เมื่อ 3  วันที่แล้วได้มีโอกาสนั่งรถตู้โดยสารไป ศรีราชา จาก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยก็ไปขึ้นรถตู้ท่าหนึ่งอยู่ใกล้กับทางลง BTS
ตอนซื้อตั๋วเสร็จ
คนขายตั๋ว : ขึ้นรถเลยน้องรถจะออกแล้ว
ผม          : ครับ
                           เดินเปิดประตูขึ้นไปพบว่าข้างหลังเต็มแล้วก็เลยต้องมานั่งข้างหน้าแทน  สักพักคนขับก็ขึ้นรถพูดว่า ''ผู้โดยสารทุกคนรัดเข็มขัดด้วยครับ''
                             คิดในใจ  "อะไรวะตั้งแต่นั่งมาไม่เคยเจอ'' อารมณ์เซ็งนิดๆ อาจเป็นกฏของท่ารถเค้าอ่ะ
    เข้าเรื่อง.....      
                           สักพักก็เหลือบไปเห็นระบบเกียร์เป็นเกียร์ คิดในใจมัน toyota commuter รุ่นไหนวะมีเกียร์ออโต้ด้วย เจ๋งจริงครับ
                                                        ปกติเคยเห็นแต่เกียร์ธรรมดา เลยเปิดเวพโตโยต้าดูก็ไม่เห็นมี
                                                    ในเวพมีแต่ 3.0D4D ดีเซล แต่นี่ไม่น่าใช่ เสียงเครื่องไม่น่าใช่ดีเซล  
       พอคนขับ ขับรถออกไปรู้สึกว่าเปลี่ยนเกียร์นุ่มมากแบบหลับสบายอ่ะ (ถ้าตัดเสียงเครื่องยนต์ที่คนขับลากรอบ) ก็เลยถามคนขับ
     ผม : พี่ครับๆ ผมสงสัยอ่ะถามอะไรหน่อยดิ
คนขับ  : อะไรหรอน้อง
     ผม : รถพี่รุ่นไหนอ่ะ ทำไมมันเป็นเกียร์ออโต้ เพราะ toyota ไม่เห็นมีขายรุ่นนี้เลยอ่าครับ
คนขับ  : อ่อ รถรุ่นนี้เป็นรถนำเข้าครับน้อง เถ้าแก่สั่งมาจากต่างประเทศ
     ผม : (คิดในใจ) ท่านี่เค้าเจ๋งจริงรถนำเข้าด้วย ก็เลยถามไปว่าแล้วระบบมันมีอะไรต่างจากรถไทยบ้างหรอครับ
คนขับ  : พี่เค้าบอกมันจะมีระบบเกียร์ที่เป็นออโต้เข้ามาส่วน ระบบ เครื่องจะเป็นเครื่อง vvt-i ตัวเดียวที่ใช้กับรถแท็กซี่ ต่างกันที่ CC จะเป็น 2.7
    ผม  : (คิดในใจ)พี่เค้ารู้ลึกจริง เลยถามว่า แล้วรถแรงไหมครับพี่ถ้าเทียบกับคอมมิวเตอร์ด้วยกันที่วิ่งกันอยู่อ่ะครับ
คนขับ  : โอ้ยน้องรถพวกนั้นมันเป็นรถส่วนใหญ่เค้าเอาไปลงเครื่องเจติดแก๊สกัน (วิ่งจริงๆไม่เท่าไหร่หรอก)
   ผม   : แล้วทำไมตอนออกตัวพี่ต้องใช้เกียร์ L ด้วยอ่าครับ
คนขับ  : ถ้าใช้ D หรือ D3 เวลาออกตัวมันไม่ถึงใจน้อง
   ผม   : คิดในใจ พี่คนขับอายุประมาณ เกือบ 50 แต่พูดว่าไม่ถึงใจ >< ม่ายก็อด พี่ๆอยากรู้อ่ะว่ารถพี่ไปได้เท่าไหร่นะนะนะนะคัฟพี่ ไหนๆผู้โดยสารส่วนใหญ่
            ก็หลับกันหมดแล้ว
คนชับ  : ได้เลยน้องจัดไป เตรียมนับวิเลยนะน้อง
  ผม    : เอิ่ม.....
