แรกๆผมก็เรียนรู้จากหนังสือ The Zurich Axioms ที่เขียนโดย Max Gunther ที่ใครๆก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นหนังสือการเล่นหุ้นที่โปรดปรานเล่มหนึ่ง หลังจากนั้นผมก็หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ซึ่งผมคิดว่าเป็นหนังสือที่มีความจำเป็นต่อการเล่นหุ้นมาก
ในหนังสือมันก็มีกฎอยู่ด้วยกัน 12 ข้อ ส่วนย่อยๆก็จะมีประมาณ 16 ข้อ เป็นหนังสือเล่มเล็กที่มี 123 หน้า หนังสือเล่มนี้ถือเป็นแนวทางในการควบคุมความเสี่ยงและการทำกำไรของนายธนาคารในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่สอนเราในเรื่องความรอบคอบและการเป็นนักเก็งกำไร
แต่ก็มีกฎที่ผมชื่นชอบมากก็คือ
จะต้องตั้งเป้าหมายในการเข้าไปเล่นเสมอ
กฎข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเล่นหุ้นแต่ละครั้ง โดยเราจะต้องเรียนรู้ให้มากขึ้นแล้วก็พัฒนาความเป็นเทรดเดอร์ของตัวเอง ทั้งด้านทักษะความสามารถและการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องการเล่นหุ้น การตั้งเป้าหมายจะทำให้เรายืนอยู่เหนือความกลัวแล้วก็สามารถฝ่าฟันได้สำเร็จ ซึ่งประเมินดูแล้วก็เป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าดี
ในเนื้อหาหนังสือก็จะเขียนเรื่อง J.Paul Getty ที่ร่ำรวยมาจากน้ำมันมาตั้งแต่ตอนที่เขายังเล็กอยู่ แต่เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ เขาก็เริ่มมีแนวทางการลงทุนของตัวเอง เขาเข้าไปเล่นหุ้นพวกธุรกิจน้ำมัน ทันที่เขาเองก็ไม่ชอบราคาหุ้นที่มันผันผวนไปมา เขาใช้เงิน $ 50 ซื้อหุ้นในปี 1900 ต่อมาเขาก็มีเงินเก็บประมาณ $ 500 ด้วยความหวังว่าราคาน้ำมันจะต้องดีขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ขายทำกำไรได้เงินเข้ากระเป๋าประมาณ $ 12,000 เพียงช่วงเวลาสั้น
หากเขายังไม่เข้าไปเล่นหุ้นน้ำมัน เงิน $ 500 มันก็คงไม่ได้มาง่ายๆ แต่เขาก็สามารถค้นพบแนวทางในการเก็บเงินและก็กลับเข้าไปเล่นใหม่ได้อีกครั้ง เขามักจะพูดอยู่เสมอว่า “ดูเหมือนว่าผมจะชนะมากกว่าแพ้เสียอีก” นี่ถือเป็นเป้าหมายในการเล่นหุ้นอย่างแท้จริง
การเป็นเทรดเดอร์นั้น เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ลวดขึงเอาไว้หากเราทำผิดพลาดขึ้นมา หมายความว่าเราไม่ต้องไปยึดมั่นกับการทำกำไรให้มากในแต่ละปีหากเรามีอะไรดีๆมากกว่านั้น
การมองโลกในแง่ดีทำให้เราคาดการณ์ได้ดีที่สุด แต่ความเชื่อมั่นก็หมายถึงการที่เราสามารถรับมือกับเรื่องแย่ๆได้ การมองโลกในแง่ดีมันก็มองได้ว่าตัวเราไม่เคยขยับเขยื้อนชีวิตตัวเองบ้างเลย
แล้วอะไรเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่ยอดเยี่ยมล่ะ Gunther ได้เน้นในเรื่องการที่เราไม่ควรมองโลกในแง่ดีเกินไป โดยการเริ่มเข้าไปเล่นหุ้นมันก็ไม่ได้ทำให้เรามองโลกในแง่ดีหรอก อย่างไรก็ตามการมองโลกในแง่ดีมันก็เป็นความสามารถพิเศษของแต่ละคน ซึ่ง Gunther บอกกว่าการมองโลกในแง่ดีทำให้เราเจอกับความเสี่ยงมากกว่า และก็ทำให้เราคิดว่ากระสุนในสนามรบมันคงไม่มาถูกตัวเราหรอกมั้ง
บทต่อๆมาก็จะเน้นในเรื่องความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเพิกเฉยไม่ได้เลยเป็นอันขาด แล้วพวกเราสามารถรับมือกับช่วงเวลาแย่ๆได้อย่างไรกันล่ะ? หากเราทำได้ เราก็จะต้องหาเหตุผลในสถานการณ์ต่างๆที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงแบบแผนการเล่นหุ้นของเราในช่วงเวลานั้นด้วย ทั้งการเข้าไปเล่นและการถอยหนีออกมา ความสำเร็จของเราสุดท้ายอาจจะต้องเจอกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก่อน แต่หากเราไม่สามารถรับมือกับการขาดทุนได้อย่างเหมาะสม ทำให้เราถอยหนีออกมาก่อนแล้วก็มองการทำกำไรก้อนโตในครั้งต่อไป
คำแนะนำของผมน่ะเหรอ ก็หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านแล้วก็จดส่วนที่สำคัญๆเอาไว้และก็หากุญแจความสำเร็จจากหนังสือเล่มนี้ เราจะต้องอ่านเร็วๆและก็ต้องอ่านให้บ่อยๆ
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net
