เรื่องมีอยู่ว่า....
เราได้ไปทำงานไกลบ้าน เราเลยคิดที่จะหาห้องเช่าเล็กๆ ใกล้ที่ทำงาน เราแค่บ่นๆ แล้วเพื่อนที่ทำงานเราคนนึง พึ่งรู้จักกันแค่ 2 เดือน เอ่ยขึ้นว่า 'อยู่ด้วยกันมั้ยล่ะ เราก็จะย้ายห้องเหมือนกัน ถ้าจะมาอยู่ด้วยกันก็รีบบอกก่อนสิ้นเดือนนะ จะได้ย้ายขนของจากที่เก่าย้ายมาเลย จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าห้อง' ตอนแรกก็คิดนะ เออ ละเจ้าของห้องจะไม่ตามหรอวะ ปกติเราก็เป็นคนไว้ใจคนง่ายอยู่แล้วนะ เลยไม่ได้คิดอะไร แต่เรายังไม่ได้ตกลงนะ เขาก็มาตื้อ บอกให้เพื่อนอีกคนนึงชวนให้เราออกมาอยู่ห้อง จะได้อยู่ใกล้ที่ทำงาน และก็อยู่ใกล้ห้องเพื่อนที่ทำงานด้วยกันด้วย อืม ละเราก็ตกลงย้ายมาเดือน มกราคม สัญญา 6 เดือน ถึงเดือน มิถุนายน อยู่แรกๆก็ดีนะได้อยู่กะเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน แต่ดูเหมือนเขาจะเป็นคนมีความลับเยอะอ่ะ ยังไม่ค่อยรู้กันดีพอ
เราเป็นเด็กใหม่ในทราทำงาน วันนึงเราได้ไปสังสรรค์กะเพื่อนที่ร้าน (ที่ทำงาน) ร้านเหล้าใกล้ๆห้องเราอ่ะแหล่ะ พี่เขาๆ เขาก็เมากัน เขาหลุดปากพูดความลับบางอย่างออกมา เขาบอกว่ารู้กันแค่ในวงนี้ เขาเม้าท์กันว่า เพื่อนร่วมห้องเราคนนั้นแอบเป็นกิ๊กกะ ผช.ผจก.ในร้าน ทั้งๆที่มีแฟนของตัวเองทั้ง 2 คน เราก็เออเรื่องของเขาเหอะ แต่พอเรื่องในวงเหล้านั้นเริ่มแพ่กระจาย เราก็ถามเขาตรงๆ แต่เขาปฏิเสธเต็มปาก ละเขาก็เกลียดคนที่พูดเอามากๆ เลย เราก็เชื่อนะ จนกระทั่งมีวันนึง เขาหยุด 3 วันติด เขาบอกเราว่า อยู่ห้องคนเดียวนะ จะไปบางแสนกับผู้ชาย แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร เราก็โทรไปคุยด้วย เราก็ถามว่าอยู่กับ ผช.ผจก.หรอ เพราะเห็นหยุดยาวเหมือนกัน แต่เขาก็บอก ป่าววว เราเลยคิดว่าเขาคงไปกะแฟนเขามั้ง แต่ตอนกลับเขาแวะมาร้านที่ทำงาน มากะ ผช.ผจก. ทุกคนแซวเขา แต่เราอึ้ง อ่ะ โกหกทำไม ? ละ ผจก.ก้บอก อ่าวเมล์ยังไม่รู้หรอ อยู่ห้องด้วยกัน เขารู้กันทั้งร้านละ แต่เราก็ไม่ได้โกรธไรหรอก แต่ผู้หญิงคนนี้มีอะไรลึกกว่าที่เราเห็นเยอะมาก คือ แต่ก่อนเป็น PR แล้ว ผช.ผจก.ไปเที่ยว เลยไปเจอกันละออฟกลับมา มั้งนะ (นี่ไม่ค่อยแน่ใจ) ฟังๆมา แล้วเหมือนจะเป็นกิ๊กกัน เลยพากันมาทำงานที่ร้าน แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน เพราะต่างคนต่างมีแฟน แล้วที่ร้านถ้าคนเป็นแฟนกันจะไม่ให้อยู่ร้านเดียวกันอีกด้วย แล้วเขาเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการก็วันที่กลับจากบางแสน แล้ววันนึงความลับของ ผช.