[CR] THE BEAR(BACK)PACK ตอน 2 : ชิลชิลที่เมืองกาญจน์

สวัสดีชาวพันทิป และนี่ก็เป็นตอน 2 ของ BEAR(BACK)PACK ซึ่งจริงๆยังมีอีก   1 ตอนนะคะ
ความเดิมตอนที่แล้ว หมีมาถึงสถานีน้ำตกเป็นที่เรียบร้อย  งั้นเราออกเดินทางต่อเลยดีกว่าเนอะ  Let's go!

วันที่ 24 กรกฎาคม 2557 (ต่อ)
          หลังจากรถไฟถึงสถานีน้ำตก เวลาประมาณ 13.30 น. ฝนก็ตกลงมา เราจึงต้องนั่งคอยที่สถานีอยู่พักนึง และเราก็หิวมาก หมีสไตล์ บริเวณสถานีก็มีร้านอาหารอยู่ประมาณ  2- 3ร้าน ถ้าใครอยากฝากท้องที่สถานีก็ได้ แต่เราบังเอิญไปเจอกับคุณป้าขับสองแถว  ป้าเค้ามาชวนเราให้ไปน้ำตกไทรโยคน้อยกับรถป้าเค้า คนละ 20 บาท  เราก็เลยถามป้าเค้าไปว่า แถวๆน้ำตกมีร้านอาหารไหม ป้าก็บอกว่า มีเต็มเลย อยู่หน้าน้ำตกนั่นแหละ และด้วยความหิวโหยขั้นรุนแรง พวกเราตัดสินใจนั่งรถสองแถวของป้าไปน้ำตก และก็มีผู้โดยสารแค่เรา 3 คน อากาศตอนนั้นรู้สึกว่าจะเย็นๆ แถมมีน้ำฝนที่โดนล้อปั่นมาเข้าหน้าอีก ได้อารมณ์เหมือนฉีดสเปรย์น้ำแร่ที่หน้า 555   

          ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ก็ถึงน้ำตกไทรโยคน้อย

         แต่ยังก่อน เราขอไปหาอะไรใส่ท้อง  พวกเราเดินเลือกร้านอยู่นานเหมือนกัน บริเวณนั้นมีทั้ง ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง น้ำมะตูม  7-11 ข้าวราดแกง  และกล้วยทอดซึ่งดูเหมือนจะเป็นของขึ้นชื่อของแถวๆนั้น จะมีพนักงานมายื่นกล้วยทอดให้เราตลอดทาง สุดท้ายเราก็เลือกร้านอาหารตามสั่งที่มีกล้วยทอดขายอยู่หน้าร้าน  ขออภัยที่จำชื่อร้านไม่ได้ เมนูในร้านก็มีอาหารตามสั่งทุกรูปแบบ ตั้งแต่ข้าวไข่เจียวไปจนถึงผัดไท เลือกสั่งได้ตามชอบเลยจ้า

             หลังจากอิ่มท้อง เนื่องจากเพื่อนของหมี ไม่ได้เอารองเท้าแตะมาเลยไปหาซื้อแถวๆนั้น ระหว่างเลือกรองเท้าอยู่ ก็มีน้องผู้หญิง (ซึ่งตอนแรกเรานึกว่าเป็นผู้ชาย เนื่องจากตัดผมสั้นเกรียน) มาขายรองเท้าให้ เราก็เลยคุยกับน้องเค้า ตามประสา  หลังจากเพื่อนได้รองเท้าเรียบร้อย เราก็ถามน้องเค้าว่าทางขึ้นน้ำตกมีทางเดียวหรอ  น้องเค้าเลยบอกว่ามีสองทาง และแนะนำทางที่เดินใกล้ให้กับเรา โดยถ้าเราหันหน้าเข้าน้ำตก ทางที่เดินใกล้ จะอยู่ด้านซ้าย

            และหน้าทางขึ้นจะมีร้านอาหารซึ่งมีธารน้ำเล็กๆไหลผ่านโต๊ะกินข้าว เป็นน้ำที่ไหลลงมาจากน้ำตกนั่นเอง   บรรยากาศดีมาก  แนะนำว่าถ้าใครไม่หิวโหยจนเกินไป ก็ลองไปกินที่ทางขึ้นน้ำตกดูนะ


            ถึงแล้ว น้ำตกไทรโยคน้อย



              น้ำตกไทรโยคน้อยเป็นน้ำตกเล็กๆ  หมีขออุปมาว่ามี 2 ชั้น  สามารถปีนป่ายหินขึ้นไปยังชั้น 2 ได้ ถึงแม้หินจะลื่น  (ป้ายเค้าก็มีบอกนะ ว่าระวังลื่น)


