จิ่วไจ้โกว ประเทศจีน ปี 2013
( ขอมารีวิวทริปย้อนหลังค่ะ ไปช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2013 )
นี่เป็น 1 ทริปในฝัน ที่ต้องไปให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ตามอ่านรีวิวจากที่นี่จนปวดตา และต้องขอบคุณที่ทำให้เราสามารถเดินทางไปได้ด้วยตัวเอง
การมองผ่านรูปถ่าย ไม่เท่าสู้ไปสัมผัสบรรยากาศ ความหนาว สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ กับเพื่อนๆ นักเดินทางที่มีหัวใจตรงกัน
อย่างน้อย คนที่ไปที่นี่ ต้องเป็นคนนึงที่รักธรรมชาติมาก
สำหรับการเดินทางคร่าวๆ เราวางแผนออกเดินทางกันเอง
ไม่มีใครพูดจีนได้เลย นอกจากคำว่า หนีฮ่าว ( สวัสดี ) เชี่ยๆ ( ที่ยังคงจำได้ว่า คือ ขอบคุณ และพวกเราก็จะยิ้มกว้างทุกครั้งที่พูดคำนี้ แหมะ )
ไปกันทั้งหมด 4 คนค่ะ ขนาดเพื่อนร่วมทางที่พอดี สำหรับการนั่งรถไปไหนมาไหนได้เต็มคัน
สถานที่เป้าหมาย ล๊อคพิกัดไว้เรียบร้อย คือ
อุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว
อุทยานแห่งชาติ หวงหลง
และเดินเที่ยวชมบ้านหมีแพนด้า ที่เฉินตู
พวกเราออกเดินทางจาก กรุงเทพ - เฉินตู ใช้เวลาการบินราวๆ สามชั่วโมงก็ถึงสนามบิน นั่งรถเราพักที่ Traffic inn ในคืนแรก
พร้อมให้เค้าติดต่อซื้อตั๋วรถบัสที่จะไปจิ่วไจ้โกวให้ในเช้าวันต่อมา
เราเดินทางจากเฉินตูด้วยรถบัส เป็นเวลา 10 ชม.
มีแวะจอดให้เข้าห้องน้ำ พร้อมโซ้ยข้าว อย่างรวดเร็วครั้งละ 20 นาที
สภาพห้องน้ำก็โอเพ่นนิดๆ มีผนังกั้นซ้ายขวา แต่ด้านหน้านั้น ... ก็แล้วแต่จะหลบกันเองนะคะ
ก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่แย่เกินไปนักเมื่อเทียบกับคำบอกเล่าที่ได้ยินมา มีร้านขายผลไม้ แอปเปิลที่นี่ลูกใหญ่มาก
เลยซื้อมาลองชิมกันซักหน่อย
บรรยากาศการเดินทางเปลี่ยนจากในเมืองที่แออัด สู่การข้ามเขาหลายๆ ลูก ข้างทางงดงามสมคำร่ำลือ
หลับๆ ตื่นๆ ถ่ายรูปข้างทางเป็นระยะ อุณหภูมิค่อยๆ ลดลง จนต้องหยิบเสื้อกันหนาวอีกตัวมาใส่
ไม่นานนัก พวกเราก็มาถึงในเมืองจิ่วไจ้โกวค่ะ หลังจากลงบัส เราก็มองหาแท๊กซี่พาเราไปส่งที่พักและคืนนี้
เราพักที่ Hostel C สตาฟที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยมทุกคน
พร้อมช่วยติดต่อเรื่องรถแท๊กซี่ ที่จะเข้าหวงหลงให้ด้วย อาจจะแพงกว่าที่เราหาเอง แต่เค้าค่อนข้างเอาใจใส่
และช่วยประสานงานกับคนขับให้ด้วยเป็นอย่างดี
ปล. เดี๋ยวมาต่อนะคะ รีวิวนี้ จะเป็นกึ่งถ่ายรูปกับบันทึกการเดินทางซะส่วนใหญ่
ขอบคุณที่เข้ามารับชมค่ะ ^^
