สวัสดีจ้ะ อันนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเราเองเลยค่ะ เลยมาแชร์ประสบการณ์แปลกๆ ให้อ่านกันนะคะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยตอนเราอยู่ ม.ปลายค่ะ ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด เวลาจะไปไหนมาไหนก็โดยสารรถไฟ
เช้าของทุกๆวันในช่วงปิดเทอม เราจะต้องไปส่งแม่เพื่อไปทำงานตอนเวลา ตีห้าครึ่ง ที่สถานีรถไฟ
วันนั้นแม่ก็ปลุกเราตื่นแบบเร่งๆ
"ตื่นๆๆ ได้เเล้วลูก เดี๋ยวแม่ไม่ทันรถ จะตีห้าครึ่งแล้ว"
เราตื่น แล้วลุกขึ้นมา เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น มองไปที่นาฬิกาบนผนังห้อง 3 เรือน เป็นเวลา ตี 5.20 ตรงกันหมด ก็หยิบมือถือใส่กระเป๋าแจ็คเก็ทแล้วขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งแม่
พอมาถึงที่สถานีรถไฟ เรากับแม่ก็งงๆ นิดหน่อย เพราะที่สถานีรถไฟมืดมาก ไฟก็ปิด คนก็ไม่มี ก็เลยเดาเอาว่ารถไฟน่าจะออกไปเเล้ว แม่เลยขอให้เราไปส่งอีกสถานีนึง เป็นชุมทางสถานีใหญ่ต่างอำเภอ รถไฟสายเหนือและสายอีสานต้องผ่านและจอดทุกขบวน แม่ถามว่าเราโอเคมั้ยเพราะมันยังมืดอยู่แล้วก็ไกลหน่อย เราก็โอเค เพราะเป็นทางที่คุ้นเคย ไม่มีแยก ไม่มีเลี้ยว แถมเคยผ่านบ่อยๆ
เราขับไปถึงสถานีนั้น แม่ถามว่าจะรออยู่ที่นี่จนสว่างก่อนแล้วค่อยกลับมั้ย เราตอบว่า "ไม่" เพราะอยากกลับบ้านเร็วๆมากกว่า
ทางเส้นนี้เป็นทางลูกรัง เราก็ขับรถไปเรื่อยๆ มองข้างทาง บ้านทุกหลังที่ผ่าน จนกระทั่งขับมาระยะหนึ่ง เริ่มสังเกตุว่า เสาไฟฟ้าไม่มี หญ้าข้างทางสูงมากจนท่วมหัว บ้านที่ควรจะผ่านแล้วก็ยังไม่ถึง แถมไม่คุ้นตาอีกต่างหาก ตัดสินใจขับไปอีกซักพัก ก็ชักจะไกลเกินไปแล้ว และเราก็เจอบ้านหลังหนึ่งอยู่ข้างทางด้านซ้ายมือ เป็นบ้านไม้สองชั้นหลังสีขาว มีหน้าต่างบานเดียวสีน้ำเงิน เราไม่คุ้นบ้านหลังนี้มาก่อนเลย แต่ก็จอดรถ เพราะยังรู้สึกว่าอย่างน้อยยังมีบ้านคนอยู่แถวนี้ เราเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาแม่ สัญญาณขีดเต็ม แต่เวลาโทรออก สัญญาณก็ตัดไปโดยอัตโนมัติ ไม่มีเสียงอะไร ลองอยู่หลายครั้ง ก็ไม่ได้ เลยลงจากรถเดินมาเกาะที่รั้วบ้านซึ่งสูงแค่เอว เราว่าจะเรียกแล้วถามทาง ตอนนั้นคิดว่าตัวเองหลงทาง แต่บ้านมันเงียบและมืดมาก หมาซักตัวก็ไม่มี ............ทีเเรกเราตัดสินใจว่าจะรอตรงนั้นจนถึงเช้าแล้วพยายามโทรหาแม่เรื่อยๆ แต่เราก็คิดว่าเส้นทางมันมีแค่เส้นเดียว คงต้องขับย้อนขึ้นไปจนกว่าจะเจอที่ๆ เราคุ้นๆ ตั้งหลักก่อน คิดได้ดังนั้นเราก็ขับย้อนไปเลยค่ะ ........
