ด้วยความที่เป็นคน ชอบถ่ายภาพ ชอบท่องเที่ยว และชอบปั่นจักรยาน ช่วงหลังๆ ก็เลยนำทั้ง 3 อย่างมารวมกันในคราวเดียว ในช่วงเวลาและโอกาสจะอำนวยปกติก็ได้ปั่นจักรยานแค่ วันเสาร์บ่าย และวันอาทิตย์ ช่วงเช้า พอดีว่าช่วงนี้เป็นฤดูร้อนของทางลูกค้าที่เมือง งานเสริมคือการส่งผักสด ผลไม้ออก ที่ต้องใช้เวลาในวันเสาร อาทิตย์ เตรียมการ ก็งดไปประมาณ 3-4 อาทิตย์ จากที่วันอาทิตย์ ไม่เกิน 10 โมงเช้าก็ต้องกลับมาถึงบ้านแล้วก็สามารถลากยาวได้ บางอาทิตย์ก็ถึงบ่ายเลย อาทิตย์นี้เนื่องผิดหวังตอนบ่ายวันเสาร์ ที่ขึ้นดอยสุเทพไปได้แค่ครึ่งทางฝนตกลงมาอย่างหนักเสียก่อน สมาชิกที่ไปด้วยอีก 2 ท่านก็เลยบอกว่ากลับเลยดีกว่าหลังจากที่ฝนซาลง ก็เลยตั้งใจว่าวันอาทิตย์จะลากยาวเกิน 100 กม.อีกที แต่สมาชิกที่ปั่นด้วยกันไม่ค่อยสะดวกในการออก ตั้งแต่ ตี 5 ก็เลยต้องลุยเดี่ยว
หลังจากที่ กิน ครัวซองแฮม ไป 2 ชิ้นใหญ่ ทุเรียนหมอนทอง 2 พู นมเปรี้ยว 1 ขวด ปิดท้ายด้วย กาแฟ 1 ถ้วย ก็ออกเดินทางในเวลา ตี 5 ออกจากบ้าน สารภี มุ่งไปยังสันกำแพง ผ่านบ้านบ่อสร้าง เพื่อจะตัดไปยัง อำเภอดอยสะเก็ด
ก่อนจะถึงอำเภอดอยสะเก็ด ก็เจอ นักปั่นรุ่นน้องที่เป็นช่างโยธาอยู่เทศบาล แถวๆนั้น ถามว่าจะไปไหน เขาก็บอกว่าจะไปแค่สันเขื่อนแม่กวง ก็เลยปั่นตามกันไป ก่อนจะถึงเขื่อนก็มีอีกหนุ่มตามมาถึง ถามดุบอกว่าเป็น ตำรวจและเป็นนักปั่นของ สนง. ตำรวจแห่งชาติ ก็เลย ชักภาพเป็นที่ระลึกหน่อยก่อนจากกัน
จากตรงนี้จะต้องไปหมู่บ้านป่าสักงาม ซึ่งทางใกล้ที่สุดก็คือ เอาจักรยานขึ้นเรื่อข้ามไป
เรือสำหรับข้ามไปยังบ้านป่าสักงามก็มีอยู่ เจ้าเดียวคือ เรือลุงเสาร์ ค่าบริการ 3 คนขึ้นไป คนละ 50 บาท ถ้าเหมา 150 บาทไปถึงที่ท่าเรื่อก็มีผมคนเดียว ลุงแกบอกว่ารอก่อนได้เปล่า เพราะอาจจะมีพวก นักตกปลามาเพราะเป็นวันหยุดและแกก็จะต้องเอา หน่อไม้ที่เอามาจากบ้านป่าสักงามไปส่งด้านล่างของเขื่อนด้วยก็เลยรอแกอยุ่ตรงนั้น ก็ถ่ายภาพไปตามเรื่อง
พอแกกลับจากสั่งหน่อไม้ก็ยังไม่มีคนมาเพิ่มก็เลยบอกว่าไปเลยดีกว่าไม่รอแล้วเพราะเกือบจะ 8 โมงแล้ว กำลังจะออกเรือมีหนุ่มนักตกปลาโทรเข้ามาหาแกพอดี จับใจความได้ว่าอีก 5 นาทีเลยแก็เลยรอ เพราะจะได้แชร์ ค่าเรือกัน
แล้วก็ได้เวลาออกเรือ จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนจะถึงฝั่งหนุ่มนักตกปลาก็ลงตรงเกาะที่เขาจะวางเบ็ด
พอถึงฝั่งบ้านป่าสักงาม ก็ 8 โมงเกือบครึ่งแล้ว บ้านสักงาม เป็นหมู่บ้านที่ ธรรมชาติยังบริสุทธิ์ มีน้ำตกที่เป็นต้นน้ำของ น้ำตกบัวตอง และน้ำใสมาก มีเห็ดแชมเปญ มีผีเสื้อ สวย ๆมากมายที่นักถ่ายรวมทั้งผมก็เลยมากถ่ายหลายครั้งแล้ว ถนนก็ดีบ้าง แดงบ้างตามนี้ ปั่นรถมันน่าดู ไปถึงน้ำตกปรากฏว่าน้ำแดงมาก เพราะหน้าฝน และคืนผ่านมาก็ตกหนักด้วย เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา
