนั้นก็ถ่ายตามๆพี่ๆที่เค้าเล่นกล้องฟิล์มมาก่อน ดอกไม้ ใบหญ้า ดอกหญ้า ฟรุ้งฟริ้งๆ มุ้งมิ้ง มั่วๆไปเรื่อย ถ่ายแบบไม่ค่อยคิดครับ ขอแค่ได้ยินเสียงชัตเตอรเป็นพอ ^^ ไว้เดียวผมจะลงภาพที่ผมถ่ายให้ดูนะครับ ตอนนี้ผมยังลงไม่เปน พึ่งหัดเล่น 5555 ไว้เดียวไปศึกษาวิธีการลงก่อน ไปและคราบบ ขอบคุนที่นั่งอ่านกันจนจบนะครับ ไม่ค่อบมีสาระอะไร มีแต่อารมล้วนๆ ตามจิงผมอยากเขียนเยอะกว่านี้นะครับ แต่ผมเรียบเรียงเป็นคำพูดไม่ถูกจิง 5555
ทำไมถึงยังใช้กล้องฟิล์ม ?
สิ่งแรกเลยที่ผมชอบกล้องฟิล์มก์คือ ความงามครับ ซึ่งแน่นอน ข้อนี้ทุกคนต้องยอมรับในความสวยงามและคลาสิคของกล้องฟิล์มอย่างแน่นอน แต่เหตุผลแค่นี้มันยังไม่พอครับ(แต่สำหรับผมแค่นี้มันพอแล้ว) มันยังต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ครับ
สิ่งที่สองก็คือที่ทำให้ผมนั้นหลงไหลในกล้องฟิล์มก็คือ อารม แต่ไม่ใช่อารมของภาพที่ออกมานะครับนะครับ แต่เป็นอารมความร็สึกที่ผมมีต่อกระบวนการต่างๆของกล้องฟิล์มครับ ซึ่งก็คือการ รอคอยครับ ผมหลงไหลในการรอคอย การรอที่จะได้เห็นรูปที่เราถ่าย มันทำให้เหนถึงคุนค่าของภาพที่ถ่ายออกมา ลองคิดดูนะครับ สมมุติเราถ่ายรูปๆนึง ปรับนู้นปรับนี้ โฟกัส และก็กดถ่าย ถ่ายเสรจเราก็อยากเหนภาพเลยว่ามันสวยไหม ชัดไหม แสงได้ไหม องประกอบได้ไหม แต่กล้องฟิล์มนั้นมันดันไม่ให้เราดูเลย มันเลยทำให้เราต้องเก็บความร็สึกที่จะเห้นภาพในตอนนั้นเอาไว้ก่อน แล้วก็รอถ่ายรูปจนหมดม้วน แล้วก็เอาไปล้าง เอาไปสแกน ถึงจะมาดูได้ พอผ่านกระบวนการทั้งหมดเสรจคราวนี้แหละเรามาดูรูปกันว่าเปนงัย โอ้แม่เจ้าาาา!!! เห็นภาพเท่านั้นแหละ เบลอเกือบทุกรูป เหลือชัดๆไม่กี่รูป รูปที่ตั้งใจถ่ายกลับไม่ชัด แสงโอเวอรบ้าง อันเดอรบ้าง แต่ถึงจะชัดมันก็ดันองประกอบไม่ได้ โดยรวมแล้วเรียกว่าเสียเกือบหมด อุส่ารอมาตั้งนาน ทำไมเปนแบบนี้เนี่ย ถ้าเปนอย่างนี้ เปนคุณ คุณรู้สึกยังไง ? แต่เปนผม ผมพูดเลย ผมมีความสุขมาครับ ถึงการรอคอยที่ผมรอมานั้นมันจะผิดหวังไปสักหน่อย "แต่ภาพทุกภาพที่มันเบลอนั้น มันกลับชัดในความทรงจำผม" จำได้ไหมครับว่าความร็สึกที่เราต้องเก็บไว้ตอนที่เราถ่ายรูปแล้วเรายังไม่เหนรูป ความร็สึกนั้นมันถูกเก็บไว้และมันถูกก็ถูกเปิดออกตอนเห็นภาพที่ล้างสแกนออกมาครับ ความรู้สึกนี่แหละมันสุดยอดจิงๆ เป็นความรู้สึกที่อธิบายเปนคำพูดไม่ได้จิงๆ เนี่ยแหละครับผมว่ามันคือเสน่ห์ของกล้องฟิล์มที่ผมหลงไหล ผมไม่ร็ว่าจะมีคนเข้าใจเหมือนผมไหม ผมก็อธิบายไม่ค่อยถูก มันเปนฟิลลิ่งล้วนๆครับ ไม่เกี่ยวกลับอะไรเลย ส่วนกล้องฟิล์มคู่ใจผมนั้น มันก็คือ olympus om-10 และ olympus pen ee-2 (ชอบ olympus เป็นการส่วนตัวครับกำลังตามสะสมอยู๋ ^^) ส่วนภาพที่ผมถ่ายนั้นก็ถ่ายตามๆพี่ๆที่เค้าเล่นกล้องฟิล์มมาก่อน ดอกไม้ ใบหญ้า ดอกหญ้า ฟรุ้งฟริ้งๆ มุ้งมิ้ง มั่วๆไปเรื่อย ถ่ายแบบไม่ค่อยคิดครับ ขอแค่ได้ยินเสียงชัตเตอรเป็นพอ ^^ ไว้เดียวผมจะลงภาพที่ผมถ่ายให้ดูนะครับ ตอนนี้ผมยังลงไม่เปน พึ่งหัดเล่น 5555 ไว้เดียวไปศึกษาวิธีการลงก่อน ไปและคราบบ ขอบคุนที่นั่งอ่านกันจนจบนะครับ ไม่ค่อบมีสาระอะไร มีแต่อารมล้วนๆ ตามจิงผมอยากเขียนเยอะกว่านี้นะครับ แต่ผมเรียบเรียงเป็นคำพูดไม่ถูกจิง 5555