เราขับมาจนเห็นทางที่คุ้นๆ ก็จอดอยู่แป๊ปนึง แล้วคิดว่าจะทำไงดี ทางก็มีทางเดียวขับย้อนไปได้แค่ทางเก่า ตัดสินใจ เอาว๊ะ ย้อนกลับไปอีกทีนึง เจออะไรก็เจอ และ..........เราก็ผ่านบ้านทุกหลังที่เคยผ่าน แต่ไม่ได้เห็นบ้านหลังนั้น จนอีกแป๊ปเดียวเราก็เจอทางแยกสุดถนนที่จะเลี้ยวเข้าบ้านเราแล้ว ก็ยังงงๆอยู่ จนจอดรถ เข้าบ้านมาเสียงโทรศัพท์ก็ดัง แม่ก็โวยวายเพราะเป็นห่วงว่าโทรหาเราตั้งหลายครั้งไม่ติด แม่ถามว่ารู้มั้ยว่าตอนนี้กี่โมง ? เรามองหน้าฬิกา โทรศัพท์เกือบร่วงเลย.....ตอนนี้ ตี 4.10
เราเล่าให้แม่ฟังว่าเจอบ้านหลังนึง แม่รู้จักมั้ย แม่บอกว่า ไม่มีบ้านใครแถวนั้นเป็นอย่างที่เล่าเลย
........เช้าอีกวันนึงเป็นวันเสาร์ เรากับแม่เลยพากันขับรถไปทางนั้นเเล้วพยายามหาบ้านหลังนั้น ...ไม่เจอค่ะ
ไม่รู้ว่ามันคืออะไรนะคะ
ก็แชร์ประสบการณ์แปลกๆให้เพื่อนๆลองอ่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เราหลงทางไปที่ๆหนึ่ง แชร์ประสบการณ์แปลกๆ ค่ะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยตอนเราอยู่ ม.ปลายค่ะ ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด เวลาจะไปไหนมาไหนก็โดยสารรถไฟ
เช้าของทุกๆวันในช่วงปิดเทอม เราจะต้องไปส่งแม่เพื่อไปทำงานตอนเวลา ตีห้าครึ่ง ที่สถานีรถไฟ
วันนั้นแม่ก็ปลุกเราตื่นแบบเร่งๆ
"ตื่นๆๆ ได้เเล้วลูก เดี๋ยวแม่ไม่ทันรถ จะตีห้าครึ่งแล้ว"
เราตื่น แล้วลุกขึ้นมา เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น มองไปที่นาฬิกาบนผนังห้อง 3 เรือน เป็นเวลา ตี 5.20 ตรงกันหมด ก็หยิบมือถือใส่กระเป๋าแจ็คเก็ทแล้วขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งแม่
พอมาถึงที่สถานีรถไฟ เรากับแม่ก็งงๆ นิดหน่อย เพราะที่สถานีรถไฟมืดมาก ไฟก็ปิด คนก็ไม่มี ก็เลยเดาเอาว่ารถไฟน่าจะออกไปเเล้ว แม่เลยขอให้เราไปส่งอีกสถานีนึง เป็นชุมทางสถานีใหญ่ต่างอำเภอ รถไฟสายเหนือและสายอีสานต้องผ่านและจอดทุกขบวน แม่ถามว่าเราโอเคมั้ยเพราะมันยังมืดอยู่แล้วก็ไกลหน่อย เราก็โอเค เพราะเป็นทางที่คุ้นเคย ไม่มีแยก ไม่มีเลี้ยว แถมเคยผ่านบ่อยๆ
