คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 20
เคยอ่านคอมเม้นนึงทำให้เราอยากรีบสอบบรรจุได้ในเร็ววัน
เม้นของคุณ Hunyi147 ค่ะ ไม่ทราบว่าเคยอ่านรึยัง
จากกระทู้ คิดไม่ตกเรื่องงาน ช่วยทีค่ะ http://ppantip.com/topic/32327251
........................................
เมื่อก่อน เป็นวิศวกรไฟแรง เกลียดราชการเข้าใส้ เพราะมันทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม มีใต้โต๊ะ มีนอกมีในตลอด
ผมจบมาเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว จบมาทำงานเอกชน ทำโอทีเกือบทุกวันไม่ดึกไม่กลับ มีเบี้ยเลี้ยง รายได้รวมสองสามหมื่นได้ แต่ทำงานเหนื่อยสะใจมาก.............จนวันนึง นึกอยากจะเรียนต่อ จึงลาออก ระหว่างรอเรียนเกิดอยากลองวิชา เลยสอบไปทั่ว โชคชะตาพาไป เกิดสอบติดราชการซะงั้น.......ด้วยความคิดว่า ราชการงานเบา ๆ ทำงานไปเรียนไป น่าจะได้ เลยเข้าทำงานราชการซะเลย จุดเปลี่ยนความคิดจึงเริ่มขึ้น
งานราชการ เงินเดือนน้อยตอนแรกบรรจุ 7600 แต่อัตราการขึ้นเงินเดือนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุงาน ทำงานเลิก 16.30 (8 ชม.) หยุดเสา อาทิตย์ เวลาเหลือเยอะมาก เลยเรียนตอนเย็น เสา-อา หางานอย่างอื่นทำมาตลอด รายได้เลยมีสองทาง จนเรียนจบ เวลาว่างยิ่งเพิ่มขึ้น จึงทำงานนอกได้อีกจนดึกจนดื่น ทุกวัน จนพบว่ารายได้จากงานนอกเยอะกว่า เงินเดือนซะงั้น จนกระทั่งมีเงินเก็บก้อนนึง เลยเอาไปลงทุนในกองทุน + หุ้น ยิ่งเยอะไปใหญ่ เงินเดือนราชการจึงแค่น้ำจิ้ม จนผมอายุงาน 10 กว่าปี อายุ เกือบ 35 เงินเดือนผมน้อยกว่าเพื่อนที่อยู่เอกชนเพียงเล็กน้อย แต่ถ้ารวมรายได้อื่น ๆ ผมว่าผมสู้ได้สบาย ๆ แต่เรื่องของความมั่นคงเห็นได้ชัดขึ้น เพราะเพื่อน ๆ เริ่มมีปัญหากลัวการเปลี่ยนงานเพราะอายุมาก กลัวโดนไล่ออกเพราะเงินเดือนสูง แต่ราชการกลับเงินเดือนเพิ่มมากขึ้น และมั่นคงมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
แล้ววันนึง.............
พ่อผมเกิดประสบอุบัติเหตุ ทางสมอง ผ่าตัด และ นอน รพ. อยู่ปีกว่า ๆ ผมเบิกค่ารักษาหลวงไปเกือบสองล้าน !!!!!.................
ผมนั่งนึกว่าถ้าผมทำงานเอกชน ผมคงหมดตัวไปกับการรักษาพ่อแล้วแน่ ๆ ทำให้ผมรู้สึกว่าหลวงให้โอกาสกับผมเยอะมาก
และผมยังเหลือแม่อีกคน แถมลูกอีก 1 เมียอีก 1 ที่มีโอกาสจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้.........ผมจึงเข้าใจคำว่า "ความมั่นคง" ที่คนเราต้องการมันคืออย่างนี้นี่เอง และหากมองอนาคต ถ้าเปรียบเทียบกับมนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน ผมน่าจะเงินเดือนพอ ๆ เพื่อน ๆ ซักตอน 40 ต้น ๆ ไม่รวมงานนอก
วันนี้ผมจึงไม่คิดจะออกจากราชการด้วยเหตุผลของเงินอีกต่อไป แต่สิ่งที่หนักใจตอนนี้คือการโยกย้าย อายุงานมากขึ้นเริ่มเป็นผุ้บริหาร เผอิญหน่วยงานผมเป็นหน่วยงานภูมิภาค การเติบโตในสายงานส่วนใหญ่จะต้องโยกย้าย ซึ่งเป็นปัญหากับงานนอกที่ผมมี ปัญหากับครอบครัว ผมอยากอยู่กับครอบครัว และรายได้ของครอบครัวผมก็มาจากงานนอกซะเยอะกว่าเงินเดือนราชการซะด้วย เอาไงดี????
