เตือนภัย!! เห็บกัดไม่ใช่เรื่องธรรมดา
เราโดนเห็บกัดจากวัดบนเขา ที่จังหวัดชลบุรี ตอนไปถือศีลที่นั่นเมื่อประมาณปลายเดือน มกราคม 2556 (6เดือนก่อน) กำลังนั่งคุยกับเพื่อนๆอยู่แล้วเรารู้สึกว่า เหมือนมีอะไรกัดที่คอด้านท้ายทอย เราเกาๆ แล้วหยิบออกมา ปรากฏว่าเป็นเห็บตัวเล็กๆ มีลักษณะแบบนี้ค่ะ
เราเป็นแผลเป็น คัน และแสบเวลาโดนเหงื่อ ตลอดระยะเวลาที่เราบวช(เกือบ 2 เดือน) ที่วัดกินมังสวิรัติ เราจึงกินไปด้วยโดยปริยาย พอออกมาใช้ชีวิตภายนอก เราก็มีอาการเหม็นเนื้อสัตว์ทุกชนิด และกินไม่ได้อีก เหม็นแม้แต่น้ำปลา กินไข่ได้แต่ต้องสุกเท่านั้น หรือน้ำสลัดที่ใช้ไข่ดิบทำก็กินไม่ได้ เรามีอาการเวียนหัว มึนและชา เวลาได้กลิ่น น้ำซุปที่มีเนื้อสัตว์ หรือกระดูกสัตว์ จะเวียนหัวมาก เราไม่สามารถเข้าร้านเช่น MK หรือพวก ร้านปิ้งย่างทั้งหลายได้เลย ตอนออกมาจากวัดช่วงแรกๆ มีลองสเต็กปลาแซลม่อน ก็กินได้แต่รู้สึกเหม็นคาว และกินไปได้นิดเดียว อีก2-3วันไปกินเอ็มเคกะคนที่บ้าน เวียนหัวมาก รู้สึกชาไปทั้งหน้าทั้งหัวเลย ตั้งแต่วันนั้น เราก็กินมังสวิรัติมาตลอด 3อาทิตย์ก่อนไปนั่งร้านจิ้มจุ่มกะเพื่อนที่ทำงาน เราสั่งยำเห็ดรวมไม่ใส่เนื้อสัตว์ แต่ลืมบอกเค้าว่าไม่ใส่น้ำปลา พอเค้าเอามาเสิร์ฟจริงๆก็รู้ว่าเค้าใส่น้ำปลามา แต่ก็ลองกินดูเพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร พอกินหมดก็มีอาการเวียนหัวชาไปหมด เหมือนมีใครเอายาชามาฉีดใส่หัว กว่าจะหาย ก็ 3-4 ชม ถามว่าเรื่องมังสวิรัติเกี่ยวอะไรกะเห็บกัด จริงๆแล้วเราก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันเกี่ยวกันจนกระทั่งเจอ........