ผจก.ก็ถูกเปิดเผยว่า คบซ้อน ยังไม่เลิกกะแฟน แต่บอกกิ๊กว่าเลิกแล้ว กำลังห่างๆ ประมาณนี้ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็โทรมาเคลีย กับคนร่วมห้องเราซึ่งเป็นกิ๊ก เขาก็ได้แต่นั่งร้องไห้ (เราไม่เคยเห็นมุมนี้ของเขาเลย เขาค่อนข้างจะเป็นผู้หญิงเก่ง) พอผช.ผจก.กลับมาร้าน ซึ่งมาจากผู้หญิงคนนั้นแหล่ะ แต่ระหว่างที่โทรเคลียนั้น เขาเงียบไม่ยอมปริปาก แล้วมาปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่ ทั้งๆที่ผู้หญิงคนนั้นใช้เบอร์เขาโทรมา (โกหกไม่เนียนเลย) เขาก็ทะเลาะกันจนถึงขั้นจะเลิก แต่ผู้ชายไม่ยอมเลิก เพราะเขาโดนแฟนบอกเลิกอย่างเป็นทางการแล้ว แล้วเลิกกะกิ๊กไปคงไม่มีใครแล้ว เขาเลยมาขอร้อง อ้อนวอนให้เราช่วย อืม กลับห้องไปเราก็ปรอบเขา เราก็คอยบอกว่า เขาผิดไปแล้ว แล้วเธอกเป็นชอบเขาก่อนไม่ใช่หรอ ตอนนั้นก็รู้นิ่ว่าเขามีแฟนแล้วอ่ะ เขาเลยตะคิกใส่เราว่า ' ก็มันบอกว่ามันเลิกแล้วอ่ะ ตอนไปบางแสนอ่ะ' แล้วเขาก็เลยบอกว่า เออ จะคืนดี แต่จะหลอกใช้ (หลอกใช้ตัง) เราก็สงสาร ผช.ผจก. อยู่เหมือนกันนะ เป็นผู้ใหญ่ในร้านคนนึง พอไปทำงาน ผช.ก็มาถามเราใหญ่เลยว่าเป็นไงบ้าง เราก็บอก ก็คงจะดีขึ้นแหล่ะ...มั้ง เขาก็ทำหน้า งงๆ เราเลยบอก ดูเอาเอง ดูกันดีๆ อย่าพึ่งไว้ใจกันมากเกินไป...นะ (แค่นั้นจริง) ละพอพวกมันดีกัน พวกมันดันมากัดเราซะงั้น ไอ้ผู้ชายไปถามอี่ผู้หญิง (คนร่วมห้อง)ว่า คำพูดที่เราพูดมันหมายความว่าไง เขาก็ปฏิเสธกันเต็ม ใครซวยล่ะทีนี้ เขาไปโพสด่าเราเว้ยใน facebook ด่าว่าทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกบ้างล่ะ ว่าทำให้ยุยงให้คนรักทะเลาะกันบ้างล่ะ ลงท้ายด้วย E-dog,E-ven ต่างๆ นาๆ คำด่า แต่เราไม่รู้หรอกว่าเขาด่าใคร เราก็ไปไลค์ให้เขา แต่ไม่อยากยุ่งเลยไม่ถาม แฃ้วมารู้ทีหลังเว้ย ว่าด่าเรา เราก็ไม่โกรธนะ มันผ่านไปแล้ว แต่อยู้ร่วมห้องกันนั้น เรากล้าพูดเลยว่าเรามีแต่เสียกับเสีย เสียเปรียบ เสียตังค์ เราเลี้ยงเขามาตลอด ซื้อของมากินคนเดียวก็หน้าเกียจเลยต้องซื้อมาเผื่อ ทุกวัน! แต่เขาเราไม่เคยได้แตะอะไรเลย ก่อนเข้ามาอยู่ เขาเคยบอกเราว่า 'มาอยู่ด้วยกันแล้ว