อยากหาเพื่อนดูด้วยคนครับ
ผมเพิ่งได้ดูรีรัน 2 ตอนแรกเมื่อคืนเองครับ HBOHD เฮ่ย ทำไมน่ารักจั๋งซี่!!
มันเป็นเรื่องของหนุ่ม geek โปรแกรมเมอร์ พนักงานบริษัท HOOLI (ที่ออฟฟิศช่างเหมือนกูเกิ้ลเสียนี่กระไร ฮี่ๆ)
เขาเข้าไปพักอยู่ในบ้านของเศรษฐีไซเบอร์สุดเซอร์ พร้อมกับผองเพื่อนชาวโปรแกรมเมอร์ ที่ล้วนแล้วแต่เพี้ยนๆบื้อๆกว่าพระเอกทั้งนั้น
พระเอกเราได้สร้างโปรแกรมที่เมพขิงๆแบบที่ยังไม่มีใครในโลกทำได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดยคิดทำโปรแกรม "ค้นเพลง" ชื่อ คนเป่าปี่ ขึ้นมา
แต่เพื่อนร่วมงานก็เอาแต่หัวเราะเยาะเขา ไม่เชื่อหนังหน้าเขาเลยว่าโปรแกรมมันเวิร์ก
จนเพื่อนร่วมงานคนนึงลองเอาโปรแกรมที่เขาส่งให้ดูมาใช้งานจริง แบบว่ากะลองเอาขำๆ.................
บร๊ะเจ้า......ความอะเมซซิ่งทิงนองนอยก็บังเกิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทุกคนตกตะลึงอึ้งกิมกี่กับระบบสุดแสนอัจฉริยะที่บีบอัดไฟล์มากกว่าและคมชัดกว่าระบบที่เป็นอยู่ 10 เท่า!!!
ทั้งเจ้านาย(ที่นิสัยคล้ายเจ้าพ่ออเมซอนมากๆ) ขอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซื้อโปรแกรมนี้แบบ "ซื้อขาด" จากเขา ด้วยตัวเลขจำนวนเงินที่ทำเอาพระเอกอ้วกแตกใส่ถังขยะด้วยความตื่นตระหนกอกอีแป้น!
รวมทั้ง Venture Capitalist คนดัง ที่มีคำขวัญประจำชีวิตว่า "อย่าเรียนมหาลัย มันไม่ได้ช่วยอะไรคุณเล้ยยยยย" เขาก็ยื่นข้อเสนอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลงทุนให้ด้วยเงินน้อยกว่าที่เจ้านายพระเอกเสนอ 5 เท่า แต่พระเอกจะได้ "เป็นเจ้าของกิจการตัวเอง" โดยพี่แกแค่ขอถือหุ้น 5% เท่านั้น
แล้วพอพระเอกตัดสินใจว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"ไม่ขาย จะทำเองด้วยหนึ่งสมองสองมือ" เจ้าพ่ออเมซอน..เอ๊ย...ฮูลี่ ก็
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประกาศศึกกับพระเอกให้เละคามือ
เนื้อเรื่องมันสนุกมั่กๆครับ ขอบอก
Silicon Valley มันเหมาะมากสำหรับ "นักฝันบรรลือโลก" และ คนที่อยากสร้างกิจการของตัวเองมากๆเลยครับ
เพราะมันจะเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่พระเอกคิดค้นโปรแกรมขึ้นมาแล้วเอาไปเสนอบริษัทก็ไม่มีใครสนใจ
แต่พอมีคนเห็นความเมพขิงๆของอัลกอริธึ่มที่เขาคิดขึ้นมา ก็มีแต่คนมะรุมมะตุ้มรุมแย่งซื้อ
แต่พระเอกก็ใช่ว่าจะผ่านด่านแรกง่ายๆ เขาโดนเฮียนักลงทุนอัดซะน่วมเรื่อง
ไม่มี business plan แต่จะมาเอาเงินตรูสองแสนเนี่ยนะ
พระเอกเราก็ต้องเรียนรู้การสร้างบริษัทของตัวเองขึ้นมาจากซีโร่ ทั้งที่ตัวเองเป็นนักโปรแกรมเมอร์ที่ไม่รู้อะไรเรื่องการเขียนแผนธุรกิจเลย ไม่รู้อะไรเรื่องสัดส่วนผู้ถือหุ้นสักนิด ไม่ได้กระดิกสักจึ๊ก
ทำไงดีล่ะทีนี้!!!!.................. แล้ววิกฤตเขียนแผนมาสเตอร์น่ะแหละ ได้ดึงเอาอัศวินคนใหม่ที่พระเอกไม่คิดไม่ฝันเลยสักนิด..ให้ปรากฎตัวขึ้นมา!
