เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนใกล้ตัวผมเองที่รู้จักกันตั้งแต่เรียนมัธยม
เพื่อนของผมคนนี้เป็นคนนิสัยดี ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
เป็นคนเรียนเก่งมากครับ ไม่เคยเรียนพิเศษ แต่ก็สอบได้ที่ต้นๆ
ของระดับชั้น (โรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ)
รูปร่างหน้าตาก็ปานกลาง เล่นกีฬาเก่ง โดยเฉพาะฟุตบอล
เล่นดนตรีพอใช้ได้ แต่ไม่เก่ง อยู่ชมรมดนตรีไทยของโรงเรียน
ข้อเสียอย่างเดียวที่ผมรู้ตลอดเวลา 15 ปีที่ผมรู้จักกับเขาคือ
"บ้านเขาจน พ่อแม่เขาเป็นชาวนา" แต่พวกผมก็ไม่ได้ดูถูก
ดูแคลนอะไรเขาเลย พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาก นั่นเป็น
เหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่เรียนพิเศษ ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เขาสอบได้คณะวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง
แห่งหนึ่ง แต่เขาเลือกที่จะไม่ไปเรียน ด้วยเหตุผลเดียวคือ
เขาบอกว่าค่าใช้จ่ายสูง ไม่อยากให้พ่อแม่ต้องลำบากมากกว่านี้
เขาจึงเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งอยู่
ใกล้บ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทาง ค่าครองชีพก็
ถูกกว่า และเขาอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยตลอด 4 ปี ซึ่ง
ช่วยประหยัดค่าเช่าหอพักข้างนอกได้มาก และระหว่างเรียน
เขาก็ได้ทุนเรียนดีของมหาวิทยาลัยด้วย ซึ่งก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง
และก็รับทำงานพิเศษ เช่น แจกใบปลิว ขนาดเขาทำงานไปด้วย
เขายังได้เกรด 3.50 เกือบทุกเทอม พอขึ้นปี 2 เขาก็มีแฟน
เป็นรุ่นน้องปี 1 เป็นสาวสวย น่ารัก ที่บ้านมีฐานะดีพอสมควร
ประมาณว่า เป็นเจ้าของธุรกิจหอพัก ไม่รวยมาก แต่ก็ถือว่า
มีฐานะพอสมควร
พอเรียนจบ เพื่อผมมาทำงานได้ 5 ปี ตลอด 5 ปีที่มันทำงาน
มันก็พยายามเก็บหอมรอมริบ เพื่อสร้างฐานะ สร้างอนาคต
อีกทั้งส่งเงินให้ทางบ้าน และส่งน้องเรียนปริญญาตรีอีก 1 คน
และมันมีภาระเรื่องผ่อนรถยนต์อีก 1 คัน
สุดท้ายมันถูกแฟนบอกเลิก ด้วยเหตุผลที่ว่า มองไม่เห็นอนาคต
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมาขอ จะได้แต่งงานกัน ทำงานก็คนละจังหวัด
ไปมาหาสู่กันลำบาก ถ้ามีลูกจะทำอย่างไร
แต่สุดท้ายอีกเหตุผลหนึ่งคือผู้หญิงมีผู้ชายคนใหม่
เพื่อนผมเสียใจมาก มันบอกผิดที่มันจนใช่ไหม
สุดท้ายเพื่อนผมตั้งสติได้ (เกือบ 8 เดือน มันถูกเลิกตอนต้นปี)
มันบอกจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน สร้างฐานะ และระหว่างนี้มันจะ
เรียนต่อปริญญาโทไปด้วย เพราะมันกะจะไปจีบนักศึกษา
ปริญญาตรีด้วย
ขอให้เพื่อนเจอคนที่รักจริง เพราะตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา
กูก็รักนาย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ แต่กูไม่อยากเห็นน้ำตาของนายอีก