ถ้าคิดถึงแฟนก็ไปหากันเองนะ อย่าพากันมาห้อง อยู่ด้วยกันต้องเกรงใจกัน' เราก็โอนะ แต่เขากลับกลืนน้ำลายตัวเอง พาแฟนมาห้อง บางวันก็มานอน เดือนนึงเราแทบไม่ได้อยู่ห้องเรา เราอึดอัดที่ต้องมาอยู่กัน 3 คนเงี้ย บางวันเขาก็ไม่ได้นอนหรอกแต่กลับดึกเงี้ย เราก็นอนไม่หลับอ่ะ มีผู้ชายมาอยู่ด้วยในห้อง เราก็ต้องออกไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง บ้านแฟนบ้าง แทบจะไม่ได้อยู่ห้องเลย ปากเราก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก แต่ในใจ คิด! หลังๆก็เริ่มเยอะละ แฟนเขาซื้อของมาห้ามเรากินเว้ย แบบจะทำเป็นขำละพูดว่า 'ซื้อของมาให้แฟนพี่ด้วยแหล่ะ กินเยอะๆจะได้อ้วนๆ แต่เมล์ไม่ต้องกินหรอก เดี๋ยวอ้วน' เออ คือไม่บอกเราก็ไม่กินอยู่ดีอ่ะ ซื้อมาด้วยกัน 2 คน น่าเกียจโคตรรร แต่เรา
ก็โง่เลี้ยงมันอยู่ทุกวัน เช้าก่อนทำงาน เย็นหลังเลิกงานอีก คือเราดีกับพวกมันมาตลอดอ่ะ แต่เวลาทะเลาะกันเราเป็นคนไปตลอดเลย ไปนอนบ้านเพื่อน บ้านแฟน เร่ร่อนอย่างกะคนไม่มีที่อยู่อ่ะ ทะเลาะกันเพราะเรื่องแฟนเขาอ่ะแหล่ะ หลังๆเราก็ไม่ค่อยพอใจง่ะ สีหน้าเราก็เริ่มออกอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งถึงเดือน เมษายน เราไม่ได้อยู่ห้องเลยแม้แต่วันเดียว (อ่ะลืมบอก) เดือนมีนาเขาไลน์มาบอกเราตอนประมาณเกือบสิ้นเดือน ว่าจะออกจากห้องตอนสิ้นเดือนเมษา จะเอายังไง ให้เลือกระหว่าง 1.ให้เขาช่วยออกค่าห้อง แล้วเงินค่ามัดจำ 6000 มาแบ้งกัน
กับ 2.ให้เราออกค่าห้องคนเดียวละ เงินค่ามัดจำให้เราหมดเลย
เราเลยบอกแล้วแต่ เอาแบบแฟร์ อ่ะ ที่ไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบอ่ะ เพราะเราไม่รู้เรื่องไรหรอก เพราะเราไม่เคยเช่าห้องอยู่
เขาเลยเลือก ข้อ2 แต่เรามาคิดๆ ดูว่าเราไม่ได้อยู่ห้องเลยทำไมเราต้องมาจ่ายค่าห้องให้เขาด้วย ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่เราไม่ได้สร้างอ่ะ มันไม่แฟร์เลย
แต่ในช่วงนั้นเราอยู่บ้านนอก พอเรากลับมา มันขนของมันออกไปหมดละของเราที่เราให้ยืม ก็เอาไปด้วย เราเลยโทรไปเครีย เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้อยู่ห้องเลยแม้แต่วันเดียว เราจะจ่ายแค่ค่าห้อง ครึ่งนึงของ 3000 คือ 1500 แล้วในส่วนของค่าน้ำค่าไฟให้เขากะแฟนเขาจ่ายกันเอง เพราะเขามานอนกกกันอยู่นี่ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่บอกบอกว่าเราเลือกไปแล้ว คือข้อ 2.ที่เขาเสนอไป เราก็งงๆ เออเลือกให้กูนี่หว่า กูยังไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรเลย เราเลยไปถามเจ้าของห้องเรื่องค่ามัดจำ เจ้าของห้องบอกว่า ค่ามัดจำไม่ได้เต็ม 6000 นะ เพราะต้องหักค่าซ่อมห้อง ค่าชำรุดในห้อง
