ในความคิดแรกเมื่อเอ่ยถึงประเทศตุรกี ผมนึกถึงเมืองแขก และทีมฟุตบอล ได้รู้มาบ้างว่า เป็นประเทศที่มีพื้นที่คาบเกี่ยวอยู่ทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป มีเส้นแบ่ง 2 ทวีปอยู่ที่ใจกลางนครอิสตันบูลพอดี เมื่อมีแผนที่จะเดินทางไปจึงหาข้อมูลเพิ่มเติมทางอินเตอร์เนต ก็พบว่ามีอีกเมืองหนึ่งที่ต้องไปให้ได้ในครั้งนี้ก็คือ คัปปาโดเกีย อยู่ทางตอนกลางของประเทศ มีสภาพภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แผ่นดินถูกกัดเซาะจนมีรูปร่างแปลกตา เหมือนอย่างกับอยู่บนดาวดวงอื่น

ด้วยเวลาและงบประมาณอันจำกัด การเดินทางครั้งนี้ของผมกับเพื่อน 2 คน จึงต้องเลือกเอาแค่ 2 เมืองนี้ คืออิสตันบูล และคัปปาโดเกีย ทั้งที่ยังมีอีกหลายที่หลายเมืองในตุรกีที่น่าสนใจอีกมาก แต่ก็คงต้องยอมตัดใจไว้โอกาสต่อไป เราเลือกเดินทางกับสายการบินที่ถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้เวลานั้น คือสายการบิน AEROFLOT สายการบินแห่งชาติรัสเซีย ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องไปต่อเครื่องที่มอสโคว ใช้เวลาการเดินทางรวมเวลาต่อเครื่องประมาณ 15 ชั่วโมง นานกว่าบินตรงมากอยู่ แต่ก็ถูกกว่ามากเช่นกัน

ส่วนการเดินทางระหว่างเมืองจากอิสตันบูล ไปคัปปาโดเกียนั้น ใช้บริการ Turkish Airline ราคาพอรับได้ บินใกล้ๆ ใช้เวลาไม่นานนัก และเมื่อถึงคัปปาโดเกีย เราใช้การเช่ารถขับเที่ยวรอบๆ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่นี่ได้อย่างเต็มอิ่ม ราคารถเช่าไม่แพงนัก วันละพันกว่าบาท แต่น้ำมันแพงเอาการอยู่ ลิตรละแปดสิบบาท ส่วนที่อิสตันบูล การเดินทางสะดวกสบาย มีรถไฟฟ้าวิ่งอยู่ทั่วเมือง และมีวิ่งจากสนามบินเข้าเมือง

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ อาจไม่ได้ลงรายละเอียดของการเดินทางมากนัก เพราะบางอย่างผู้เขียนก็ต้องขอยอมรับว่าไปมั่วๆเดาๆเอาที่นั่นเลย ประวัติศาสตร์อะไรก็ไม่ได้เตรียมตัวอ่านไปก่อน มีอินเตอร์เนตก็เสิร์ชหาข้อมูลเท่าที่พอจะหาได้ ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ ถือว่ามาชมภาพกันเพลินๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์กันครับ 100 ภาพต่อจากนี้ และเรื่องราวดีๆที่ผมรู้สึกเมื่อได้เห็นภาพ

มีคำติชมอะไร แวะไปพูดคุยกันได้ครับที่เฟซบุค https://www.facebook.com/lotslikeloveDiary