เราเอา key words ของ “นักเคมี” จากกระทู้ด้านบน “Ticks และ Lyme Disease ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมและเราแทบช็อคเมื่อเราเจอ
เราเลือกมาลงบางส่วน
”ผลคือเมื่อเหยื่อผู้ที่ไม่สงสัยว่าถูกกัดพยายามกินสเต็ก ลมพิษก็ลุกลาม และแพ้แบบรุนแรงขนาดเสียชีวิต”
“เห็บยังสามารถแพร่กระจายการติดเชื้อแบคทีเรีย โรคอาการแรกที่พบมากที่สุดคือผื่นแดงเป็นวงกลมรอบ ๆ รอยกัด หากทิ้งไว้ไม่ทำการรักษา พัฒนาอาการขึ้นไปอีกเป็นปี คือมีอาการปวดกล้ามเนื้อ, บวมตามข้อต่อและใบหน้าอัมพาตชั่วคราว
สถาบันคุ้มครองสุขภาพ (HPA) ประมาณการณ์ว่าในแต่ละปี มีผู้ป่วยจากโรค Lyme 2,000 ถึง 3,000 ในอังกฤษและเวลส์”
อ่านเพิ่มเติม
http://ascannotdo.wordpress.com/2012/08/03/%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B8/
กลับมาที่เรื่องแผลเป็นที่เห็บกัด คือมันเป็นตุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คันและแสบเวลามีเหงื่อออกอย่างที่บอก เราสระผมทุกวัน เพราะถ้าวันไหนไม่สระ บริเวณที่เป็นแผลเป็นจะคันมาก ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกันไหม
แผลเป็นที่เราเป็นกว้างประมาณ ประมาณ 2.5 cm x 1 cm ถ้ากดๆดูจะรู้สึกว่า ด้านใต้ผิวหนังเป็นไตๆแข็งๆ
เรายังไม่เคยหาหมอสำหรับอาการนี้เลย แต่เราคิดว่าอาการของเรา ถ้าไป รพ ทั่วๆไป หมออาจจะให้ยามากิน หรือทาอะไรเทือกนั้น เราจึงหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องนี้ และมีผู้แนะนำมาว่า เราควรจะไปหาหมอและตรวจที่ โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
http://www.tm.mahidol.ac.th/hospital/index-th.php เพราะที่นั่นจะมีแลปสำหรับเรื่องพวกนี้โดยเฉพาะ ซึ่งผู้แนะนำบอกว่ามีไม่กี่แห่งในประเทศไทย หลังจากไปแล้วได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม เราจะมาแชร์ให้เพื่อนๆทราบ จะได้ระวังกัน
หมายเหตุ : เราเป็นโรคภูมิแพ้ และโลหิตจางอยู่แล้ว
หลังจากโดนเห็บกัดไม่กี่วัน เราเป็นลมพิษทั้งตัว แบบในรูป ระยะเวลาแค่ 1 วันจากเช้า ประมาณตี3 จากที่เริ่มเป็นแค่ ตุ่มเดียวที่ขา และเรากลายเป็นแบบนี้ตอนเที่ยงคืน และไป รพ ทันที เราจำได้ว่าตอนนั้นเรามีอาการหายใจไม่ค่อยออกแล้ว หนาว และแสบไปทั้งตัว