แล้วเราซ่อมแอร์ไป 3 รอบ เปลี่ยนเตียงใหม่อีก ซ่อมท่อตันอีก ซ่อมลูกบิดประตูอีก คงไม่เหลือเลยอ่ะดิ่งี้ เจ้าของห้องเขาก็บอกประมาณนั้นอ่ะจ่ะ
แล้วค่าไฟที่เขาก่อกัน มันใช้อะไรกันนักหนาตั้ง 3000 เหมือนโดนแกล้งอ่ะ ปกติเราอยู่ด้วยไม่เคยเกิน 1500 เลย เราเลยแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้เลย เปลี่ยนเบอร์หนี บล๊อกFacebook เราและก็คนรู้จักเราหมดเลย บล๊อกไลน์เราอีก คือติดต่อไม่ได้เลย เราขาดทุนไปตั้ง5000 รวมค่าห้องเดือนนั้นทั้ง6500 ตามจริงเราจะต้องจ่ายแค่ครึ่งของค่าห้องคือ 1500 ลบไป 6500 ก็ขาด 5000 แล้วเราทำอะไรไม่ได้เลย เราเจอค่าห้องเดือนนั้นไป 6500 เราทรุดเลยเพราะช่วงนั้นไม่ได้ทำงานด้วย
(บางส่วนอาจจะยังไม่ได้เล่านะคะ เห็นว่ามันยาวแล้ว เลยตัดออกบ้าง ตอนออกจากที่ทำงานเก่าอ่ะคะเขาก็เป็นคนบอกให้เราออก)
ต้องไปยืมตังแฟนก่อน เราก็เกรงใจเพราะแฟนเราก็ไปยืมแม่มาอีกที พวกนี้ลวงโลกมากค่ะ เราทำดีกับเขามาตลอด แต่สิ่งที่ได้รับคือการหลอกลวง กลโกงจากความไว้ใจ
เราจะลงโทษคนลวงโลกพวกนี้ ยังไงคะ (แจ้งตำรวจได้รึป่าว)
อยากรู้ว่า ถ้าเราอยู่ร่วมห้องกับคนอื่นแต่ชื่อในสัญญาเป็นชื่อเรา ถ้าเขาหนีเราสามารถเอาผิดเขาได้ไหมคะ
เราได้ไปทำงานไกลบ้าน เราเลยคิดที่จะหาห้องเช่าเล็กๆ ใกล้ที่ทำงาน เราแค่บ่นๆ แล้วเพื่อนที่ทำงานเราคนนึง พึ่งรู้จักกันแค่ 2 เดือน เอ่ยขึ้นว่า 'อยู่ด้วยกันมั้ยล่ะ เราก็จะย้ายห้องเหมือนกัน ถ้าจะมาอยู่ด้วยกันก็รีบบอกก่อนสิ้นเดือนนะ จะได้ย้ายขนของจากที่เก่าย้ายมาเลย จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าห้อง' ตอนแรกก็คิดนะ เออ ละเจ้าของห้องจะไม่ตามหรอวะ ปกติเราก็เป็นคนไว้ใจคนง่ายอยู่แล้วนะ เลยไม่ได้คิดอะไร แต่เรายังไม่ได้ตกลงนะ เขาก็มาตื้อ บอกให้เพื่อนอีกคนนึงชวนให้เราออกมาอยู่ห้อง จะได้อยู่ใกล้ที่ทำงาน และก็อยู่ใกล้ห้องเพื่อนที่ทำงานด้วยกันด้วย อืม ละเราก็ตกลงย้ายมาเดือน มกราคม สัญญา 6 เดือน ถึงเดือน มิถุนายน อยู่แรกๆก็ดีนะได้อยู่กะเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน แต่ดูเหมือนเขาจะเป็นคนมีความลับเยอะอ่ะ ยังไม่ค่อยรู้กันดีพอ
