คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
อืมม ...
อาการอย่างนี้ ภาษาผมเรียกว่า "ฟุ้งซ่าน" ...
น้องครับ ก่อนจะหาว่าต้องเรียนคณะอะไรนะ ช่วยตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า "ที่ว่ามาทั้งหมดเนี่ย เคยทำอันไหนเป็นชิ้นเป็นอันแบบนานๆบ้างรึยัง ???" รู้ครับว่าชอบ รู้ครับว่าเก่งหลายอย่าง แต่น้องรู้มั๊ย ในโลกแห่งความจริงน่ะ เขาไม่ได้วัดกันด้วย "Creativity" อย่างเดียวหรอกนะ ถ้าน้องจะถามหางานที่ใช้ความครีเอทในการทำงาน พี่ตอบเลยว่า "งานทุกอย่างบนโลกนี้ ล้วนต้องใช้ความครีเอท" ครับ "การมีความคิดสร้างสรรค์" ไม่ใช่การแค่ออกแบบสิ่งของหรือทำงานศิลปะ "แต่มันคือการเข้าใจกระบวนการทำงานของสิ่งต่างๆบนโลกและสามารถพลิกแพลงเอามาใช้ประโยชน์ได้ " สินค้าแฟชั่น เช่น กระเป๋า รองเท้า จิวลี่ จะไม่มีคุณค่าเลย หากปราศจากศาสตร์ที่เรียกว่า "วัสดุศาสตร์" เช่นกัน งานศิลปะ เช่น ภาพวาด รูปปั้น งานสถาปัตยกรรม ก็จะไม่มีคุณค่าเลยหากปราศจากศาสตร์ที่เรียกว่า "ปรัชญา" ผมกำลังจะสื่อว่า "อย่ามองสิ่งใดแค่เพียงเปลือกนอก แต่จงมองที่เนื้อแท้และกระบวนการ" ...
แล้วลองคิดดูนะ มันก็ไม่ใช่ว่าเรียนจบทางที่น้องคิดแล้วจะได้ทำงานตรงสายเสมอไป ต่อให้ได้ทำจริงๆ น้องก็จะต้องผิดหวังแน่ๆ (ทุกคนเป็นเหมือนกันหมด) ในวันแรกๆที่ไปฝึกงาน เมื่อได้รู้ว่าลักษณะงาน สังคม โครงสร้างการปกครอง และที่สำคัญ รายได้ ไม่ได้เป็นแบบที่คิดไว้เลยสักนิด สิ่งที่น้องมีผมไม่เรียกว่า "ความฝัน" หรือ "เป้าหมาย" หรอกนะ มันเป็นเพียงแค่อาการ "น้ำล้นถ้วย" เท่านั้นเอง เอ่อล้นไปด้วยความคิดว่าชอบอันนั้น อยากทำอันนี้ โดยที่แต่ละอย่างก็ยังมาไม่ถึง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อันตราย เพราะถ้าไม่รู้จักควบคุมให้ดี สุดท้ายน้องก็จะไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จตามแผนที่วางไว้เลย ไม่ใช่ว่าผมจะมาดูถูกในความสามารถ แต่ผมคิดว่าคงดูไม่ผิดในด้าน "พุทธิปัญญา" สิ่งที่น้องพูดมา เอาจริงๆแล้วไม่ต้องเรียนจบอะไรเลย แต่นั่งทำทุกวัน ก็เก่งได้หมดทุกอย่างแหละครับ และผมเชื่อว่าน้องทำได้ด้วยถ้าตั้งใจจะทำจริงๆ แต่การ "เลือกใบปริญญา" นั้นมันสำคัญต่างกัน มันไม่ได้สำคัญที่ว่าต้องจบด้านนั้น เพราะจะทำให้เก่งด้านนั้น เพื่อจะทำให้ได้งานดีๆ ตรรกะนี้มันผิดมานานแล้วครับ เพราะในความเป็นจริง ใบปริญญามีไว้เพื่อบอกคนอื่นว่าเราเคยเรียนมาทางไหนต่างหาก แต่ไม่เคยบอกใครเลยว่าเราทำอะไรได้บ้าง (ซึ่งอาจจะมากเสียจนกระดาษาทั้งรีมเขียนไม่หมด) ฉะนั้น "จงเลือกเรียน ในสิ่งที่อยากจะบอกคนอื่นว่า เรามีความรู้ด้านนั้น เท่าที่จำเป็น" ถ้าให้แนะนำลึกกว่านี้ ก็ให้ไตร่ตรองว่า คณะไหนในบรรดาตัวเลือกทั้งหมด ที่เรียนจบออกมาแล้วสามารถ Apply กับทั้งหมดทั้งปวงที่คุณอยากทำข้างบนได้ ก็เลือกคณะนั้นแหละดีที่สุด ...
อาการอย่างนี้ ภาษาผมเรียกว่า "ฟุ้งซ่าน" ...