กลายเป็น 1 ในแก๊งพระเอกที่ขึ้นเขาลงห้วยตกกระไดพลอยกระโจนสร้างบริษัทนี้ขึ้นด้วยกัน
การเดินเรื่องจะคล้ายขนบของซีรีส์ญี่ปุ่นมากๆครับ คือนักฝันที่ต้องเลือกระหว่างเสี่ยงสุดๆแต่ได้เป็น "เจ้าของ" ชีวิตของตัวเอง
เทียบกับการได้เงินมากอดจริงๆเป็นสิบล้าน แต่จากนี้ไปงานของเขาจะไม่ใช่ของๆเขาอีก
ซึ่งการตัดสินใจของพระเอกมันเท่มั่กๆ นึกภาพทาคุยะ คิมุระนะครับ ชัดๆเลย!
พระเอกยังได้เรียนรู้ระหว่าง "สหาย" กับ "ธุรกิจ" อีก ว่า...ถ้าต้องการเติบโตจริงๆในสายนี้ พระเอกจะเลือกอะไร (ซีรีส์ญี่ปุ่นจ๋ามากเลยง่า ขอบอก)
เดาว่า....เรื่องนี้ต้องมีนางเอก เพราะหนังแนวกี๊กมักจะเจอ MUSE ผู้แสนสวยคอยเป็นกำลังใจเสมอ
คาดว่าน่าจะเป็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผู้ช่วยคนสวยของนักลงทุนนะครับ
ปล.1 คนสร้างสรรค์เรื่องนี้คือกูรูแห่งการ์ตูนที่ผมชอบมาก Mike Judge เจ้าพ่อการ์ตูนระดับตำนาน บีวิสแอนด์บัดเฮดและ King of The Hill อันลือลั่นครับ
ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าชีวิตจริงของจัดจ์ เขาจบตรีสาขาฟิสิกส์ (โอคุณพระ) และเคยทำงานบริษัทไอทีที่ซิลิคอนวัลเลย์อยู่พักนึงจริงๆด้วย
หลายๆซีนในเรื่องนี้ ก็มาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆตอนเขาทำงานอยู่บริษัทไอทีครับ
เช่น ตอนที่พระเอกไปรอเจอซีอีโอฮูลี่ ฉากพูดกันระหว่างรองประธานและผู้บริหารหน้าห้องว่า "ได้เจอซีอีโอแค่เดือนละ 10 นาที แต่เป็น 10 นาทีที่อะเมซซิ่งงงงงงง" นั่นคือเหตุการณ์จริง เป็นต้นครับ
ปล.2 เรื่องนี้ได้ชิงเอ็มมี่สาขาคอมมิดี้ด้วยง่า... รอลุ้นกันว่าจะชนะ BIG BANG ได้ไหม
ซีรีส์ตลก Silicon Valley โคดดดดดน่ารักเลยง่า (หัวใจ 3 ดวง)
ผมเพิ่งได้ดูรีรัน 2 ตอนแรกเมื่อคืนเองครับ HBOHD เฮ่ย ทำไมน่ารักจั๋งซี่!!
มันเป็นเรื่องของหนุ่ม geek โปรแกรมเมอร์ พนักงานบริษัท HOOLI (ที่ออฟฟิศช่างเหมือนกูเกิ้ลเสียนี่กระไร ฮี่ๆ)
เขาเข้าไปพักอยู่ในบ้านของเศรษฐีไซเบอร์สุดเซอร์ พร้อมกับผองเพื่อนชาวโปรแกรมเมอร์ ที่ล้วนแล้วแต่เพี้ยนๆบื้อๆกว่าพระเอกทั้งนั้น
พระเอกเราได้สร้างโปรแกรมที่เมพขิงๆแบบที่ยังไม่มีใครในโลกทำได้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่เพื่อนร่วมงานก็เอาแต่หัวเราะเยาะเขา ไม่เชื่อหนังหน้าเขาเลยว่าโปรแกรมมันเวิร์ก
จนเพื่อนร่วมงานคนนึงลองเอาโปรแกรมที่เขาส่งให้ดูมาใช้งานจริง แบบว่ากะลองเอาขำๆ.................
บร๊ะเจ้า......ความอะเมซซิ่งทิงนองนอยก็บังเกิด [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทั้งเจ้านาย(ที่นิสัยคล้ายเจ้าพ่ออเมซอนมากๆ) ขอ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ที่ทำเอาพระเอกอ้วกแตกใส่ถังขยะด้วยความตื่นตระหนกอกอีแป้น!