เราเป็นเด็กใหม่ในทราทำงาน วันนึงเราได้ไปสังสรรค์กะเพื่อนที่ร้าน (ที่ทำงาน) ร้านเหล้าใกล้ๆห้องเราอ่ะแหล่ะ พี่เขาๆ เขาก็เมากัน เขาหลุดปากพูดความลับบางอย่างออกมา เขาบอกว่ารู้กันแค่ในวงนี้ เขาเม้าท์กันว่า เพื่อนร่วมห้องเราคนนั้นแอบเป็นกิ๊กกะ ผช.ผจก.ในร้าน ทั้งๆที่มีแฟนของตัวเองทั้ง 2 คน เราก็เออเรื่องของเขาเหอะ แต่พอเรื่องในวงเหล้านั้นเริ่มแพ่กระจาย เราก็ถามเขาตรงๆ แต่เขาปฏิเสธเต็มปาก ละเขาก็เกลียดคนที่พูดเอามากๆ เลย เราก็เชื่อนะ จนกระทั่งมีวันนึง เขาหยุด 3 วันติด เขาบอกเราว่า อยู่ห้องคนเดียวนะ จะไปบางแสนกับผู้ชาย แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร เราก็โทรไปคุยด้วย เราก็ถามว่าอยู่กับ ผช.ผจก.หรอ เพราะเห็นหยุดยาวเหมือนกัน แต่เขาก็บอก ป่าววว เราเลยคิดว่าเขาคงไปกะแฟนเขามั้ง แต่ตอนกลับเขาแวะมาร้านที่ทำงาน มากะ ผช.ผจก. ทุกคนแซวเขา แต่เราอึ้ง อ่ะ โกหกทำไม ? ละ ผจก.ก้บอก อ่าวเมล์ยังไม่รู้หรอ อยู่ห้องด้วยกัน เขารู้กันทั้งร้านละ แต่เราก็ไม่ได้โกรธไรหรอก แต่ผู้หญิงคนนี้มีอะไรลึกกว่าที่เราเห็นเยอะมาก คือ แต่ก่อนเป็น PR แล้ว ผช.ผจก.ไปเที่ยว เลยไปเจอกันละออฟกลับมา มั้งนะ (นี่ไม่ค่อยแน่ใจ) ฟังๆมา แล้วเหมือนจะเป็นกิ๊กกัน เลยพากันมาทำงานที่ร้าน แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน เพราะต่างคนต่างมีแฟน แล้วที่ร้านถ้าคนเป็นแฟนกันจะไม่ให้อยู่ร้านเดียวกันอีกด้วย แล้วเขาเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการก็วันที่กลับจากบางแสน แล้ววันนึงความลับของ ผช.ผจก.ก็ถูกเปิดเผยว่า คบซ้อน ยังไม่เลิกกะแฟน แต่บอกกิ๊กว่าเลิกแล้ว กำลังห่างๆ ประมาณนี้ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็โทรมาเคลีย กับคนร่วมห้องเราซึ่งเป็นกิ๊ก เขาก็ได้แต่นั่งร้องไห้ (เราไม่เคยเห็นมุมนี้ของเขาเลย เขาค่อนข้างจะเป็นผู้หญิงเก่ง) พอผช.ผจก.