วิพากษ์หนังสือ The Zurich Axioms (หนังสือแปลชื่อว่า เล็งให้แม่น เก็งให้รวย)
แรกๆผมก็เรียนรู้จากหนังสือ The Zurich Axioms ที่เขียนโดย Max Gunther ที่ใครๆก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นหนังสือการเล่นหุ้นที่โปรดปรานเล่มหนึ่ง หลังจากนั้นผมก็หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ซึ่งผมคิดว่าเป็นหนังสือที่มีความจำเป็นต่อการเล่นหุ้นมาก
ในหนังสือมันก็มีกฎอยู่ด้วยกัน 12 ข้อ ส่วนย่อยๆก็จะมีประมาณ 16 ข้อ เป็นหนังสือเล่มเล็กที่มี 123 หน้า หนังสือเล่มนี้ถือเป็นแนวทางในการควบคุมความเสี่ยงและการทำกำไรของนายธนาคารในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่สอนเราในเรื่องความรอบคอบและการเป็นนักเก็งกำไร
แต่ก็มีกฎที่ผมชื่นชอบมากก็คือ
จะต้องตั้งเป้าหมายในการเข้าไปเล่นเสมอ
กฎข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเล่นหุ้นแต่ละครั้ง โดยเราจะต้องเรียนรู้ให้มากขึ้นแล้วก็พัฒนาความเป็นเทรดเดอร์ของตัวเอง ทั้งด้านทักษะความสามารถและการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องการเล่นหุ้น การตั้งเป้าหมายจะทำให้เรายืนอยู่เหนือความกลัวแล้วก็สามารถฝ่าฟันได้สำเร็จ ซึ่งประเมินดูแล้วก็เป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าดี
ในเนื้อหาหนังสือก็จะเขียนเรื่อง J.Paul Getty ที่ร่ำรวยมาจากน้ำมันมาตั้งแต่ตอนที่เขายังเล็กอยู่ แต่เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ เขาก็เริ่มมีแนวทางการลงทุนของตัวเอง เขาเข้าไปเล่นหุ้นพวกธุรกิจน้ำมัน ทันที่เขาเองก็ไม่ชอบราคาหุ้นที่มันผันผวนไปมา เขาใช้เงิน $ 50 ซื้อหุ้นในปี 1900 ต่อมาเขาก็มีเงินเก็บประมาณ $ 500 ด้วยความหวังว่าราคาน้ำมันจะต้องดีขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ขายทำกำไรได้เงินเข้ากระเป๋าประมาณ $ 12,000 เพียงช่วงเวลาสั้น
หากเขายังไม่เข้าไปเล่นหุ้นน้ำมัน เงิน $ 500 มันก็คงไม่ได้มาง่ายๆ แต่เขาก็สามารถค้นพบแนวทางในการเก็บเงินและก็กลับเข้าไปเล่นใหม่ได้อีกครั้ง เขามักจะพูดอยู่เสมอว่า “ดูเหมือนว่าผมจะชนะมากกว่าแพ้เสียอีก” นี่ถือเป็นเป้าหมายในการเล่นหุ้นอย่างแท้จริง
การเป็นเทรดเดอร์นั้น เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ลวดขึงเอาไว้หากเราทำผิดพลาดขึ้นมา หมายความว่าเราไม่ต้องไปยึดมั่นกับการทำกำไรให้มากในแต่ละปีหากเรามีอะไรดีๆมากกว่านั้น
การมองโลกในแง่ดีทำให้เราคาดการณ์ได้ดีที่สุด แต่ความเชื่อมั่นก็หมายถึงการที่เราสามารถรับมือกับเรื่องแย่ๆได้ การมองโลกในแง่ดีมันก็มองได้ว่าตัวเราไม่เคยขยับเขยื้อนชีวิตตัวเองบ้างเลย
แล้วอะไรเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่ยอดเยี่ยมล่ะ Gunther ได้เน้นในเรื่องการที่เราไม่ควรมองโลกในแง่ดีเกินไป โดยการเริ่มเข้าไปเล่นหุ้นมันก็ไม่ได้ทำให้เรามองโลกในแง่ดีหรอก อย่างไรก็ตามการมองโลกในแง่ดีมันก็เป็นความสามารถพิเศษของแต่ละคน ซึ่ง Gunther บอกกว่าการมองโลกในแง่ดีทำให้เราเจอกับความเสี่ยงมากกว่า และก็ทำให้เราคิดว่ากระสุนในสนามรบมันคงไม่มาถูกตัวเราหรอกมั้ง
บทต่อๆมาก็จะเน้นในเรื่องความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเพิกเฉยไม่ได้เลยเป็นอันขาด แล้วพวกเราสามารถรับมือกับช่วงเวลาแย่ๆได้อย่างไรกันล่ะ? หากเราทำได้ เราก็จะต้องหาเหตุผลในสถานการณ์ต่างๆที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงแบบแผนการเล่นหุ้นของเราในช่วงเวลานั้นด้วย ทั้งการเข้าไปเล่นและการถอยหนีออกมา ความสำเร็จของเราสุดท้ายอาจจะต้องเจอกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก่อน แต่หากเราไม่สามารถรับมือกับการขาดทุนได้อย่างเหมาะสม ทำให้เราถอยหนีออกมาก่อนแล้วก็มองการทำกำไรก้อนโตในครั้งต่อไป
คำแนะนำของผมน่ะเหรอ ก็หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านแล้วก็จดส่วนที่สำคัญๆเอาไว้และก็หากุญแจความสำเร็จจากหนังสือเล่มนี้ เราจะต้องอ่านเร็วๆและก็ต้องอ่านให้บ่อยๆ
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net