(เพื่อนกูรักนายว่ะ)
เพื่อนผมถูกทิ้ง...เพราะเป็นคนไม่มีอนาคต ก็บ้านมันจน
เพื่อนของผมคนนี้เป็นคนนิสัยดี ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
เป็นคนเรียนเก่งมากครับ ไม่เคยเรียนพิเศษ แต่ก็สอบได้ที่ต้นๆ
ของระดับชั้น (โรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ)
รูปร่างหน้าตาก็ปานกลาง เล่นกีฬาเก่ง โดยเฉพาะฟุตบอล
เล่นดนตรีพอใช้ได้ แต่ไม่เก่ง อยู่ชมรมดนตรีไทยของโรงเรียน
ข้อเสียอย่างเดียวที่ผมรู้ตลอดเวลา 15 ปีที่ผมรู้จักกับเขาคือ
"บ้านเขาจน พ่อแม่เขาเป็นชาวนา" แต่พวกผมก็ไม่ได้ดูถูก
ดูแคลนอะไรเขาเลย พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาก นั่นเป็น
เหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่เรียนพิเศษ ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เขาสอบได้คณะวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง
แห่งหนึ่ง แต่เขาเลือกที่จะไม่ไปเรียน ด้วยเหตุผลเดียวคือ
เขาบอกว่าค่าใช้จ่ายสูง ไม่อยากให้พ่อแม่ต้องลำบากมากกว่านี้
เขาจึงเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งอยู่
ใกล้บ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทาง ค่าครองชีพก็
ถูกกว่า และเขาอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยตลอด 4 ปี ซึ่ง
ช่วยประหยัดค่าเช่าหอพักข้างนอกได้มาก และระหว่างเรียน
เขาก็ได้ทุนเรียนดีของมหาวิทยาลัยด้วย ซึ่งก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง
และก็รับทำงานพิเศษ เช่น แจกใบปลิว ขนาดเขาทำงานไปด้วย
เขายังได้เกรด 3.50 เกือบทุกเทอม พอขึ้นปี 2 เขาก็มีแฟน
เป็นรุ่นน้องปี 1 เป็นสาวสวย น่ารัก ที่บ้านมีฐานะดีพอสมควร
ประมาณว่า เป็นเจ้าของธุรกิจหอพัก ไม่รวยมาก แต่ก็ถือว่า
มีฐานะพอสมควร
พอเรียนจบ เพื่อผมมาทำงานได้ 5 ปี ตลอด 5 ปีที่มันทำงาน
มันก็พยายามเก็บหอมรอมริบ เพื่อสร้างฐานะ สร้างอนาคต
อีกทั้งส่งเงินให้ทางบ้าน และส่งน้องเรียนปริญญาตรีอีก 1 คน
และมันมีภาระเรื่องผ่อนรถยนต์อีก 1 คัน
สุดท้ายมันถูกแฟนบอกเลิก ด้วยเหตุผลที่ว่า มองไม่เห็นอนาคต
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมาขอ จะได้แต่งงานกัน ทำงานก็คนละจังหวัด
ไปมาหาสู่กันลำบาก ถ้ามีลูกจะทำอย่างไร
แต่สุดท้ายอีกเหตุผลหนึ่งคือผู้หญิงมีผู้ชายคนใหม่
เพื่อนผมเสียใจมาก มันบอกผิดที่มันจนใช่ไหม
สุดท้ายเพื่อนผมตั้งสติได้ (เกือบ 8 เดือน มันถูกเลิกตอนต้นปี)
มันบอกจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน สร้างฐานะ และระหว่างนี้มันจะ
เรียนต่อปริญญาโทไปด้วย เพราะมันกะจะไปจีบนักศึกษา
ปริญญาตรีด้วย
ขอให้เพื่อนเจอคนที่รักจริง เพราะตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา
กูก็รักนาย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ แต่กูไม่อยากเห็นน้ำตาของนายอีก
(เพื่อนกูรักนายว่ะ)