กลับมาร้าน ซึ่งมาจากผู้หญิงคนนั้นแหล่ะ แต่ระหว่างที่โทรเคลียนั้น เขาเงียบไม่ยอมปริปาก แล้วมาปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่ ทั้งๆที่ผู้หญิงคนนั้นใช้เบอร์เขาโทรมา (โกหกไม่เนียนเลย) เขาก็ทะเลาะกันจนถึงขั้นจะเลิก แต่ผู้ชายไม่ยอมเลิก เพราะเขาโดนแฟนบอกเลิกอย่างเป็นทางการแล้ว แล้วเลิกกะกิ๊กไปคงไม่มีใครแล้ว เขาเลยมาขอร้อง อ้อนวอนให้เราช่วย อืม กลับห้องไปเราก็ปรอบเขา เราก็คอยบอกว่า เขาผิดไปแล้ว แล้วเธอกเป็นชอบเขาก่อนไม่ใช่หรอ ตอนนั้นก็รู้นิ่ว่าเขามีแฟนแล้วอ่ะ เขาเลยตะคิกใส่เราว่า ' ก็มันบอกว่ามันเลิกแล้วอ่ะ ตอนไปบางแสนอ่ะ' แล้วเขาก็เลยบอกว่า เออ จะคืนดี แต่จะหลอกใช้ (หลอกใช้ตัง) เราก็สงสาร ผช.ผจก. อยู่เหมือนกันนะ เป็นผู้ใหญ่ในร้านคนนึง พอไปทำงาน ผช.ก็มาถามเราใหญ่เลยว่าเป็นไงบ้าง เราก็บอก ก็คงจะดีขึ้นแหล่ะ...มั้ง เขาก็ทำหน้า งงๆ เราเลยบอก ดูเอาเอง ดูกันดีๆ อย่าพึ่งไว้ใจกันมากเกินไป...นะ (แค่นั้นจริง) ละพอพวกมันดีกัน พวกมันดันมากัดเราซะงั้น ไอ้ผู้ชายไปถามอี่ผู้หญิง (คนร่วมห้อง)ว่า คำพูดที่เราพูดมันหมายความว่าไง เขาก็ปฏิเสธกันเต็ม ใครซวยล่ะทีนี้ เขาไปโพสด่าเราเว้ยใน facebook ด่าว่าทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกบ้างล่ะ ว่าทำให้ยุยงให้คนรักทะเลาะกันบ้างล่ะ ลงท้ายด้วย E-dog,E-ven ต่างๆ นาๆ คำด่า แต่เราไม่รู้หรอกว่าเขาด่าใคร เราก็ไปไลค์ให้เขา แต่ไม่อยากยุ่งเลยไม่ถาม แฃ้วมารู้ทีหลังเว้ย ว่าด่าเรา เราก็ไม่โกรธนะ มันผ่านไปแล้ว แต่อยู้ร่วมห้องกันนั้น เรากล้าพูดเลยว่าเรามีแต่เสียกับเสีย เสียเปรียบ เสียตังค์ เราเลี้ยงเขามาตลอด ซื้อของมากินคนเดียวก็หน้าเกียจเลยต้องซื้อมาเผื่อ ทุกวัน! แต่เขาเราไม่เคยได้แตะอะไรเลย ก่อนเข้ามาอยู่ เขาเคยบอกเราว่า 'มาอยู่ด้วยกันแล้ว ถ้าคิดถึงแฟนก็ไปหากันเองนะ อย่าพากันมาห้อง อยู่ด้วยกันต้องเกรงใจกัน' เราก็โอนะ แต่เขากลับกลืนน้ำลายตัวเอง พาแฟนมาห้อง บางวันก็มานอน เดือนนึงเราแทบไม่ได้อยู่ห้องเรา เราอึดอัดที่ต้องมาอยู่กัน 3 คนเงี้ย บางวันเขาก็ไม่ได้นอนหรอกแต่กลับดึกเงี้ย เราก็นอนไม่หลับอ่ะ มีผู้ชายมาอยู่ด้วยในห้อง เราก็ต้องออกไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง บ้านแฟนบ้าง แทบจะไม่ได้อยู่ห้องเลย ปากเราก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก แต่ในใจ คิด! หลังๆก็เริ่มเยอะละ แฟนเขาซื้อของมาห้ามเรากินเว้ย แบบจะทำเป็นขำละพูดว่า 'ซื้อของมาให้แฟนพี่ด้วยแหล่ะ กินเยอะๆจะได้อ้วนๆ แต่เมล์ไม่ต้องกินหรอก เดี๋ยวอ้วน' เออ คือไม่บอกเราก็ไม่กินอยู่ดีอ่ะ ซื้อมาด้วยกัน 2 คน น่าเกียจโคตรรร แต่เรา