ส่วนเรื่องการ การทำงานเช้าชามเย็นชามของราชการนั้น ยอมรับว่าราชการไม่มีระบบที่จะเขี่ยพวกนี้ออกได้จริง ๆ ส่วนเรื่องเส้นสาย และเรื่องการโกงกิน ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเอกชนหรือราชการ ก็เหมือน ๆ กันแหละครับ
ดังนั้นผมพอจะสรุปความเห็น และข้อดีข้อเสียให้ดังนี้
1. เรื่องเงิน ราชการจะน้อยกว่าเอกชน จนกว่าจะอายุงานประมาณ 15 - 20 ปี พอจะสู้เค้าได้
2. เรื่องเวลา ราชการจะมีมากกว่าเอกชนมาก ซึ่งตรงนี้คุณเปลี่ยนเวลาเป็นเงินได้ ถ้าทำเป็น
แต่ถ้าคุณมีเงินพอแล้ว คุณจะมีเวลาให้ครอบครัวมาก ๆ
3. พออายุ 35 เอกชนเริ่มลำบากถ้ายังผันตัวเป็นผุ้บริหารไม่ได้ ส่วนราชการไม่มีปัญหากะลังไปได้สวย
4. เรื่องสวัสดิการ ราชการเท่าไหร่เท่ากัน เอกชนมีกี่แห่งที่จะจ่ายให้ผมได้เป็นล้าน สำหรับรักษาพ่อคนนึง
5. ความก้าวหน้า เอกชน---> ฝีมือล้วน ๆ ส่วนราชการ ไหลไปได้เรื่อย ๆ ถ้าไม่ง่อยจนเกินไป
6. เรื่องการโยกย้าย ไม่ได้อยู่ที่เป็นราชการหรือเอกชน มีโอกาสทั้งคู่ แล้วแต่ว่าอยู่องค์กรแบบไหน
7. แต่ถ้าทำงานเพื่อประสบการณ์ ความรู้ -------- เอกชนเจ๋งกว่าเยอะ
8. ข้อนี้สำคัญสุด "คุณมีความสุขกับการทำงานแบบไหน ?????"
สรุป ผมว่าถ้าคุณคิดจะเป็นมนุษย์งินเดือน ราชการก็ไม่ได้ขี้เหร่หรอก เผลอ ๆ ดีกว่าถ้าบริหารเวลาเป็น และหางานสำรองไว้อย่างน้อยหนึ่งอย่าง วันนึงถ้าคุณพร้อมจะออกมาเป็นเจ้าของกิจการเอง วันนั้นจะไม่เสี่ยงมาก เหมือนกับที่คุณเริ่มจาก O โดยไม่มีรายได้หลักอะไรเลย
เม้นของคุณ Hunyi147 ค่ะ ไม่ทราบว่าเคยอ่านรึยัง
จากกระทู้ คิดไม่ตกเรื่องงาน ช่วยทีค่ะ http://ppantip.com/topic/32327251
........................................
เมื่อก่อน เป็นวิศวกรไฟแรง เกลียดราชการเข้าใส้ เพราะมันทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม มีใต้โต๊ะ มีนอกมีในตลอด
ผมจบมาเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว จบมาทำงานเอกชน ทำโอทีเกือบทุกวันไม่ดึกไม่กลับ มีเบี้ยเลี้ยง รายได้รวมสองสามหมื่นได้ แต่ทำงานเหนื่อยสะใจมาก.............จนวันนึง นึกอยากจะเรียนต่อ จึงลาออก ระหว่างรอเรียนเกิดอยากลองวิชา เลยสอบไปทั่ว โชคชะตาพาไป เกิดสอบติดราชการซะงั้น.......ด้วยความคิดว่า ราชการงานเบา ๆ ทำงานไปเรียนไป น่าจะได้ เลยเข้าทำงานราชการซะเลย จุดเปลี่ยนความคิดจึงเริ่มขึ้น
งานราชการ เงินเดือนน้อยตอนแรกบรรจุ 7600 แต่อัตราการขึ้นเงินเดือนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุงาน ทำงานเลิก 16.30 (8 ชม.) หยุดเสา อาทิตย์ เวลาเหลือเยอะมาก เลยเรียนตอนเย็น เสา-อา หางานอย่างอื่นทำมาตลอด รายได้เลยมีสองทาง จนเรียนจบ เวลาว่างยิ่งเพิ่มขึ้น จึงทำงานนอกได้อีกจนดึกจนดื่น ทุกวัน จนพบว่ารายได้จากงานนอกเยอะกว่า เงินเดือนซะงั้น จนกระทั่งมีเงินเก็บก้อนนึง เลยเอาไปลงทุนในกองทุน + หุ้น ยิ่งเยอะไปใหญ่ เงินเดือนราชการจึงแค่น้ำจิ้ม จนผมอายุงาน 10 กว่าปี อายุ เกือบ 35 เงินเดือนผมน้อยกว่าเพื่อนที่อยู่เอกชนเพียงเล็กน้อย แต่ถ้ารวมรายได้อื่น ๆ ผมว่าผมสู้ได้สบาย ๆ แต่เรื่องของความมั่นคงเห็นได้ชัดขึ้น เพราะเพื่อน ๆ เริ่มมีปัญหากลัวการเปลี่ยนงานเพราะอายุมาก กลัวโดนไล่ออกเพราะเงินเดือนสูง แต่ราชการกลับเงินเดือนเพิ่มมากขึ้น และมั่นคงมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
แล้ววันนึง.............