               ชั้น  2ของน้ำตก สวยมาก เราได้มองวิวจากน้ำตกลงไปข้างล่าง แถมน้ำที่กระทบเท้าเรายังเป็นน้ำแรงๆนิดๆ ก็มันเพิ่งตกลงมานี่หน่า หมีขอแนะนำให้วางสัมภาระไปข้างล่างน้ำตกและถอดรองเท้าตอนปีนขึ้นไปดีกว่านะ เพราะรองเท้าอาจจะทำให้ลื่นมากกว่าเดิม  



               สบายใจจริงๆ ได้เอาเท้าแช่น้ำเย็นๆ แถมอากาศยังดีอีก


              พอเราเอาเท้าแช่น้ำกันจนพอใจ เราตัดสินไปเดินสำรวจแถวๆน้ำตกเพิ่ม เราจึงพบหัวรถไฟโบราณ ซึ่งน่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าแต่ก่อนเคยมีรถไฟมาถึงน้ำตกไทรโยคน้อยแห่งนี้นี่เองงงงงง



             ก่อนจะถึงหัวรถไฟ เราเจอกับสิ่งนี้ 55555 ห้ามขีดเขียน แล้วเป็นไงล่ะ (อย่าไปเลียนแบบนะคะ หมีขอ)


             เดินถัดไปจากหัวรถไฟโบราณนิดนึง  ก็ไปเจอกับบันไดชันๆ มีป้ายชี้ว่า พุต้นน้ำ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ว่าต้นน้ำมันเป็นยังไง  พวกเราตัดสินใจเดินขึ้นไปตามหาต้นน้ำ


             ระหว่างทาง ผ่านสำนักงานของน้ำตกไทรโยค เจอพี่เจ้าหน้าที่แนะนำให้นั่งรถซาเล้ง(รถมอเตอร์ไซต์และมีที่นั่งพ่วงข้างๆ)เข้าไปยังพุต้นน้ำ แต่เราก็ขอบาย อยากเดินชมธรรมชาติชิลชิล ตามชื่อตอน มากกว่า ระหว่างทาง สองข้างทางเป็นป่า  ทุ่งหญ้า  ดงกล้วย  และพื้นดินค่อนข้างแฉะ เพราะฝนเพิ่งหยุดตกไป


           พอเดินตามทางเข้าไปสัก500 เมตร พวกเราก็เจอทางแยก เราเลือกเลี้ยวซ้าย ไปยังค่ายลูกเสือ เนตรนารี และเป็นไปตามคาด เรามาผิดทาง ขอขอบคุณพี่ผู้หญิงที่ขับรถมอเตอร์ไซต์ผ่านมาพอดี ไม่งั้นเราคงได้ตั้งแคมป์นอนในค่ายลูกเสือให้รู้แล้วรู้รอด 555  สรุปแล้วพอเจอแยกแล้วเราต้องเลี้ยวขวา และเดินต่อไปอีก ประมาณ 500 เมตร  ก็จะเจอกับทางเข้าไปยังพุต้นน้ำ  พุต้นน้ำที่เราสามารถเข้าไปดูได้ เป็นแอ่งน้ำนิ่งๆ ใสๆ กว้างพอสมควร  และมีปลาหลายตัวมาว่ายอยู่ ริมน้ำ น่ารักจัง  และบริเวณพุต้นน้ำ ก็มีที่พักและที่สำหรับกางเต็นท์ รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวน้ำตกอีกด้วย
หลังจากเราดูพุต้นน้ำ เราก็เดินย้อนกลับทางเดิม เพื่อไปรอคนรู้จักของพี่ชายหมีมารับ เพื่อไปยังที่พักในคืนแรกของทริปนี้


            *จริงๆสามารถกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานีน้ำตก เพื่อไปยังสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแควได้ รถไฟรอบสุดท้าย ประมาณ บ่ายสามกว่า (แต่พอดีหมีแอนด์เดอะแก๊งมัวแต่เพลิดเพลินกับการเที่ยวน้ำตกมากไปหน่อย เลยไปไม่ทันรถไฟ)

            และที่พักของเราในคืนนี้คือ แบมบูเฮ้าส์ อยู่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ใช้เวลาเดินทางจากน้ำตกไทรโยคน้อยไปยังที่พักประมาณ  1ชั่วโมงครึ่ง   โดยแบมบูเฮ้าส์จะอยู่ใกล้ๆกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว สามารถเดินทางสะพานไปยังที่พักได้สบายๆ และนี่คือแผนที่ของที่พัก