จากน้ำตก ก็ปั่นย้อนออกทางเดิม จุดต่อไปคือ จัดชมวิวแผนดิน หวิด(ขาด)
เป็นบริเวณที่ สิ้นสุดของแผ่นดินบ้านป่าสักงาม ข้างล่างก็จะเป็นหุบเขาลงไป ถ้าพลาดตกลงไปก็เตรียม ฮ.กู้ซากได้เลยครับ แต่ธรรมชาติ ป่าไม้สมบุรณ์มาก
ออกจากจุดชมวิวมาก็แวะวัด ป่าสักงาม ซึ่งตอนนี้ ขนม ต่างๆที่กินมาแต่ตี 4 กว่าเริ่มจะหมดแล้วอาการหิวเริ่มมาเยือน และเท่าที่เคยไปแถวนี้ร้านอาหารตามสั่งแทบจะไม่เลย
จากวัดก็มาตามถนน ของ อบจ.ที่ ค่อนข้างดี เลาะผ่านป่า และขุนเขาสองข้างทางป่าไม่เขียวขจีร่มมาก เพื่อที่จะออกไปสู่ถนน เชียงใหม่พร้าว หมายเลข 1001 ระยะทางจากหมู่ออกมาประมาณ 15 กม. ผมเจอรถสวนอยู่ สามคัน มีมอเตอร์ไซค์ 2 และรถเก๋ง 1
จนมาบรรจบกับถนนหมายเลข 1001 ซึ่งจากจุดนี้ไปอีก 50 กม.จึงตัวเมือง เชียงใหม่ผ่าน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย ตอนแรกว่าจะแวะเข้าไปเที่ยวและหาอะไรกินที #น้ำตกบัวตอง# ที่ห่างจากทางออกมาประมาณ 4 กม. ละต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 3 กม.แต่เกรงว่าจะล่าช้าเกิน เพราะตอนบ่าย จะต้องขนของไปส่งลูก เข้าไปนอนหอพักใน มหาวิทยาลัย เชียงใหม่#มช# เลยทนหิวอีกหน่อย หากินข้างหน้าดีกว่า ปั่นมาตั้ง 10 กว่า กม.ถึงจะเจอร้านอำหาร ตามสั่งที่พอจะกินได้ เลยจัดการข้าวไข่เจียววหมูสับ พร้อมกับกาแฟเย็นไป อย่างละหนึ่งแล้วก็ออกเดินทางต่อ
จากจุดนี้ประมาณ 10 โมงครึ่ง แดดเริ่มมาแล้วเป็นบ้างช่วง ผ่าน มหาลัยแม่โจ้ ผ่านอำเภอเมือง มุ่งสู่บ้านที่อำเภอสารภี ถึงบ้านประมาณ เที่ยงกว่านิดหน่อย โดยรวมระยะทาง ทั้งหมด เท่านี้ครับ
จบการปั่น 5 อำเภอด้วยประการฉะนี้ครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามชม/อ่าน
จากลุงแดง แผลงฤทธิ์
วันเดียว(ปั่น)เที่ยว 5 อำเภอ
หลังจากที่ กิน ครัวซองแฮม ไป 2 ชิ้นใหญ่ ทุเรียนหมอนทอง 2 พู นมเปรี้ยว 1 ขวด ปิดท้ายด้วย กาแฟ 1 ถ้วย ก็ออกเดินทางในเวลา ตี 5 ออกจากบ้าน สารภี มุ่งไปยังสันกำแพง ผ่านบ้านบ่อสร้าง เพื่อจะตัดไปยัง อำเภอดอยสะเก็ด
ก่อนจะถึงอำเภอดอยสะเก็ด ก็เจอ นักปั่นรุ่นน้องที่เป็นช่างโยธาอยู่เทศบาล แถวๆนั้น ถามว่าจะไปไหน เขาก็บอกว่าจะไปแค่สันเขื่อนแม่กวง ก็เลยปั่นตามกันไป ก่อนจะถึงเขื่อนก็มีอีกหนุ่มตามมาถึง ถามดุบอกว่าเป็น ตำรวจและเป็นนักปั่นของ สนง. ตำรวจแห่งชาติ ก็เลย ชักภาพเป็นที่ระลึกหน่อยก่อนจากกัน
จากตรงนี้จะต้องไปหมู่บ้านป่าสักงาม ซึ่งทางใกล้ที่สุดก็คือ เอาจักรยานขึ้นเรื่อข้ามไป
เรือสำหรับข้ามไปยังบ้านป่าสักงามก็มีอยู่ เจ้าเดียวคือ เรือลุงเสาร์ ค่าบริการ 3 คนขึ้นไป คนละ 50 บาท ถ้าเหมา 150 บาทไปถึงที่ท่าเรื่อก็มีผมคนเดียว ลุงแกบอกว่ารอก่อนได้เปล่า เพราะอาจจะมีพวก นักตกปลามาเพราะเป็นวันหยุดและแกก็จะต้องเอา หน่อไม้ที่เอามาจากบ้านป่าสักงามไปส่งด้านล่างของเขื่อนด้วยก็เลยรอแกอยุ่ตรงนั้น ก็ถ่ายภาพไปตามเรื่อง