ไปถึง รพ ไม่ถึง 10นาที เราก็โดนฉีดยา 2เข็ม หมอกับพยาบาลตรวจเร็วมาก พึ่งเข้าใจเวลาที่หายใจไม่ออกจริงๆ มันทรมานขนาดไหน หมอให้เราแอดมิดทันที หลังจากเข้าห้องแอดมิดก็ฉีดยาอีกเข็ม ผื่นค่อยๆยุบและหายภายในเวลาไม่กี่ชม หลังจากนั้นเรามีอาการผื่นขึ้นอีกเป็นระยะๆ (พึ่งหายเมื่อ 2เดือนก่อน) พอมีพื่นขึ้นเราก็ไปหาหมอ หมอก็ฉีดยาตามระเบียบ แต่พักหลังๆ หมอฉีดยาแล้วผื่นเราไม่ยุบ แค่หายคันชั่วคราว เป็นๆ หายๆแบบนี้ ประมาณ 7-8 ครั้ง นับจากปลายเดือนมกรา เราพยายามหลีกเลี่ยงอากาศร้อน และไม่ปล่อยให้ตัวเองเหงือออกเนื่องจากอากาศร้อน เพราะเหงื่ออกเมื่อไร เราจะคันเมื่อนั้น ((แต่เราออกกำลังกายที่บ้านได้นะ รีบออกรีบอาบน้ำ ))
ตอนนี้เราไม่มีผื่นขึ้นแล้ว
เราก็ไม่แน่ใจว่า ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกันไหม
แต่ก็อยากมาเตือนให้ระวังเห็บกันไว้ให้ดี
เตือนภัยเห็บกัดน่ากลัวกว่าที่คิด
เราโดนเห็บกัดจากวัดบนเขา ที่จังหวัดชลบุรี ตอนไปถือศีลที่นั่นเมื่อประมาณปลายเดือน มกราคม 2556 (6เดือนก่อน) กำลังนั่งคุยกับเพื่อนๆอยู่แล้วเรารู้สึกว่า เหมือนมีอะไรกัดที่คอด้านท้ายทอย เราเกาๆ แล้วหยิบออกมา ปรากฏว่าเป็นเห็บตัวเล็กๆ มีลักษณะแบบนี้ค่ะ
เราเป็นแผลเป็น คัน และแสบเวลาโดนเหงื่อ ตลอดระยะเวลาที่เราบวช(เกือบ 2 เดือน) ที่วัดกินมังสวิรัติ เราจึงกินไปด้วยโดยปริยาย พอออกมาใช้ชีวิตภายนอก เราก็มีอาการเหม็นเนื้อสัตว์ทุกชนิด และกินไม่ได้อีก เหม็นแม้แต่น้ำปลา กินไข่ได้แต่ต้องสุกเท่านั้น หรือน้ำสลัดที่ใช้ไข่ดิบทำก็กินไม่ได้ เรามีอาการเวียนหัว มึนและชา เวลาได้กลิ่น น้ำซุปที่มีเนื้อสัตว์ หรือกระดูกสัตว์ จะเวียนหัวมาก เราไม่สามารถเข้าร้านเช่น MK หรือพวก ร้านปิ้งย่างทั้งหลายได้เลย ตอนออกมาจากวัดช่วงแรกๆ มีลองสเต็กปลาแซลม่อน ก็กินได้แต่รู้สึกเหม็นคาว และกินไปได้นิดเดียว อีก2-3วันไปกินเอ็มเคกะคนที่บ้าน เวียนหัวมาก รู้สึกชาไปทั้งหน้าทั้งหัวเลย ตั้งแต่วันนั้น เราก็กินมังสวิรัติมาตลอด 3อาทิตย์ก่อนไปนั่งร้านจิ้มจุ่มกะเพื่อนที่ทำงาน เราสั่งยำเห็ดรวมไม่ใส่เนื้อสัตว์ แต่ลืมบอกเค้าว่าไม่ใส่น้ำปลา พอเค้าเอามาเสิร์ฟจริงๆก็รู้ว่าเค้าใส่น้ำปลามา แต่ก็ลองกินดูเพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร พอกินหมดก็มีอาการเวียนหัวชาไปหมด เหมือนมีใครเอายาชามาฉีดใส่หัว กว่าจะหาย ก็ 3-4 ชม ถามว่าเรื่องมังสวิรัติเกี่ยวอะไรกะเห็บกัด จริงๆแล้วเราก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันเกี่ยวกันจนกระทั่งเจอ........