น้องครับ ก่อนจะหาว่าต้องเรียนคณะอะไรนะ ช่วยตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า "ที่ว่ามาทั้งหมดเนี่ย เคยทำอันไหนเป็นชิ้นเป็นอันแบบนานๆบ้างรึยัง ???" รู้ครับว่าชอบ รู้ครับว่าเก่งหลายอย่าง แต่น้องรู้มั๊ย ในโลกแห่งความจริงน่ะ เขาไม่ได้วัดกันด้วย "Creativity" อย่างเดียวหรอกนะ ถ้าน้องจะถามหางานที่ใช้ความครีเอทในการทำงาน พี่ตอบเลยว่า "งานทุกอย่างบนโลกนี้ ล้วนต้องใช้ความครีเอท" ครับ "การมีความคิดสร้างสรรค์" ไม่ใช่การแค่ออกแบบสิ่งของหรือทำงานศิลปะ "แต่มันคือการเข้าใจกระบวนการทำงานของสิ่งต่างๆบนโลกและสามารถพลิกแพลงเอามาใช้ประโยชน์ได้ " สินค้าแฟชั่น เช่น กระเป๋า รองเท้า จิวลี่ จะไม่มีคุณค่าเลย หากปราศจากศาสตร์ที่เรียกว่า "วัสดุศาสตร์" เช่นกัน งานศิลปะ เช่น ภาพวาด รูปปั้น งานสถาปัตยกรรม ก็จะไม่มีคุณค่าเลยหากปราศจากศาสตร์ที่เรียกว่า "ปรัชญา" ผมกำลังจะสื่อว่า "อย่ามองสิ่งใดแค่เพียงเปลือกนอก แต่จงมองที่เนื้อแท้และกระบวนการ" ...
แล้วลองคิดดูนะ มันก็ไม่ใช่ว่าเรียนจบทางที่น้องคิดแล้วจะได้ทำงานตรงสายเสมอไป ต่อให้ได้ทำจริงๆ น้องก็จะต้องผิดหวังแน่ๆ (ทุกคนเป็นเหมือนกันหมด) ในวันแรกๆที่ไปฝึกงาน เมื่อได้รู้ว่าลักษณะงาน สังคม โครงสร้างการปกครอง และที่สำคัญ รายได้ ไม่ได้เป็นแบบที่คิดไว้เลยสักนิด สิ่งที่น้องมีผมไม่เรียกว่า "ความฝัน" หรือ "เป้าหมาย" หรอกนะ มันเป็นเพียงแค่อาการ "น้ำล้นถ้วย" เท่านั้นเอง เอ่อล้นไปด้วยความคิดว่าชอบอันนั้น อยากทำอันนี้ โดยที่แต่ละอย่างก็ยังมาไม่ถึง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อันตราย เพราะถ้าไม่รู้จักควบคุมให้ดี สุดท้ายน้องก็จะไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จตามแผนที่วางไว้เลย ไม่ใช่ว่าผมจะมาดูถูกในความสามารถ แต่ผมคิดว่าคงดูไม่ผิดในด้าน "พุทธิปัญญา" สิ่งที่น้องพูดมา เอาจริงๆแล้วไม่ต้องเรียนจบอะไรเลย แต่นั่งทำทุกวัน ก็เก่งได้หมดทุกอย่างแหละครับ และผมเชื่อว่าน้องทำได้ด้วยถ้าตั้งใจจะทำจริงๆ แต่การ "เลือกใบปริญญา" นั้นมันสำคัญต่างกัน มันไม่ได้สำคัญที่ว่าต้องจบด้านนั้น เพราะจะทำให้เก่งด้านนั้น เพื่อจะทำให้ได้งานดีๆ ตรรกะนี้มันผิดมานานแล้วครับ เพราะในความเป็นจริง ใบปริญญามีไว้เพื่อบอกคนอื่นว่าเราเคยเรียนมาทางไหนต่างหาก แต่ไม่เคยบอกใครเลยว่าเราทำอะไรได้บ้าง (ซึ่งอาจจะมากเสียจนกระดาษาทั้งรีมเขียนไม่หมด) ฉะนั้น "จงเลือกเรียน ในสิ่งที่อยากจะบอกคนอื่นว่า เรามีความรู้ด้านนั้น เท่าที่จำเป็น" ถ้าให้แนะนำลึกกว่านี้ ก็ให้ไตร่ตรองว่า คณะไหนในบรรดาตัวเลือกทั้งหมด ที่เรียนจบออกมาแล้วสามารถ Apply กับทั้งหมดทั้งปวงที่คุณอยากทำข้างบนได้ ก็เลือกคณะนั้นแหละดีที่สุด ...