>>> บันทึกการเดินทาง The autumn trip in Sichuan, China : Jiuzhaigou ตอนที่ 1
( ขอมารีวิวทริปย้อนหลังค่ะ ไปช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2013 )
นี่เป็น 1 ทริปในฝัน ที่ต้องไปให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ตามอ่านรีวิวจากที่นี่จนปวดตา และต้องขอบคุณที่ทำให้เราสามารถเดินทางไปได้ด้วยตัวเอง
การมองผ่านรูปถ่าย ไม่เท่าสู้ไปสัมผัสบรรยากาศ ความหนาว สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ กับเพื่อนๆ นักเดินทางที่มีหัวใจตรงกัน
อย่างน้อย คนที่ไปที่นี่ ต้องเป็นคนนึงที่รักธรรมชาติมาก
สำหรับการเดินทางคร่าวๆ เราวางแผนออกเดินทางกันเอง
ไม่มีใครพูดจีนได้เลย นอกจากคำว่า หนีฮ่าว ( สวัสดี ) เชี่ยๆ ( ที่ยังคงจำได้ว่า คือ ขอบคุณ และพวกเราก็จะยิ้มกว้างทุกครั้งที่พูดคำนี้ แหมะ )
ไปกันทั้งหมด 4 คนค่ะ ขนาดเพื่อนร่วมทางที่พอดี สำหรับการนั่งรถไปไหนมาไหนได้เต็มคัน
สถานที่เป้าหมาย ล๊อคพิกัดไว้เรียบร้อย คือ
อุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว
อุทยานแห่งชาติ หวงหลง
และเดินเที่ยวชมบ้านหมีแพนด้า ที่เฉินตู
พวกเราออกเดินทางจาก กรุงเทพ - เฉินตู ใช้เวลาการบินราวๆ สามชั่วโมงก็ถึงสนามบิน นั่งรถเราพักที่ Traffic inn ในคืนแรก
พร้อมให้เค้าติดต่อซื้อตั๋วรถบัสที่จะไปจิ่วไจ้โกวให้ในเช้าวันต่อมา
เราเดินทางจากเฉินตูด้วยรถบัส เป็นเวลา 10 ชม.
มีแวะจอดให้เข้าห้องน้ำ พร้อมโซ้ยข้าว อย่างรวดเร็วครั้งละ 20 นาที
สภาพห้องน้ำก็โอเพ่นนิดๆ มีผนังกั้นซ้ายขวา แต่ด้านหน้านั้น ... ก็แล้วแต่จะหลบกันเองนะคะ
ก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่แย่เกินไปนักเมื่อเทียบกับคำบอกเล่าที่ได้ยินมา มีร้านขายผลไม้ แอปเปิลที่นี่ลูกใหญ่มาก
เลยซื้อมาลองชิมกันซักหน่อย
บรรยากาศการเดินทางเปลี่ยนจากในเมืองที่แออัด สู่การข้ามเขาหลายๆ ลูก ข้างทางงดงามสมคำร่ำลือ
หลับๆ ตื่นๆ ถ่ายรูปข้างทางเป็นระยะ อุณหภูมิค่อยๆ ลดลง จนต้องหยิบเสื้อกันหนาวอีกตัวมาใส่
ไม่นานนัก พวกเราก็มาถึงในเมืองจิ่วไจ้โกวค่ะ หลังจากลงบัส เราก็มองหาแท๊กซี่พาเราไปส่งที่พักและคืนนี้
เราพักที่ Hostel C สตาฟที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยมทุกคน
พร้อมช่วยติดต่อเรื่องรถแท๊กซี่ ที่จะเข้าหวงหลงให้ด้วย อาจจะแพงกว่าที่เราหาเอง แต่เค้าค่อนข้างเอาใจใส่
และช่วยประสานงานกับคนขับให้ด้วยเป็นอย่างดี
ปล. เดี๋ยวมาต่อนะคะ รีวิวนี้ จะเป็นกึ่งถ่ายรูปกับบันทึกการเดินทางซะส่วนใหญ่
ขอบคุณที่เข้ามารับชมค่ะ ^^