*ผมไม่แน่ใจว่า ความสัมพันธ์ ของคุณกับ แฟน อยู่ระดับไหน (ได้+เสียกันหรือยัง คือคุณ ใช้ คำว่า "แฟน" มันกว้าง มาก มองไม่เห็นภาพ)
********
เล่า นิทาน ให้ ฟัง
เรื่อง มีอยู่ ว่า ผัวเมีย คู่นึง อยู่ร่วมกัน มานาน จนมี ลูกชายโต อายุได้ ประมาณ 4-5 ปี
ในกาลต่อมา แม่ของ ฝ่ายผัวตาย
*ผัว จึงเข้าบวช(อุปสมบท) เพื่ออุทฺิศ ให้แม่ .... ทีแรก บอกกำหนดเวลา บวช ๗ วัน จะสึก
แต่ คง ทราบซึ้งในรสพระธรรม เดือนนึงก็แล้ว ยังไม่มีทีท่าว่า จะสึก ฝ่ายเมียเวลาไปถวายภัตตาหารที่วัด ก็ได้ถามว่า เมื่อไร?
หลวงพี่จะสึกจากพระ วัว ควาย ไร่นา บ้านของเราไม่มีใครดูแล ?
พระ ก็บอกว่า รอเดี๋ยว ไปถาม เมื่อไหร่ ก็บอก รออีกนิดนึง จนล่วง วันอธิฐานเข้าพรรษาก็ยังไม่สึก....เดี๋ยวมาเล่าต่อ ภาค๒ รอแป๊ป...
******
ภาค ๒... ต่อ..... วันเวลาผ่านไป จนล่วงเข้ากลางพรรษา ..... เมียเวลาไปวัด ก็เทียวไป ถามพระว่า จะสึกเมื่อไหร่ .... หลวงพี่ก็ยัง บอกว่า..
รอให้ออกพรรษาก่อน ..... ฝ่ายเมีย งอน(โกรธ)มาก จึงกลับไปบ้านแล้วไม่มาส่งปิ่นโต ด้วยตัวเอง... แต่ ก็ได้บอกให้.....
บักHumน้อย (เป็นคำเรียกลูกชาย ทางภาคอิสาน)......ไป จังหัน(ถวายภัตตาหารเช้า) ... จังเพล(ถวายภัตตาหารเพล) แทน
ก่อนลูกชายไปวัด...
ครั้งที่ ๑... ก็สั่งลูกชายให้บอกพ่อ (พระ) ว่า ... อีพ่อ อีพ่อ... ถ้าอีพ่อบ่สิก(ไม่ลาสิกขา)... อีแม่ บอกว่า อีแม่สิขายงัวเด้(จะขายวัวนะ)
หลวงพ่อ ก็บอก .. ตอบ ลูกชายว่า " กะ แล้วแต่ แม่mึงแหล่ว .. ถ้าได้ราคา กะขาย ไผสิว่าอิหยัง..
****** ลูกชาย ก็กลับมาบ้าน และบอกแม่..(ตาม.. คำที่ หลวงพ่อบอก คือ แล้วแต่แม่mึง...สิเห็นสมควร)
.............
ครั้งที่ ๒... ก็สั่งลูกชายให้บอกพ่อ (พระ) ว่า ... อีพ่อ อีพ่อ... ถ้าอีพ่อบ่สิก(ไม่ลาสิกขา)... อีแม่ บอกว่า อีแม่สิขายควายเด้(จะขายควายนะ)
หลวงพ่อ ก็บอก .. ตอบ ลูกชายว่า " กะ แล้วแต่ แม่mึงแหล่ว .. ถ้าได้ราคา กะขาย ไผสิว่าอิหยัง..
****** ลูกชาย ก็กลับมาบ้าน และบอกแม่..(ตาม.. คำที่ หลวงพ่อบอก คือ แล้วแต่แม่mึง...สิเห็นสมควร)
.........
ครั้งที่ ๓... ก็สั่งลูกชายให้บอกพ่อ (พระ) ว่า ... อีพ่อ อีพ่อ... ถ้าอีพ่อบ่สิก(ไม่ลาสิกขา)... อีแม่ บอกว่า อีแม่สิขายน่าเด้( จะขายนา นะ)
หลวงพ่อ ก็บอก .. ตอบ ลูกชายว่า " กะ แล้วแต่ แม่mึงแหล่ว .. ถ้าได้ราคา กะขาย ไผสิว่าอิหยัง..
****** ลูกชาย ก็กลับมาบ้าน และบอกแม่..(ตาม.. คำที่ หลวงพ่อบอก คือ แล้วแต่แม่mึง...สิเห็นสมควร)
*ครั้งที่ ๔ (พิเศษ) ก็สั่งลูกชายให้ไปบอกพ่อ (พระ) ว่า ... อีพ่อ อีพ่อ... ถ้าอีพ่อบ่สิก(ไม่ลาสิกขา)... อีแม่ บอกว่า อีแม่สิเอาผัวใหม่(จะมี สามีใหม่)
5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
*หลวงพ่อ ....รีบบอก กับ ลูกชายว่า..บักHUM ฟ่าว(เองรีบ) ไปเอา เสื้อ ผ้า อยู่บ้าน มาให้Kuไป๊ เร็วๆ แหล่น.. (ไปเอาเสื้อผ้ามาด่วน)
*****************
หมายเหตุ ... ไม่สงวนลิขสิทธิ์ คุณจะนำ เทคนิคนี้ ไปใช้ก็ได้ (เรื่องนี้ ไม่ใช่ แค่เรื่องเล่าเอาขำ... แต่เคยเกิดขึ้น แล้ว ที่บ้านโนนหินแห่ จังหวัด...)