เราเอา key words ของ “นักเคมี” จากกระทู้ด้านบน “Ticks และ Lyme Disease ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมและเราแทบช็อคเมื่อเราเจอ
เราเลือกมาลงบางส่วน
”ผลคือเมื่อเหยื่อผู้ที่ไม่สงสัยว่าถูกกัดพยายามกินสเต็ก ลมพิษก็ลุกลาม และแพ้แบบรุนแรงขนาดเสียชีวิต”
“เห็บยังสามารถแพร่กระจายการติดเชื้อแบคทีเรีย โรคอาการแรกที่พบมากที่สุดคือผื่นแดงเป็นวงกลมรอบ ๆ รอยกัด หากทิ้งไว้ไม่ทำการรักษา พัฒนาอาการขึ้นไปอีกเป็นปี คือมีอาการปวดกล้ามเนื้อ, บวมตามข้อต่อและใบหน้าอัมพาตชั่วคราว
สถาบันคุ้มครองสุขภาพ (HPA) ประมาณการณ์ว่าในแต่ละปี มีผู้ป่วยจากโรค Lyme 2,000 ถึง 3,000 ในอังกฤษและเวลส์”
อ่านเพิ่มเติม
http://ascannotdo.wordpress.com/2012/08/03/%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B8/
กลับมาที่เรื่องแผลเป็นที่เห็บกัด คือมันเป็นตุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คันและแสบเวลามีเหงื่อออกอย่างที่บอก เราสระผมทุกวัน เพราะถ้าวันไหนไม่สระ บริเวณที่เป็นแผลเป็นจะคันมาก ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกันไหม
แผลเป็นที่เราเป็นกว้างประมาณ ประมาณ 2.5 cm x 1 cm ถ้ากดๆดูจะรู้สึกว่า ด้านใต้ผิวหนังเป็นไตๆแข็งๆ
เรายังไม่เคยหาหมอสำหรับอาการนี้เลย แต่เราคิดว่าอาการของเรา ถ้าไป รพ ทั่วๆไป หมออาจจะให้ยามากิน หรือทาอะไรเทือกนั้น เราจึงหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องนี้ และมีผู้แนะนำมาว่า เราควรจะไปหาหมอและตรวจที่ โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
http://www.tm.mahidol.ac.th/hospital/index-th.php เพราะที่นั่นจะมีแลปสำหรับเรื่องพวกนี้โดยเฉพาะ ซึ่งผู้แนะนำบอกว่ามีไม่กี่แห่งในประเทศไทย หลังจากไปแล้วได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม เราจะมาแชร์ให้เพื่อนๆทราบ จะได้ระวังกัน
หมายเหตุ : เราเป็นโรคภูมิแพ้ และโลหิตจางอยู่แล้ว
หลังจากโดนเห็บกัดไม่กี่วัน เราเป็นลมพิษทั้งตัว แบบในรูป ระยะเวลาแค่ 1 วันจากเช้า ประมาณตี3 จากที่เริ่มเป็นแค่ ตุ่มเดียวที่ขา และเรากลายเป็นแบบนี้ตอนเที่ยงคืน และไป รพ ทันที เราจำได้ว่าตอนนั้นเรามีอาการหายใจไม่ค่อยออกแล้ว หนาว และแสบไปทั้งตัว
ไปถึง รพ ไม่ถึง 10นาที เราก็โดนฉีดยา 2เข็ม หมอกับพยาบาลตรวจเร็วมาก พึ่งเข้าใจเวลาที่หายใจไม่ออกจริงๆ มันทรมานขนาดไหน หมอให้เราแอดมิดทันที หลังจากเข้าห้องแอดมิดก็ฉีดยาอีกเข็ม ผื่นค่อยๆยุบและหายภายในเวลาไม่กี่ชม หลังจากนั้นเรามีอาการผื่นขึ้นอีกเป็นระยะๆ (พึ่งหายเมื่อ 2เดือนก่อน) พอมีพื่นขึ้นเราก็ไปหาหมอ หมอก็ฉีดยาตามระเบียบ แต่พักหลังๆ หมอฉีดยาแล้วผื่นเราไม่ยุบ แค่หายคันชั่วคราว เป็นๆ หายๆแบบนี้ ประมาณ 7-8 ครั้ง นับจากปลายเดือนมกรา เราพยายามหลีกเลี่ยงอากาศร้อน และไม่ปล่อยให้ตัวเองเหงือออกเนื่องจากอากาศร้อน เพราะเหงื่ออกเมื่อไร เราจะคันเมื่อนั้น ((แต่เราออกกำลังกายที่บ้านได้นะ รีบออกรีบอาบน้ำ ))
ตอนนี้เราไม่มีผื่นขึ้นแล้ว
เราก็ไม่แน่ใจว่า ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกันไหม
แต่ก็อยากมาเตือนให้ระวังเห็บกันไว้ให้ดี