รพ สัตว์เกษตรกับการตัดสินอาการของน้องหมา อ่อนประสบการณ์หรือเพราะคนไข้เยอะ

เมื่อคืนวันที่ 25 ที่ผ่านมา น้องหมาตัวเล็กลูกผสม ปอมกับพุดเดิ้ล อายุ  3 เดือน หนัก 0.8 kg  ที่หลานเลี้ยงไว้ ถูกแฟนของหลาน
(หล่นจากเตียงนอนโดยไม่รู้ว่าน้องอยู่ตรงพื้นหน้าเตียง) ทับ โดยส่วนที่เป็นสะโพกกระแทกกับใบหน้าและศรีษะของน้อง น้องนิ่งไป ซักพักหลานกับแฟนจึงเห็นว่ามีเลือดออกจากปากและจมูกค่อนข้างเยอะ จึงรีบพาออกไปวนหา คลีนิคหรือ รพ.สัตว์ที่เปิด 24 ชม. เราตัดสินใจขับรถไป รพ.สัตว์เกษตร แผนกฉุกเฉิน เมื่อไปถึงมีแพทย์เวรมาสอบถามอาการและพาน้องหายเข้าไปในห้องรักษา เรากับหลานๆ นั่งรอประมาณครึ่ง ชม มี สพญ คนนึง หน้าตาน่ารักและพูดจาดีมากๆ ออกมาสอบถามสาเหตุและอาการของน้อง  โดย สพญ คนนี้ เข้าใจว่า น้องตกจากที่สูง เมื่ออธิบายจนเข้าใจแล้ว  สพญ ก็แจ้งว่าขณะนี้ได้ให้ออกซิเจนน้องอยู่ ของสอบถามเท่านี้ก่อน ขอรอดูอาการน้องซักพักแล้วจะออกมาคุยด้วยอีกที (ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 24.00)

ผ่านไปประมาณอีกเกือบ ชม สพญ คนเดิมออกมาอธิบายให้ฟังว่า น้องยังเล็กมาก ทำอะไรไม่ได้มาก ที่ทาง รพ ดำเนินการคือให้ออกซิเจน ให้ยาหยุดเลือด  ยังไม่สามารถเอ็กซเรย์ได้ และยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่า น้องจะมีเลือดออกในช่องท้องหรือส่วนอื่นหรือไม่ จากการสัณนิษฐาน คิดว่าระบบประสาทน่าจะได้รับการกระทบการกระเทือนอย่างแรง   เราก็แย้งว่า ทางเราคิดว่าน้องไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะน้องไม่ได้หมดสติ ระหว่างที่พามา รพ น้องรู้สึกตัว และดิ้นตลอด มีเสียงร้องเป็นระยะๆ  สพญ ตอบเราว่า  ถ้าเปรียบกับคนก็เหมือนคนโคม่าแล้ว  การที่น้องดิ้นเป็นการดิ้นแบบไม่รู้สึกอะไรแล้ว น้องไม่ตอบสนอง ไม่รับรู้  บอกได้แต่ว่า ตอนนี้อาการของน้อง 50:50 ขอให้ทางเราทำใจ  และสรุปว่า อีกซักครู่เมื่อเคลียร์เตียงด้านนอกได้แล้ว จะพาน้องออกมาให้ญาติเฝ้า  เพื่อรอดูอาการไปก่อน  ตอนนั้น ตีหนึ่งกว่า ๆ หลานเรากับแฟนตกลงอยู่เฝ้า เราขับรถกลับบ้านก่อน

ตอนเช้าเวลาประมาณตีห้ากว่า (หลานเล่าให้ฟัง) สพญ คนเดิม ออกมาแจ้งหลานว่า ยังไงน้องก็ไม่น่าจะรอด แต่ขึ้นอยู่กับทางเราว่าจะรักษาต่อหรือไม่
ถ้าให้น้องอยู่รักษาตัวต่อ ก็จะมีค่าใช้จ่ายต่อคืน ประมาณ 4000-5000 บาท แต่ทาง รพ. ก็ไม่รับปากว่าน้องจะหาย เพราะอาการน้องหนักมาก หลานเราโทรไปปรึกษาพ่อเค้า (ซึ่งจะต้องเป็นผู้ออกค่ารักษา) ทั้งหมดตกลงที่จะพาน้องกลับบ้าน เพื่อมาอยู่ด้วยการในช่วงสุดท้าย ก่อนกลับ หลังจากเคลียร์ค่าใช้จ่าย  1700+ (ไม่มียา ไม่มีฟิล์มเอ็กซเรย์)  สพญ คนนี้ก็ยังบอกว่า น่าจะไปไม่ถึงบ้าน   น้องคงเสียระหว่างทาง