เข้าไปตอบคำถาม "ในกรณี ไม่ได้รับ ท่าที ที่แน่ชัด... จาก พระ (แฟน) ..ว่าจะลาสิกขา เมื่อไหร่ .. เผื่อจักเป็นประโยชน์
********
เล่า นิทาน ให้ ฟัง
เรื่อง มีอยู่ ว่า ผัวเมีย คู่นึง อยู่ร่วมกัน มานาน จนมี ลูกชายโต อายุได้ ประมาณ 4-5 ปี
ในกาลต่อมา แม่ของ ฝ่ายผัวตาย
*ผัว จึงเข้าบวช(อุปสมบท) เพื่ออุทฺิศ ให้แม่ .... ทีแรก บอกกำหนดเวลา บวช ๗ วัน จะสึก
แต่ คง ทราบซึ้งในรสพระธรรม เดือนนึงก็แล้ว ยังไม่มีทีท่าว่า จะสึก ฝ่ายเมียเวลาไปถวายภัตตาหารที่วัด ก็ได้ถามว่า เมื่อไร?
หลวงพี่จะสึกจากพระ วัว ควาย ไร่นา บ้านของเราไม่มีใครดูแล ?
พระ ก็บอกว่า รอเดี๋ยว ไปถาม เมื่อไหร่ ก็บอก รออีกนิดนึง จนล่วง วันอธิฐานเข้าพรรษาก็ยังไม่สึก....เดี๋ยวมาเล่าต่อ ภาค๒ รอแป๊ป...
******
ภาค ๒... ต่อ..... วันเวลาผ่านไป จนล่วงเข้ากลางพรรษา ..... เมียเวลาไปวัด ก็เทียวไป ถามพระว่า จะสึกเมื่อไหร่ .... หลวงพี่ก็ยัง บอกว่า..
รอให้ออกพรรษาก่อน ..... ฝ่ายเมีย งอน(โกรธ)มาก จึงกลับไปบ้านแล้วไม่มาส่งปิ่นโต ด้วยตัวเอง... แต่ ก็ได้บอกให้.....
บักHumน้อย (เป็นคำเรียกลูกชาย ทางภาคอิสาน)......ไป จังหัน(ถวายภัตตาหารเช้า) ... จังเพล(ถวายภัตตาหารเพล) แทน
ก่อนลูกชายไปวัด...
ครั้งที่ ๑... ก็สั่งลูกชายให้บอกพ่อ (พระ) ว่า ... อีพ่อ อีพ่อ... ถ้าอีพ่อบ่สิก(ไม่ลาสิกขา)... อีแม่ บอกว่า อีแม่สิขายงัวเด้(จะขายวัวนะ)
หลวงพ่อ ก็บอก .. ตอบ ลูกชายว่า " กะ แล้วแต่ แม่mึงแหล่ว .. ถ้าได้ราคา กะขาย ไผสิว่าอิหยัง..
****** ลูกชาย ก็กลับมาบ้าน และบอกแม่..(ตาม.. คำที่ หลวงพ่อบอก คือ แล้วแต่แม่mึง...สิเห็นสมควร)
.............
ครั้งที่ ๒... ก็สั่งลูกชายให้บอกพ่อ (พระ) ว่า ... อีพ่อ อีพ่อ... ถ้าอีพ่อบ่สิก(ไม่ลาสิกขา)... อีแม่ บอกว่า อีแม่สิขายควายเด้(จะขายควายนะ)
หลวงพ่อ ก็บอก .. ตอบ ลูกชายว่า " กะ แล้วแต่ แม่mึงแหล่ว .. ถ้าได้ราคา กะขาย ไผสิว่าอิหยัง..
****** ลูกชาย ก็กลับมาบ้าน และบอกแม่..(ตาม.. คำที่ หลวงพ่อบอก คือ แล้วแต่แม่mึง...สิเห็นสมควร)
.........
ครั้งที่ ๓... ก็สั่งลูกชายให้บอกพ่อ (พระ) ว่า ... อีพ่อ อีพ่อ... ถ้าอีพ่อบ่สิก(ไม่ลาสิกขา)... อีแม่ บอกว่า อีแม่สิขายน่าเด้( จะขายนา นะ)
หลวงพ่อ ก็บอก .. ตอบ ลูกชายว่า " กะ แล้วแต่ แม่mึงแหล่ว .. ถ้าได้ราคา กะขาย ไผสิว่าอิหยัง..
****** ลูกชาย ก็กลับมาบ้าน และบอกแม่..(ตาม.. คำที่ หลวงพ่อบอก คือ แล้วแต่แม่mึง...สิเห็นสมควร)
*ครั้งที่ ๔ (พิเศษ) ก็สั่งลูกชายให้ไปบอกพ่อ (พระ) ว่า ... อีพ่อ อีพ่อ... ถ้าอีพ่อบ่สิก(ไม่ลาสิกขา)... อีแม่ บอกว่า อีแม่สิเอาผัวใหม่(จะมี สามีใหม่)
5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
*หลวงพ่อ ....รีบบอก กับ ลูกชายว่า..บักHUM ฟ่าว(เองรีบ) ไปเอา เสื้อ ผ้า อยู่บ้าน มาให้Kuไป๊ เร็วๆ แหล่น.. (ไปเอาเสื้อผ้ามาด่วน)
*****************
หมายเหตุ ... ไม่สงวนลิขสิทธิ์ คุณจะนำ เทคนิคนี้ ไปใช้ก็ได้ (เรื่องนี้ ไม่ใช่ แค่เรื่องเล่าเอาขำ... แต่เคยเกิดขึ้น แล้ว ที่บ้านโนนหินแห่ จังหวัด...)