                                               หลังจากจ่ายเงินด่านลาดกระบังเสร็จ พี่เค้าตบมาที่เกียร์  L พร้อมเสียงกระทืบคันเร่งดังสนั่น !!!!
เริ่มต้นเกีบร์ L พี่แกกดเต็มเท้า รอบถึงประมาณเกือบ 4 พัน แล้วพี่แกดัน คันเกียร์ไปที่ 2 อารม์ตอนนั้นนึกว่านนั่งวีโก้เครื่อง 3000 อารมณ์แนวรถตู้สปอรต์
สักพักตบที่ D-3 พอถึง 130 ตบมาที่เกียร์ D หลักจากนั้นลากต่อเรื่อยๆ ไปจนถึงเกือบ 160 รถเลนขวาสุดต้องหลบให้ แล้วพี่เค้าก็ผ่อนมาเหลือ 130
ตอนถึง 100 นับวิได้ 10 วิเกือบ 11  
อันนี้รูปตอนเหยียบครับผม (เอาให้มันขึ้นไม่ได้ T T)
[img]http://image.ohozaa.com/i/229/IDWJ9a.png[/img]
คนขับ : หมดระยะน้อง
ผม     : ทำไมอ่าครับพี่
คนขับ : ถ้ารถพี่ตอนป้ายแดงคงเหยียบได้เพราะรถยังไม่จดทะเบียนกับขนส่งแต่ตอนนี้ป้ายเหลืองวิ่งไม่ได้ล่ะถ้าโดนใบสั่งที 5000 บาทต่อใบ ล่ะพี่เจ้งเลย
ผม     : แล้วมันได้เท่าไหร่หรอครัช
คนขับ : 160 อ่ะถึงแน่ๆแต่หลังจากนั้นไม่รู้เพราะยังไม่เคยลองแต่รอบรถมันยังเหลืออยู่ พี่ยังไม่มีจังหวะเหยียบสักที่ถนนไม่ให้
ผม     : แล้วทำไมพี่ต้องตบเกียร์ขึ้นก่อนอ่าครัชในเมื่อรอบยังไม่ถึง ปกติถ้าเกียร์ D มันจะเปลี่ยนเกียร์ช่วงรอบหมดหรือใกล้ขีดแดงนิพี่
คนขับ : นั่นแหล่ะความลับของพี่
ผม     : ความลับอะไรหรอพี่
คนขับ : โดยปกติรถยนต์ทุกคันมันจะมีช่วงแรงบิทหรือแรงม้าที่สูงสุดอยู่ไม่เหมือนกันในแต่ล่ะคัน โดยรอบรถพี่ที่ แรงจะมาช่วง 2200-3800
           ถ้าน้อยไปแรงก็ไม่มา ถ้าลากมากไปก็เปลืองน้ำมันเฉยๆลากไปก็เท่านั้นเพราะแรงรถมันหมด น้องไม่สังเกตเลยหรอว่าทำไมตอนพี่เร่งรถพี่ความเร็ว           ไหลต่อเนื่องตลอด เพราะตอนแรกพี่ขับใหม่ๆก็ขับแบบที่น้องพูดแหละเกียร์ออโต้เกียร์ D กดมิด ลากยาว ถึงความเร็วที่ต้องการก็ถอนคันเร่งลง              บางทีออกตัวขนาดนี้ยังโดนรถเก๋งบางคันแซงก็มี
ผม     : เข้าใจอย่างท่องแท้เลย พี่รู้ลึกจริงนะเนี่ย
                                                                          สุดท้ายถึงที่หมายอย่างปลอดภัยครับผม

คำถามครับ
                        1. จึงอยากจะถามว่ารถรุ่นนี้แท้จริงมันวิ่งความเร็วสูงสุดได้เท่าไหร่หรอครับ
                        2. และข้อมูลรถที่พี่เค้าพูดมานั้นจริงหรือไม่อย่างไรกับการชับรถทฤษฎีแบบพี่เขาอ่าครับ