สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
มันคือ Drama ที่แผงปรัชญาการดำรงชีวิตอยู่ เข้าขั้น Metaphysics-อภิปรัชญาเลยครับ
การเดินเรื่องจะไม่เน้นคดีอย่างเดียว แต่เน้นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน สับสน ระหว่าง 2 คู่หูมากกว่าคดีฆาตกรต่อเนื่อง
ถ้าจะตามแต่ตัวคดี รับรองได้ว่าไม่สนุก
แต่ถ้าเปิดใจแล้วตาม "ตัวละคร 2 ตัว" ที่จากเข้ากันไม่ได้ มาเป็นเปิดใจรับกันและกันในชีวิต
มาเป็นสาดความเจ็บปวดใส่กัน มาเป็นหันหลังจากกัน
มาเป็นพบเจอกันใหม่ในอีกทศวรรษให้หลัง
มาเป็นต้องกลับมาเจอเรื่องเดิมอีกครั้ง วนซ้ำอีกรอบ
แล้วก็จบลงแบบ......เฮ้ย! ความสัมพันธ์รัสต์กับมาร์ตี้มันจบแบบนี้ได้ไงฟระ???
ไม่น่าเชื่อ เขียนบทเยี่ยงเทพ
ดังนั้น ถ้าคนดูเน้นการคลี่คลายคดี คือจับที้ Crime จะรู้สึกว่าไม่สนุกเลย
แต่ถ้าคุณจับที่ตัวละครทั้งสองแทน คือไปจับที่ Drama คุณจะพบว่ามันเป็นความงดงามบนความปวดร้าว และจบได้กินใจไม่น่าเชื่อเลยครับ
แล้วถึงจะเก็ตว่าที่ Crime Drama เรื่องนี้เป็นที่สุดแห่งปี...ก็เพราะแบบนี้เอง
อ้อ อีกอย่าง ตัวละครรัสต์(แมทธิว) เป็นตัวละครที่ยั่วล้อกับตัวฆาตกรด้วยครับ
คือเจ้าฆาตกรมีความคิดผิดเพี้ยนว่าตัวเองสามารถ "เข้าถึงเบื้องบน" ได้ คือหมกมุ่นกับลัทธิ พระเจ้า การบูชายัญ
แต่ตัวละครรัสต์ต่างหาก...ที่กลับ "ค้นพบเบื้องบน" ด้วยตัวเอง เห็น "นิมิต" ด้วยตัวเอง และ ""บรรลุสัจธรรมจากเบื้องบน"Universe) ด้วยตัวเอง
คือผู้สร้างต้องการสื่อสภาพของ "ปัญญาญาณ" ที่คู่ขนานระหว่างรัสต์กับฆาตกรด้วยครับ
คือถ้าเพื่อนๆที่ดูจบแล้ว แล้วบอกว่าไม่สนุกเลย... ต้องถามว่า..จับประเด็นนี้ได้หรือไม่
ถ้าจับไม่ได้..ไม่น่าแปลกใจที่รู้สึกว่าไม่ประทับใจ
เพราะถ้าพลาดประเด็นนี้ไป...เท่ากับพลาด message ที่เป็นหัวใจของเรื่องไปเลยทั้งซีรีส์ครับ
ปล. เหมือนกรณีซีรีส์อังกฤษเรื่อง Broadchurch ที่เอามาแปลงเป็นฉ.อเมริกัน Gracepoint น่ะครับ
ประเด็นของเรื่องนั้นไมไ่ด้อยู่ที่เด็กชายถูกฆาตกรรมสยอง ประเด็นมันอยู่ที่ตัว "หมู่บ้าน" กับ "ทะเล"
การเดินเรื่องจะไม่เน้นคดีอย่างเดียว แต่เน้นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน สับสน ระหว่าง 2 คู่หูมากกว่าคดีฆาตกรต่อเนื่อง
ถ้าจะตามแต่ตัวคดี รับรองได้ว่าไม่สนุก
แต่ถ้าเปิดใจแล้วตาม "ตัวละคร 2 ตัว" ที่จากเข้ากันไม่ได้ มาเป็นเปิดใจรับกันและกันในชีวิต
มาเป็นสาดความเจ็บปวดใส่กัน มาเป็นหันหลังจากกัน
มาเป็นพบเจอกันใหม่ในอีกทศวรรษให้หลัง
มาเป็นต้องกลับมาเจอเรื่องเดิมอีกครั้ง วนซ้ำอีกรอบ
แล้วก็จบลงแบบ......เฮ้ย! ความสัมพันธ์รัสต์กับมาร์ตี้มันจบแบบนี้ได้ไงฟระ???
ไม่น่าเชื่อ เขียนบทเยี่ยงเทพ
ดังนั้น ถ้าคนดูเน้นการคลี่คลายคดี คือจับที้ Crime จะรู้สึกว่าไม่สนุกเลย
แต่ถ้าคุณจับที่ตัวละครทั้งสองแทน คือไปจับที่ Drama คุณจะพบว่ามันเป็นความงดงามบนความปวดร้าว และจบได้กินใจไม่น่าเชื่อเลยครับ
แล้วถึงจะเก็ตว่าที่ Crime Drama เรื่องนี้เป็นที่สุดแห่งปี...ก็เพราะแบบนี้เอง
อ้อ อีกอย่าง ตัวละครรัสต์(แมทธิว) เป็นตัวละครที่ยั่วล้อกับตัวฆาตกรด้วยครับ
คือเจ้าฆาตกรมีความคิดผิดเพี้ยนว่าตัวเองสามารถ "เข้าถึงเบื้องบน" ได้ คือหมกมุ่นกับลัทธิ พระเจ้า การบูชายัญ
แต่ตัวละครรัสต์ต่างหาก...ที่กลับ "ค้นพบเบื้องบน" ด้วยตัวเอง เห็น "นิมิต" ด้วยตัวเอง และ ""บรรลุสัจธรรมจากเบื้องบน"Universe) ด้วยตัวเอง
คือผู้สร้างต้องการสื่อสภาพของ "ปัญญาญาณ" ที่คู่ขนานระหว่างรัสต์กับฆาตกรด้วยครับ
คือถ้าเพื่อนๆที่ดูจบแล้ว แล้วบอกว่าไม่สนุกเลย... ต้องถามว่า..จับประเด็นนี้ได้หรือไม่
ถ้าจับไม่ได้..ไม่น่าแปลกใจที่รู้สึกว่าไม่ประทับใจ
เพราะถ้าพลาดประเด็นนี้ไป...เท่ากับพลาด message ที่เป็นหัวใจของเรื่องไปเลยทั้งซีรีส์ครับ
ปล. เหมือนกรณีซีรีส์อังกฤษเรื่อง Broadchurch ที่เอามาแปลงเป็นฉ.อเมริกัน Gracepoint น่ะครับ
ประเด็นของเรื่องนั้นไมไ่ด้อยู่ที่เด็กชายถูกฆาตกรรมสยอง ประเด็นมันอยู่ที่ตัว "หมู่บ้าน" กับ "ทะเล"
แสดงความคิดเห็น
True Detective มันจะสนุกตอนไหนครับ ผมดูไปสามตอนละยังเอื่อยๆอยู่เลย T^T