รวมทั้ง Venture Capitalist คนดัง ที่มีคำขวัญประจำชีวิตว่า "อย่าเรียนมหาลัย มันไม่ได้ช่วยอะไรคุณเล้ยยยยย" เขาก็ยื่นข้อเสนอ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วพอพระเอกตัดสินใจว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เจ้าพ่ออเมซอน..เอ๊ย...ฮูลี่ ก็[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื้อเรื่องมันสนุกมั่กๆครับ ขอบอก
Silicon Valley มันเหมาะมากสำหรับ "นักฝันบรรลือโลก" และ คนที่อยากสร้างกิจการของตัวเองมากๆเลยครับ
เพราะมันจะเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่พระเอกคิดค้นโปรแกรมขึ้นมาแล้วเอาไปเสนอบริษัทก็ไม่มีใครสนใจ
แต่พอมีคนเห็นความเมพขิงๆของอัลกอริธึ่มที่เขาคิดขึ้นมา ก็มีแต่คนมะรุมมะตุ้มรุมแย่งซื้อ
แต่พระเอกก็ใช่ว่าจะผ่านด่านแรกง่ายๆ เขาโดนเฮียนักลงทุนอัดซะน่วมเรื่องไม่มี business plan แต่จะมาเอาเงินตรูสองแสนเนี่ยนะ
พระเอกเราก็ต้องเรียนรู้การสร้างบริษัทของตัวเองขึ้นมาจากซีโร่ ทั้งที่ตัวเองเป็นนักโปรแกรมเมอร์ที่ไม่รู้อะไรเรื่องการเขียนแผนธุรกิจเลย ไม่รู้อะไรเรื่องสัดส่วนผู้ถือหุ้นสักนิด ไม่ได้กระดิกสักจึ๊ก
ทำไงดีล่ะทีนี้!!!!.................. แล้ววิกฤตเขียนแผนมาสเตอร์น่ะแหละ ได้ดึงเอาอัศวินคนใหม่ที่พระเอกไม่คิดไม่ฝันเลยสักนิด..ให้ปรากฎตัวขึ้นมา!
กลายเป็น 1 ในแก๊งพระเอกที่ขึ้นเขาลงห้วยตกกระไดพลอยกระโจนสร้างบริษัทนี้ขึ้นด้วยกัน
การเดินเรื่องจะคล้ายขนบของซีรีส์ญี่ปุ่นมากๆครับ คือนักฝันที่ต้องเลือกระหว่างเสี่ยงสุดๆแต่ได้เป็น "เจ้าของ" ชีวิตของตัวเอง
เทียบกับการได้เงินมากอดจริงๆเป็นสิบล้าน แต่จากนี้ไปงานของเขาจะไม่ใช่ของๆเขาอีก
ซึ่งการตัดสินใจของพระเอกมันเท่มั่กๆ นึกภาพทาคุยะ คิมุระนะครับ ชัดๆเลย!
พระเอกยังได้เรียนรู้ระหว่าง "สหาย" กับ "ธุรกิจ" อีก ว่า...ถ้าต้องการเติบโตจริงๆในสายนี้ พระเอกจะเลือกอะไร (ซีรีส์ญี่ปุ่นจ๋ามากเลยง่า ขอบอก)
เดาว่า....เรื่องนี้ต้องมีนางเอก เพราะหนังแนวกี๊กมักจะเจอ MUSE ผู้แสนสวยคอยเป็นกำลังใจเสมอ
คาดว่าน่าจะเป็น[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นะครับ
ปล.1 คนสร้างสรรค์เรื่องนี้คือกูรูแห่งการ์ตูนที่ผมชอบมาก Mike Judge เจ้าพ่อการ์ตูนระดับตำนาน บีวิสแอนด์บัดเฮดและ King of The Hill อันลือลั่นครับ
ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าชีวิตจริงของจัดจ์ เขาจบตรีสาขาฟิสิกส์ (โอคุณพระ) และเคยทำงานบริษัทไอทีที่ซิลิคอนวัลเลย์อยู่พักนึงจริงๆด้วย
หลายๆซีนในเรื่องนี้ ก็มาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆตอนเขาทำงานอยู่บริษัทไอทีครับ
เช่น ตอนที่พระเอกไปรอเจอซีอีโอฮูลี่ ฉากพูดกันระหว่างรองประธานและผู้บริหารหน้าห้องว่า "ได้เจอซีอีโอแค่เดือนละ 10 นาที แต่เป็น 10 นาทีที่อะเมซซิ่งงงงงงง" นั่นคือเหตุการณ์จริง เป็นต้นครับ
ปล.2 เรื่องนี้ได้ชิงเอ็มมี่สาขาคอมมิดี้ด้วยง่า... รอลุ้นกันว่าจะชนะ BIG BANG ได้ไหม