พอแกกลับจากสั่งหน่อไม้ก็ยังไม่มีคนมาเพิ่มก็เลยบอกว่าไปเลยดีกว่าไม่รอแล้วเพราะเกือบจะ 8 โมงแล้ว กำลังจะออกเรือมีหนุ่มนักตกปลาโทรเข้ามาหาแกพอดี จับใจความได้ว่าอีก 5 นาทีเลยแก็เลยรอ เพราะจะได้แชร์ ค่าเรือกัน
แล้วก็ได้เวลาออกเรือ จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนจะถึงฝั่งหนุ่มนักตกปลาก็ลงตรงเกาะที่เขาจะวางเบ็ด
พอถึงฝั่งบ้านป่าสักงาม ก็ 8 โมงเกือบครึ่งแล้ว บ้านสักงาม เป็นหมู่บ้านที่ ธรรมชาติยังบริสุทธิ์ มีน้ำตกที่เป็นต้นน้ำของ น้ำตกบัวตอง และน้ำใสมาก มีเห็ดแชมเปญ มีผีเสื้อ สวย ๆมากมายที่นักถ่ายรวมทั้งผมก็เลยมากถ่ายหลายครั้งแล้ว ถนนก็ดีบ้าง แดงบ้างตามนี้ ปั่นรถมันน่าดู ไปถึงน้ำตกปรากฏว่าน้ำแดงมาก เพราะหน้าฝน และคืนผ่านมาก็ตกหนักด้วย เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา
จากน้ำตก ก็ปั่นย้อนออกทางเดิม จุดต่อไปคือ จัดชมวิวแผนดิน หวิด(ขาด)
เป็นบริเวณที่ สิ้นสุดของแผ่นดินบ้านป่าสักงาม ข้างล่างก็จะเป็นหุบเขาลงไป ถ้าพลาดตกลงไปก็เตรียม ฮ.กู้ซากได้เลยครับ แต่ธรรมชาติ ป่าไม้สมบุรณ์มาก
ออกจากจุดชมวิวมาก็แวะวัด ป่าสักงาม ซึ่งตอนนี้ ขนม ต่างๆที่กินมาแต่ตี 4 กว่าเริ่มจะหมดแล้วอาการหิวเริ่มมาเยือน และเท่าที่เคยไปแถวนี้ร้านอาหารตามสั่งแทบจะไม่เลย
จากวัดก็มาตามถนน ของ อบจ.ที่ ค่อนข้างดี เลาะผ่านป่า และขุนเขาสองข้างทางป่าไม่เขียวขจีร่มมาก เพื่อที่จะออกไปสู่ถนน เชียงใหม่พร้าว หมายเลข 1001 ระยะทางจากหมู่ออกมาประมาณ 15 กม. ผมเจอรถสวนอยู่ สามคัน มีมอเตอร์ไซค์ 2 และรถเก๋ง 1
จนมาบรรจบกับถนนหมายเลข 1001 ซึ่งจากจุดนี้ไปอีก 50 กม.จึงตัวเมือง เชียงใหม่ผ่าน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย ตอนแรกว่าจะแวะเข้าไปเที่ยวและหาอะไรกินที #น้ำตกบัวตอง# ที่ห่างจากทางออกมาประมาณ 4 กม. ละต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 3 กม.แต่เกรงว่าจะล่าช้าเกิน เพราะตอนบ่าย จะต้องขนของไปส่งลูก เข้าไปนอนหอพักใน มหาวิทยาลัย เชียงใหม่#มช# เลยทนหิวอีกหน่อย หากินข้างหน้าดีกว่า ปั่นมาตั้ง 10 กว่า กม.ถึงจะเจอร้านอำหาร ตามสั่งที่พอจะกินได้ เลยจัดการข้าวไข่เจียววหมูสับ พร้อมกับกาแฟเย็นไป อย่างละหนึ่งแล้วก็ออกเดินทางต่อ
จากจุดนี้ประมาณ 10 โมงครึ่ง แดดเริ่มมาแล้วเป็นบ้างช่วง ผ่าน มหาลัยแม่โจ้ ผ่านอำเภอเมือง มุ่งสู่บ้านที่อำเภอสารภี ถึงบ้านประมาณ เที่ยงกว่านิดหน่อย โดยรวมระยะทาง ทั้งหมด เท่านี้ครับ
จบการปั่น 5 อำเภอด้วยประการฉะนี้ครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามชม/อ่าน
จากลุงแดง แผลงฤทธิ์