เราขับไปถึงสถานีนั้น แม่ถามว่าจะรออยู่ที่นี่จนสว่างก่อนแล้วค่อยกลับมั้ย เราตอบว่า "ไม่" เพราะอยากกลับบ้านเร็วๆมากกว่า
ทางเส้นนี้เป็นทางลูกรัง เราก็ขับรถไปเรื่อยๆ มองข้างทาง บ้านทุกหลังที่ผ่าน จนกระทั่งขับมาระยะหนึ่ง เริ่มสังเกตุว่า เสาไฟฟ้าไม่มี หญ้าข้างทางสูงมากจนท่วมหัว บ้านที่ควรจะผ่านแล้วก็ยังไม่ถึง แถมไม่คุ้นตาอีกต่างหาก ตัดสินใจขับไปอีกซักพัก ก็ชักจะไกลเกินไปแล้ว และเราก็เจอบ้านหลังหนึ่งอยู่ข้างทางด้านซ้ายมือ เป็นบ้านไม้สองชั้นหลังสีขาว มีหน้าต่างบานเดียวสีน้ำเงิน เราไม่คุ้นบ้านหลังนี้มาก่อนเลย แต่ก็จอดรถ เพราะยังรู้สึกว่าอย่างน้อยยังมีบ้านคนอยู่แถวนี้ เราเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาแม่ สัญญาณขีดเต็ม แต่เวลาโทรออก สัญญาณก็ตัดไปโดยอัตโนมัติ ไม่มีเสียงอะไร ลองอยู่หลายครั้ง ก็ไม่ได้ เลยลงจากรถเดินมาเกาะที่รั้วบ้านซึ่งสูงแค่เอว เราว่าจะเรียกแล้วถามทาง ตอนนั้นคิดว่าตัวเองหลงทาง แต่บ้านมันเงียบและมืดมาก หมาซักตัวก็ไม่มี ............ทีเเรกเราตัดสินใจว่าจะรอตรงนั้นจนถึงเช้าแล้วพยายามโทรหาแม่เรื่อยๆ แต่เราก็คิดว่าเส้นทางมันมีแค่เส้นเดียว คงต้องขับย้อนขึ้นไปจนกว่าจะเจอที่ๆ เราคุ้นๆ ตั้งหลักก่อน คิดได้ดังนั้นเราก็ขับย้อนไปเลยค่ะ ........
เราขับมาจนเห็นทางที่คุ้นๆ ก็จอดอยู่แป๊ปนึง แล้วคิดว่าจะทำไงดี ทางก็มีทางเดียวขับย้อนไปได้แค่ทางเก่า ตัดสินใจ เอาว๊ะ ย้อนกลับไปอีกทีนึง เจออะไรก็เจอ และ..........เราก็ผ่านบ้านทุกหลังที่เคยผ่าน แต่ไม่ได้เห็นบ้านหลังนั้น จนอีกแป๊ปเดียวเราก็เจอทางแยกสุดถนนที่จะเลี้ยวเข้าบ้านเราแล้ว ก็ยังงงๆอยู่ จนจอดรถ เข้าบ้านมาเสียงโทรศัพท์ก็ดัง แม่ก็โวยวายเพราะเป็นห่วงว่าโทรหาเราตั้งหลายครั้งไม่ติด แม่ถามว่ารู้มั้ยว่าตอนนี้กี่โมง ? เรามองหน้าฬิกา โทรศัพท์เกือบร่วงเลย.....ตอนนี้ ตี 4.10
เราเล่าให้แม่ฟังว่าเจอบ้านหลังนึง แม่รู้จักมั้ย แม่บอกว่า ไม่มีบ้านใครแถวนั้นเป็นอย่างที่เล่าเลย
........เช้าอีกวันนึงเป็นวันเสาร์ เรากับแม่เลยพากันขับรถไปทางนั้นเเล้วพยายามหาบ้านหลังนั้น ...ไม่เจอค่ะ
ไม่รู้ว่ามันคืออะไรนะคะ ก็แชร์ประสบการณ์แปลกๆให้เพื่อนๆลองอ่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