กับ 2.ให้เราออกค่าห้องคนเดียวละ เงินค่ามัดจำให้เราหมดเลย
เราเลยบอกแล้วแต่ เอาแบบแฟร์ อ่ะ ที่ไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบอ่ะ เพราะเราไม่รู้เรื่องไรหรอก เพราะเราไม่เคยเช่าห้องอยู่
เขาเลยเลือก ข้อ2 แต่เรามาคิดๆ ดูว่าเราไม่ได้อยู่ห้องเลยทำไมเราต้องมาจ่ายค่าห้องให้เขาด้วย ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่เราไม่ได้สร้างอ่ะ มันไม่แฟร์เลย
แต่ในช่วงนั้นเราอยู่บ้านนอก พอเรากลับมา มันขนของมันออกไปหมดละของเราที่เราให้ยืม ก็เอาไปด้วย เราเลยโทรไปเครีย เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้อยู่ห้องเลยแม้แต่วันเดียว เราจะจ่ายแค่ค่าห้อง ครึ่งนึงของ 3000 คือ 1500 แล้วในส่วนของค่าน้ำค่าไฟให้เขากะแฟนเขาจ่ายกันเอง เพราะเขามานอนกกกันอยู่นี่ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่บอกบอกว่าเราเลือกไปแล้ว คือข้อ 2.ที่เขาเสนอไป เราก็งงๆ เออเลือกให้กูนี่หว่า กูยังไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรเลย เราเลยไปถามเจ้าของห้องเรื่องค่ามัดจำ เจ้าของห้องบอกว่า ค่ามัดจำไม่ได้เต็ม 6000 นะ เพราะต้องหักค่าซ่อมห้อง ค่าชำรุดในห้อง
แล้วเราซ่อมแอร์ไป 3 รอบ เปลี่ยนเตียงใหม่อีก ซ่อมท่อตันอีก ซ่อมลูกบิดประตูอีก คงไม่เหลือเลยอ่ะดิ่งี้ เจ้าของห้องเขาก็บอกประมาณนั้นอ่ะจ่ะ
แล้วค่าไฟที่เขาก่อกัน มันใช้อะไรกันนักหนาตั้ง 3000 เหมือนโดนแกล้งอ่ะ ปกติเราอยู่ด้วยไม่เคยเกิน 1500 เลย เราเลยแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้เลย เปลี่ยนเบอร์หนี บล๊อกFacebook เราและก็คนรู้จักเราหมดเลย บล๊อกไลน์เราอีก คือติดต่อไม่ได้เลย เราขาดทุนไปตั้ง5000 รวมค่าห้องเดือนนั้นทั้ง6500 ตามจริงเราจะต้องจ่ายแค่ครึ่งของค่าห้องคือ 1500 ลบไป 6500 ก็ขาด 5000 แล้วเราทำอะไรไม่ได้เลย เราเจอค่าห้องเดือนนั้นไป 6500 เราทรุดเลยเพราะช่วงนั้นไม่ได้ทำงานด้วย
(บางส่วนอาจจะยังไม่ได้เล่านะคะ เห็นว่ามันยาวแล้ว เลยตัดออกบ้าง ตอนออกจากที่ทำงานเก่าอ่ะคะเขาก็เป็นคนบอกให้เราออก)
ต้องไปยืมตังแฟนก่อน เราก็เกรงใจเพราะแฟนเราก็ไปยืมแม่มาอีกที พวกนี้ลวงโลกมากค่ะ เราทำดีกับเขามาตลอด แต่สิ่งที่ได้รับคือการหลอกลวง กลโกงจากความไว้ใจ
เราจะลงโทษคนลวงโลกพวกนี้ ยังไงคะ (แจ้งตำรวจได้รึป่าว)