เริ่มใช้บัตรทางด่วน Easy Pass ตั้งแต่เริ่มเปิดให้ใช้งานใหม่ๆ (ตั้งแต่สมัยต้องมัดจำบัตร 800 บาท) และเป็นคนที่ต้องใช้ทางด่วน เช้าและเย็น เลยเห็นว่าเป็นช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว เติมเงินได้ง่ายๆ ที่ตู้ ATM โดยจะเติมเงินเดือนละประมาณ 3000 บาท
วันนี้เข้าช่อง Easy Pass ที่ด่านดินแดงถึงสองช่อง ทั้งสองช่องแสดงเหมือนกันหมดคือไม่พบบัตร (ติดบัตรถูกที่ และไม่เคยพบปัญหานี้มาก่อน)
จึงเข้าไปติดต่อที่สำนักงานตรงดินแดง เจ้าหน้าที่แจ้งว่า บัตรหมดอายุ และบัตรที่ผมใช้อยู่นั้นเป็นบัตรของทางด่วนขั้นที่สอง ซึ่งไม่มีขายแล้ว และไม่มีบัตรให้เปลี่ยนแล้ว... อัยยะ เพิ่งร็ว่า Easy Pass มีสองค่ายซะด้วย
เจ้าหน้าที่แนะนำว่า ให้ทำยกเลิกบัตรเก่า พร้อมแนบบัตรประชาชน และบัญชีธนาคาร โดยจะทำการโอนเงินที่เหลือคืน ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน แล้วซื้อบัตรใบใหม่ โดยการจ่ายเงินตามปกติ
ผมเห็นว่า มันไม่น่าจะใช่เรื่องที่ถูกต้อง ที่ผมจะต้องจ่ายเงินไปก่อน จึงยังไม่ทำและเดินออกมาจากสำนักงาน
จากนั้นจึงโทรเข้า Call Center 1543 เพื่อแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ให้แนวทางแก้ไขปัญหามาแบบเดียวกัน แต่เพิ่มเติมว่า ถ้าหากต้องการเปลี่ยนบัตร ของขั้นสองจริงๆ ให้ติดต่อกับสำนักงานทางด่วนขั้นสอง บริเวณด่านพระราม 9 ในวันและเวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์
ผมจึงบอกว่าไม่ใช่แล้ว วันเวลาทำการผมทำงาน ผมจะไปเปลี่ยนบัตรได้ไง รับได้ที่บัตรหมดอายุ เพราะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่รับไม่ได้ที่ทำไมมันต้องโยนมาให้เป็นภาระผู้บริโภคด้วย
ทาง Call Center แจ้งว่า จะส่งเรื่องร้องเรียนต่อให้ทาง Call Center ของ Easy Pass อีกที ซึ่งเปิดให้บริการในวันเวลาทำการเช่นกัน
ป๊าด!!! ไอ้เบอร์ 1543 นี่ ผมเอามาจากหลังบัตร Easy Pass นะเนี่ยะ

ประเด็นที่สงสัยคือ การที่ Easy Pass หมดอายุ เพราะคุณภาพสินค้าไม่ได้ เหตุใด ผู้บริโภคจึงต้องรับการ ด้วยการจ่ายเงินใหม่ก่อน แล้วรอเงินคืนที่หลัง การคืนบัตรไป นั่นแปลว่า เจ้าของบัตรไม่สามารถใชได้อีกแล้ว ส่วนเรื่องการเติมงาน ปกติไปเติมที่ด่าน ก็เติมเงินได้ทันที นั่นแปลว่า เก็บบัตรเดิมไว้ เช็คเงินในบัตร ออกบัตรใหม่ให้ แล้วใส่เงินเข้าไปให้เท่ากับบัตรเดิม ก็น่าจะทำได้เช่นกัน

คำถาม : ผมผิดไหมที่เหวี่ยง???