ใครมีบุญเยอะกว่ากัน ?

ผมอยากรู้ว่า ผมควรเชื่อฟัง ใครดีคับ
ระหว่างผู้ให้กำเนิด กับ ผู้เลี้ยงดูใคร

ผู้เลี้ยงดูเรามาแต่เด็ก (ตายา)
ท่านค่อย สอนเรา ว่าเรา จ่ายค่าศึกษาให้เรา เลี้ยงดูผม และน้องมา ตั้งแต่ โดนทิ้ง (จากพ่อแม่)
หากไม่มี เค้าผมคงอยู่ไม่ได้ถึงทุกวันนี้ ณ ปัจจุบันผมก้อยังทราบซึ้งในพระคุณนี้ และตอนนี้ ท่าน อายุ 63-64 เริ่มไม่ไหวแล้ว แล้วผมเป็นเด็ก อายุ 17
จะช่วยอะไร ได้ นอกจาก ตั้งใจเรียนและช่วยงานที่บ้าน (งานค้าขายที่บ้าน)
และ
ผู้ให้กำเนิดเรามา (พ่อแม่)
ท่านทิ้งเราให้ อยู่กับ ผู้เลี้ยงดู (ตายา) ตั้งแต่ 7 ขวบ และ(หนี)ออกจากบ้านไป สาเหตุที่หนีก้อ ประมาณว่า ทำงานที่บ้านไม่ไหว
(ที่บ้านค้าขายของส่งงานเลยหนักหน่อย)
แล้วก้อ ทิ้งภาระให้ ลูกต้องทำงาน (งานที่บ้านนี้และคับ) มาตั้งแต่ 7 ขวบ + ภาระเลี้ยงดูน้องสาว 3 ขวบ
(หากผมไม่มี ตายาคงไม่ไหวจิงๆต้องขอบคุณจิงๆที่เค้าเลี้ยงเรามา) ณ ปัจจุบัน ท่าน(พ่อแม่)ไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยแต่ จะเข้ามาทำงานช่วยที่บ้าน
(ประมาณว่าไม่มีเงินเลยต้องทน ทำงานที่นี้) และที่แย่ที่สุดคือ เค้า สั่งให้เราทำเรื่องที่ไม่ดี อย่าง โกหก หรือ ลักขโมย เงินที่บ้าน
(บ้านที่ผมอยู่แล้วเงินก้อเงินตายานั้นแหละคับ) ทั้งที่เราไม่อยากทำ น่ะ แต่เค้า จะ อาจว่า ไม่ทำก้อแปลว่า ไม่กตัญญู กับผู้ให้ กำเนิด

ผมอาจจะพิม "งง" ก้อขออภัยน่ะคับ หาผิดพลาดก้อบอกน่ะคับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
การตอบแทนคุณมารดาบิดาอย่างสูงสุด

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

การตอบแทนคุณมารดาบิดาอย่างสูงสุด

ภิกษุทั้งหลาย ! เรากล่าวการกระทำตอบแทนไม่ได้ง่ายแก่ท่านทั้งสอง.
ท่านทั้งสองนั้นคือใคร ? คือ ๑. มารดา ๒. บิดา

ภิกษุทั้งหลาย ! บุตรพึงประคับประคองมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง
พึงประคับประคองบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง เขามีอายุมีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี
และเขาพึงปฏิบัติท่านทั้งสองนั้น ด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำและการดัด
และท่านทั้งสองนั้น พึงถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่าทั้งสองของเขานั่นแหละ.

ภิกษุทั้งหลาย ! การกระทำอย่างนั้นยังไม่ชื่อว่า
อันบุตรทำแล้ว หรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย.

ภิกษุทั้งหลาย ! อนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดาในราชสมบัติ อันเป็นอิสราธิปัตย์
ในแผ่นดินใหญ่อันมีรตนะ ๗ ประการ มากหลายเช่นนี้
การกระทำกิจอย่างนั้น ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้ว
หรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?
เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย.
ส่วนบุตรคนใด ยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้สมาทานตั้งมั่นในสัทธาสัมปทา
ยังมารดาบิดาผู้ทุศีล ให้สมาทานตั้งมั่นในสีลสัมปทา
ยังมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ ให้สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา
ยังมารดาบิดาทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา

ภิกษุทั้งหลาย ! ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล การกระทำอย่างนั้นย่อมชื่อว่า
อันบุตรนั้นทำแล้ว และทำตอบแทนแล้ว แก่มารดาบิดา.

ทุก. อํ. ๒๐/๗๘/๒๗๘.

ที่มา
http://waeowalee.wordpress.com/sutta1/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่