"กฏข้อหนึ่งของพราน คือเลือกปืนที่ใช้กระสุนได้หลายขนาดเพียงกระบอกเดียว ดีกว่าพกปืนทีละสองสามกระบอก แต่ต้องมานั่งใส่ลูกกระสุนที่ละกระบอกใหม่เสมอ"
Arch Draconyz
แสดงความคิดเห็น
อยากเป็นนักออกแบบครับ แต่ไม่รู้อยากจะออกแบบอะไรกันแน่
วันนี้ขอปรึกษาเรื่องคณะครับ
คือแต่เดิมผมอยากเข้า รัฐศาสตร์ ครับ อยากทำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต่อมารู้สึกว่าใจรักในอาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากกว่า
จึงตัดสินใจเตรียมตัวเข้าสู่คณะทางอาร์ตจริงๆจังๆ
คราวนี้ก็ไม่รู้จะออกแบบอะไรครับ =_= คืออยากออกแบบหลายอย่างมากมาย หลักๆเลยคือชอบแฟชั่นครับ ผมชอบเสื้อผ้า อยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง
แต่ในทางเดียวกันผมชอบงานจิวเวอรี่ กับ ผลิตภัณฑ์ ด้วยครับ คือมีอยู่ช่วงนึงอยากไปออกแบบแมคบุ๊คให้แอปเปิล...
ในบางอารมณ์ผมก็ชอบงานวาดภาพประกอบ แต่มีรุ่นพี่บอกว่า ภาพประกอบเรียนอะไรก็เรียน = =
และที่สำคัญ เวลาผมดูหนัง ดูเอ็มวีเพลงเนี่ย ผมชอบคิดว่า เนื้อเรื่องน่าจะเป็นแบบนี้มากกว่า แบบเหมือนอารมณ์ครีเอทีฟอ่ะครับ ผมก็เริ่มสนใจงานทางด้านโปรดักชั่น อยากเป็นโปรดิวเซอร์ กับ อาร์ตได ขึ้นมา.......
ผมเลยตัดสินใจเลือกเรียน ID ครับ มันดูกว้างๆดีเหมือนเรียนทุกศาสตร์ของการออกแบบ แต่พอไปดูช็อปของ ID ก็ชอบนะครับ บึกบึนดี =..= แต่เวลาผมวาดโปรดักส์มาเนี่ย มันจะมีฟีลลิ่งไปทางความสวยงามทางแฟชั่น มากกว่า ฟังก์ชั่น
ผมเลยมานั่งคิดว่า หรือเราชอบทางแฟชั่นมากกว่า = = แต่ผมรู้สึกว่าผมชอบตั้งแต่ กราฟฟิก แฟชั่น จิวเวอรี่ เมทัล เท็กไทล์ ลามไปถึง เอ็กฮิบิทเลยอ่ะครับ คือแบบอยากเรียนหมดอ่ะ แต่ใจน่ะชอบแฟชั่นมาก แต่ผมมีความรู้สึกว่า ID ก็ไปทำแฟชั่นได้ คือจริงๆก็ตั้งใจจะเรียนที่บุนกะอ่ะครับ แต่ไม่ได้ วุฒิป.ตรี =_= แล้วบวกกับไปดูหน่วยกิตวิชามา รู้สึกว่า ID ตอบโจทย์ความกระหายภูมิความรู้มากกว่าแฟชั่น แต่ชอบแฟชั่น 555555555
สรุปครับ ผมอยากทำหมดเลย ตั้งแต่งานโลโก้ ยัน เฟอร์นิเจอร์ ชอบคิดอะไรแปลกๆมากกว่าให้มันอยู่ในกระดาษอ่ะ อยากทำจริงๆ ผมเลยคิดว่าจริตของผมน่าจะเป็น ศิลปอุตสาหกรรมใช่มั้ยครับ เพราะดูเป็นแขนงที่ครอบคลุมหลายอย่างมาก คือผมสนใจแฟชั่น แต่ไม่ได้ชอบแค่แฟชั่นอ่ะครับ ชอบตั้งคอนเซ็ปดีไซน์ แบบหลายอย่าง = = ผมเลือกถูกมั้ย ขอคำแนะนำด้วยครับ คือตอนนี้ ม.6แล้ว ติวสถาปัตย์มาตลอด ถ้าจะแปลงร่างไปพวก ศิลปกรรมนี่คงทำไม่ทันอ่ะครับ แต่จะลองสอบแฟชั่นดูครับ มีความสุขกับการดีไซน์ครับ ทำไรก็สนุก คือตอนแรกปลงกับแฟชั่นนานละครับ เพราะตั้งใจจะไปเรียนเมืองนอก คือไม่อยากเรียนแฟชั่นที่เมืองไทย(กระแดะอ่ะครับ55555) ถ้าที่ไทย อยากเรียน ID มากกว่า แต่พอไปเจอคนติวแฟชั่นที่แมคในสยาม ก็แบบ เราก็ชอบวาดฟิกเกอร์นะ แบบชอบไปหมดอ่ะ 555555555 ขอคำปรึกษาด้วยครับ คือตอนนี้เตรียมตัวมาทาง ID เต็มสตรีมมาก
ปล.เขียนงงก็ขออภัยครับ ผมก็งงกับตัวเองฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