รูปน้องตอนกลับมาถึงบ้าน

กลับมาถึงบ้าน น้องก็ยังไม่เสีย ตลอดวัน น้องนอนตะแคง ตาใสแจ๋ว มองโน่นมองนี่ ลองเอาน้ำผสมน้ำหวานจางๆ ให้น้องก็ดื่ม (ใช้สลิ้งค์ดูด) โดยใช้ลิ้นเลียตามปกติ จนถึงบ่าย เราไปเยี่ยม เรามีความรู้สึกว่าน้องดีขึ้นกว่าตอนที่นอน รพ. อาการของน้องไม่ได้บ่งบอกว่าน้องจะเสียชีวิต  แต่พ่อกับแม่ของหลานก็ยืนยันว่าจะไม่รักษาแล้ว หมอบอกว่ายังไงก็ไม่รอด ให้รอไปแบบนี้ แต่เราทนไม่ไหว เลยหันไปถามหลานกับแฟน ว่าอยากลองรักษามั้ย เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้ามีคนช่วยพาน้องไปรักษาจะยอมมั้ย ทั้งคู่ตกลง เราจึงติดต่อไปที่เพื่อนที่ทำงานอยู่ที่สถานสงเคราะห์สัตว์พิการ เล่าให้เพื่อนฟังทั้งหมด เพื่อนบอกว่าให้เอาน้องไปส่งให้เพื่อนเลย จะดูอาการให้ในคืนนี้ (วันที่ 26) ให้ซื้อนมแพะกับอาหารลูกหมาป่วยมาให้ด้วย แล้วพรุ่งนี้ (คือวันนี้) จะพาไปที่ศูนย์และอาสาจะเป็นเจ้าของเคสเอง ถ้าน้องรักษาจนหาย ก็ให้เราไปรับกลับมาอุปการะ เรากับหลาน และเพื่อนเราอีก 2  คน จึงรีบพาน้องไปส่งให้เพื่อนแถวปากเกร็ด

เมื่อเพื่อนเราเห็นน้อง เพื่อนเราก็บอกว่า น้องไม่ได้มีอาการเหมือนน้องหมาที่กำลังจะตาย น้องยังตาใส เรียกยังรับรู้ และเมื่อจับตัวน้องขึ้น ยังสามารถทรงตัวได้  แต่ส่วนตรงคอจะโงนเงน เพื่อนบอกว่า ก่อนอื่นน่าจะพาไปเอ็กซเรย์ก่อน  แล้วถามเรากํบหลานว่า ทาง รพ เกษตรไม่ได้เอ็กซเรย์เหรอ เป็นไปได้ไงที่ไม่เอ็กซเรย์ (แต่มันเป็นไปแล้ว เพราะทาง รพ ไม่มีฟิล์มมาให้ และ สพญ ก็ได้แจ้งว่าไม่ได้ทำการเอ็กซเรย์)  แนะนำให้พวกเราไปคลีนิคเอื้ออาทร ตรง ห้าแยกปากเกร็ด แล้วรอฟังผลเอ็กซเรย์ก่อน ถ้าผลออกมาว่าน้องไม่มีทางรักษาหาย ให้พาย้อนกลับมาส่ง เพื่อนเราจะรับน้องไว้เอง

เราตัดสินใจพาน้องมาคลีนิคที่แต้มแต้มลูกสาวเรารักษาประจำ เพื่อให้ สพ.ประจำตัวลูกสาวทำการเอ็กซเรย์และดูอาการ โดยเราได้โทรนัดหมายกับสพ เจ้าของคลีนิค สอบถามค่าใช้จ่ายในการเอ็กซเรย์ ปรากฏว่าต้องเสียค่าใช้ 200+ และรอฟังผลอีก 10 นาที  เรารีบขับรถไปคลีนิคนั้นทันที  เราบอกชื่อคลีนิคเลยนะคะ  "บางบัวทองสัตวแพทย์" พอมาถึง คุณหมอโจ ก็ให้นำน้องเข้าไปที่เตียงตรวจ และทำการตรวจร่างกายน้อง

ผลที่ออกมา "น้องแค่คอเคล็ด" ไม่ต้องทำการเอ็กซเรย์ใด ๆ ทั้งสิ้น คุณหมอทำการดามคอน้อง และแจ้งว่าน้องอาจจะใช้เวลาบ้างในการทรงตัว
แต่รับรองว่าน้องจะกลับมาเดินได้ และไม่มีอาการทางสมองแต่อย่างใด เพราะถ้าน้องมีอาการทางสมอง ตาจะต้องลอย ไม่มีแววใส และจะไม่รับรู้ต่อการเรียกชื่อ  คุณหมอให้อาหารสุนัขป่วย ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ และคาเข็มน้ำเกลือไว้ ถ้าน้องไม่กินอาหารก็ให้พามาให้น้ำเกลือที่คลีนิค  แต่ถ้าน้องทานก็ให้พามาถอดเข็มในวันถัดไป เราพาน้องกลับบ้าน โดยเสียค่าใช้จ่ายไป 430 บาท

เมื่อกลับมาถึงบ้าน หลานเราป้อนอาหารน้อง น้องทานอาหารได้ปกติ ดื่มน้ำ นอนพักผ่อน ขยับตัวได้มากขึ้น อาการโดยรวมดูดีขึ้นมาก เช้าวันนี้เมื่อใช้สำลีชุบน้ำเช็ดตรงก้นน้องก็ถ่ายปกติ แต่น้องยังทรงตัวยืนไม่ได้



หลังจากน้องใส่ที่ดามคอแล้ว

เราตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ เพราะเคยอ่านพบกระทู้ที่เจ้าของน้องหมาท่านอื่นเคยแชร์ประสบการณ์ที่พบในรพ สัตว์เกษตร เราจึงอยากแชร์ไว้ให้ท่านที่เข้ามาอ่าน และอยากขอความคิดเห็นจากทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ว่าคิดอย่างไร กับเรื่องของน้องหมาของเราเท่านั้น  ประกอบกับคิดว่า นี่ถ้าเราตัดสินใจให้น้องอยู่ต่อน้องจะเป็นอย่างไรต่อไป แชร์ไว้เป็นประสบการณ์นึงนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่