เรื่องคลิปดังกล่าว ถ้าคนถ่ายไม่ได้ถ่ายให้เห็นหน้าพระ ผมก็คงจะด่าไปเหมือนกัน แต่เพราะถ่ายจนเห็นหน้าพระ ซึ่งพระรูปดังกล่าวผมรู้จักกับท่านเป็นอย่างดี (ขออนุญาตที่จะไม่เอ่ยชื่อและวัด) ก็เลยไปถามท่านโดยตรงถึงวัด

ท่านเล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุท่านจะไปสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่พุทธมณฑล ศาลายา (ในคลิปบอกว่าจะไปศาลายา) ขณะท่านจะออกจากซอย ก็มีรถมอเตอร์ไซค์สวนเข้าซอยมา จังหวะเดียวกับที่รถท่านออก แล้วก็มีรถเก๋งอีกคันอยู่ข้างๆ มอเตอร์ไซค์ก็พยายามเบี่ยงหลบแล้วเสียหลักชนล้ม แต่ตอนล้ม รถเขาไปกระแทกกับรถเก๋งอีกคัน ไม่ได้ชนกับรถของท่าน

ท่านเห็นรถมอเตอร์ไซค์ล้มก็เลยลงจากรถไปดู มอเตอร์ไซค์ไม่ได้เป็นอะไรมาก ท่านถามว่าจะขอค่าเสียหายหรือเรียกร้องอะไรไหม มอเตอร์ไซค์ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร ตกลงกันเสร็จแล้วก็ต่างคนต่างไป

ซักพักก็มีคนในคลิป ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋งคันนั้นตามมา เรียกร้องให้ท่านรับผิดชอบ ซึ่งทั้งท่านและคนขับก็งงว่าเรื่องอะไรเพราะมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็ไปแล้ว จะเห็นว่าในคลิปเป็นเสียงพูดของคนถ่ายอย่างเดียวว่ารถมอเตอร์ไซค์บาดเจ็บ รถชนกัน ชนแล้วหนีอะไรต่างๆ ทำไมไม่ลงไปดู

เรื่องหลังจากคลิปนี้ก็คือว่า ท่านให้คนขับรถกระบะของท่านไปจัดการขับกลับไปดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งมอเตอร์ไซค์ก็ไม่อยู่แล้วเพราะเขาขับออกไปนานแล้ว ส่วนท่านก็ให้คนกดเงินให้คนถ่ายไป๔๐๐๐กว่าบาท เพราะเขาจะเรียกร้องค่าเสียหายแต่ไม่รู้จะเรียกได้ที่ใคร (รถมอเตอร์ไซค์เสียหลักคันดังกล่าว ไปกระแทกเข้ากับกระจังรถเก๋งคันดังกล่าว)  ส่วนท่านก็นั่งแท๊กซี่ไปศาลายาเอง

ท่านบอกว่า มีโยมที่เห็นคลิปนี้แล้วรู้ว่าเป็นท่าน ก็มาถามท่านเยอะเหมือนกัน ท่านก็อธิบายไป เขาถามว่าทำไมไม่ฟ้องคนถ่าย ท่านบอกว่า "เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขาเถอะ ถือว่าเป็นกรรมของอาตมาก็แล้วกันที่โดนคนด่า"

คลิปที่เราเห็น เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าเรื่องจริงมันเป็นอย่างไร