          ภายในแบมบูเฮ้าส์มีทั้งที่พักที่เป็นตึกแถวห้องแอร์  บ้านเป็นหลังเล็กๆ แพริมน้ำ


           แต่เนื่องจากวันนี้เรามากันสามคน เลยเลือกนอนแบบที่เป็นกระท่อมริมน้ำแทน  ค่ากระท่อมของเราคืนนี้ 750 บาทรวมอาหารเช้า แนะนำให้โทรไปจองก่อนก็จะดี แต่ถ้าจะ walk-in ก็ได้จ้า ภายในห้องพักของเรา มีเตียงใหญ่  1 เตียง เตียงเล็ก  1 เตียง มีห้องน้ำในตัว มีทีวีเครื่องเล็ก และมีผ้าเช็ดตัวให้ เป็นห้องพัดลมนะ แต่ อากาศก็เย็นสบายดี



           เราแอบไปเดินเล่นตรงแพริมน้ำทั้งตอนเย็นและตอนเช้า บรรยากาศรอบๆแพสวยมาก ธรรมชาติมาก เห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควด้วย



           เนื่องจากเรามาถึงที่พักประมาณ 16.00 น. เราเลยแวะพัก นอนเล่น อัพรูป ถ่ายรูป สักพัก และประมาณ เกือบๆหกโมงเย็น เราก็เดินไปหาอะไรกินที่แถวสะพานข้ามแม่น้ำแคว และถ่ายรูปที่สะพานข้ามแม่น้ำแควนิดหน่อย



           บนสะพานข้ามแม่น้ำแคว มีเด็กๆกลุ่มหนึ่ง มาร้องเพลงเปิดหมวก เสียงเจื้อยแจ้ว น่าเอ็นดู มีชาวต่างชาติมาขอถ่ายรูปเพียบ น่ารักมากๆเลย


           และอาหารเย็นของเราวันนี้ ขอกินร้านหรู ชื่อร้าน โฟลทติ้ง อยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำแควเลย เป็นร้านอาหารไทย พนักงานจะแต่งชุดไทยสวยๆมาต้อนรับ และ ราคาไม่แพงจนเกินไป

           เราเลือกไปนั่งกินตรงแพบนน้ำ และเป็นมุมที่จะสามารถเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควได้ พอเรานั่งกินได้สักพัก รถไฟก็ผ่านมาจ้า  อะเมซิ่งมาก ตอนที่เราอยู่บนรถไฟ แล้วรถไฟขับผ่านสะพาน เรายังไม่ตื่นเต้นเท่านี้เลย ตอนอยู่ที่ร้านอาหาร ได้เห็นรถไฟทั้งขบวนมันเคลื่อนบนรางจริงๆ เคลื่อนๆช้าๆ และก็มีคนบนรถไฟชะโงกหัวมาดู 55555เหมือนเราตอนนั้นเลย


            หลังจากผ่านช่วงอะเมซิ่ง เราก็กลับมากินอาหารเย็นของเราต่อ   ร้านนี้อร่อยใช้ได้เลย  แนะนำให้มากินนะ  (แต่บริเวณนี้ยังมีร้านอาหารมีหลายร้านให้เลือก ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นอาหารไทยนี้แหละจ้า)

            พวกเราก็นั่งชิลกันสักพัก ประมาณ  2ชั่วโมงเห็นจะได้ ก็มันมีความสุขนี่หนา จิบเบียร์ไป ชมวิวสะพานข้ามแม่น้ำแควไป เพราะตอนกลางคืนตัวสะพานจะมีเปิดไฟสลับสี สวยไปอีกแบบ และเราก็เดินกลับที่พัก (บรรยากาศค่อนข้างเปลี่ยวนิดหน่อย แนะนำให้ไปเป็นกลุ่มนะ)

            พอถึงที่พัก พวกเราก็จองคิวกันอาบน้ำ และเข้านอน วันนี้เหนื่อยมากจริงๆ ขอนอนพักเอาแรงก่อนนะคะ
ไว้ตอนหน้าเจอกัน เราจะไปสังขละบุรี ไปขี่มอไซต์ตะลุยชายแดนพม่ากัน ^^

แอบให้ดูรูปของตอนถัดไปก่อน 1 รูป เรียกน้ำย่อย จ้าาาา 555
ชื่อสินค้า:   น้ำตกไทรโยคน้อย - แบมบูเฮ้าส์ - สะพานข้ามแม่น้ำแคว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่