พ่อผมเกิดประสบอุบัติเหตุ ทางสมอง ผ่าตัด และ นอน รพ. อยู่ปีกว่า ๆ ผมเบิกค่ารักษาหลวงไปเกือบสองล้าน !!!!!.................
ผมนั่งนึกว่าถ้าผมทำงานเอกชน ผมคงหมดตัวไปกับการรักษาพ่อแล้วแน่ ๆ ทำให้ผมรู้สึกว่าหลวงให้โอกาสกับผมเยอะมาก
และผมยังเหลือแม่อีกคน แถมลูกอีก 1 เมียอีก 1 ที่มีโอกาสจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้.........ผมจึงเข้าใจคำว่า "ความมั่นคง" ที่คนเราต้องการมันคืออย่างนี้นี่เอง และหากมองอนาคต ถ้าเปรียบเทียบกับมนุษย์เงินเดือนเหมือนกัน ผมน่าจะเงินเดือนพอ ๆ เพื่อน ๆ ซักตอน 40 ต้น ๆ ไม่รวมงานนอก
วันนี้ผมจึงไม่คิดจะออกจากราชการด้วยเหตุผลของเงินอีกต่อไป แต่สิ่งที่หนักใจตอนนี้คือการโยกย้าย อายุงานมากขึ้นเริ่มเป็นผุ้บริหาร เผอิญหน่วยงานผมเป็นหน่วยงานภูมิภาค การเติบโตในสายงานส่วนใหญ่จะต้องโยกย้าย ซึ่งเป็นปัญหากับงานนอกที่ผมมี ปัญหากับครอบครัว ผมอยากอยู่กับครอบครัว และรายได้ของครอบครัวผมก็มาจากงานนอกซะเยอะกว่าเงินเดือนราชการซะด้วย เอาไงดี????
ส่วนเรื่องการ การทำงานเช้าชามเย็นชามของราชการนั้น ยอมรับว่าราชการไม่มีระบบที่จะเขี่ยพวกนี้ออกได้จริง ๆ ส่วนเรื่องเส้นสาย และเรื่องการโกงกิน ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเอกชนหรือราชการ ก็เหมือน ๆ กันแหละครับ
ดังนั้นผมพอจะสรุปความเห็น และข้อดีข้อเสียให้ดังนี้
1. เรื่องเงิน ราชการจะน้อยกว่าเอกชน จนกว่าจะอายุงานประมาณ 15 - 20 ปี พอจะสู้เค้าได้
2. เรื่องเวลา ราชการจะมีมากกว่าเอกชนมาก ซึ่งตรงนี้คุณเปลี่ยนเวลาเป็นเงินได้ ถ้าทำเป็น
แต่ถ้าคุณมีเงินพอแล้ว คุณจะมีเวลาให้ครอบครัวมาก ๆ
3. พออายุ 35 เอกชนเริ่มลำบากถ้ายังผันตัวเป็นผุ้บริหารไม่ได้ ส่วนราชการไม่มีปัญหากะลังไปได้สวย
4. เรื่องสวัสดิการ ราชการเท่าไหร่เท่ากัน เอกชนมีกี่แห่งที่จะจ่ายให้ผมได้เป็นล้าน สำหรับรักษาพ่อคนนึง
5. ความก้าวหน้า เอกชน---> ฝีมือล้วน ๆ ส่วนราชการ ไหลไปได้เรื่อย ๆ ถ้าไม่ง่อยจนเกินไป
6. เรื่องการโยกย้าย ไม่ได้อยู่ที่เป็นราชการหรือเอกชน มีโอกาสทั้งคู่ แล้วแต่ว่าอยู่องค์กรแบบไหน
7. แต่ถ้าทำงานเพื่อประสบการณ์ ความรู้ -------- เอกชนเจ๋งกว่าเยอะ
8. ข้อนี้สำคัญสุด "คุณมีความสุขกับการทำงานแบบไหน ?????"
สรุป ผมว่าถ้าคุณคิดจะเป็นมนุษย์งินเดือน ราชการก็ไม่ได้ขี้เหร่หรอก เผลอ ๆ ดีกว่าถ้าบริหารเวลาเป็น และหางานสำรองไว้อย่างน้อยหนึ่งอย่าง วันนึงถ้าคุณพร้อมจะออกมาเป็นเจ้าของกิจการเอง วันนั้นจะไม่เสี่ยงมาก เหมือนกับที่คุณเริ่มจาก O โดยไม่มีรายได้หลักอะไรเลย
แสดงความคิดเห็น
งานไหนดี ครับ รับราชการ vs เอกชน