[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*** นี่หากไม่เกรงใจสื่อ จะตั้งชื่อหัวกระทู้ว่า ทริปบินเดี่ยว เที่ยวจัน-ตราด สุดเสียว หักคาปล้อง น้ำแตกใน ไปกับตาแป๊ะแล้ว ***
ออกทริปไปตั้งแต่ต้นๆเดือน ดองเอาๆ เผลอดูหนังฟังเพลง แอบหมดเวลาไปกับเกมมือถือ
เขียนดราฟ+อัพรูปรอไว้หลายรูปแระ ตั้งใจปั่นให้เสร็จซะที
(เขียนเมื่อประมาณวันที่ 10 ก่าๆ ดองมาจะสิ้นเดือนเเล้ว)
ช่วงบ่น-แรงกระตุ้นให้ออกทริป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. คือก่อนหน้านี้ ทางสมาชิก noclub ได้มีการจัดทริปวันแรงงานไปเที่ยวน้ำตกพริ้วขึ้น ตาแป๊ะก็ลงชื่อรอไว้ซะดิบดี
ทั้งๆที่เบรคงอสวย แต่ตรูก็ขอไปด้วย
** ตอนนั้นความสามารถในการเบรคมีประมาณ 99%
บังเอิ้ญ บังเอิญ อะไหล่ที่เบิกไว้มาพอดี วันก่อนออกทริป เลยรีบไปเปลี่ยนมือเบรคซะ
****เรื่องหลังจากนั้น ผมขอเว้นไว้ละกันนะครับ****
จนทำให้เบรคหลังหาย เหลือแค่เบรคหน้าใช้งานได้ เลยต้องถอนตัวจากทริปไป
(แถมกระแดะไปจุดรวมพลในช่วงเช้า เพื่อส่งเพื่อนสมาชิกอีก 555+)
2.เจอคลิปเกาะช้างเลี้ยวซ้ายจาก motorbikejourney อีก
https://www.facebook.com/motorbikejourney
เลยเสี้ยนจะตามรอยไปให้ได้ และเริ่มสางแผนทริปเกาะช้าง
3.ในขณะที่ยังหาวันว่าง+ที่พักไม่ได้ ก็ไล่หาข้อมูลจุดแวะตามเส้นทางอยู่
ปรากฏว่าไปเจอว่าจันทบุรี มีร้านก๋วยเตี๋ยวกั๊ง / ร้านมัสมั่นทุเรียน
หูยความอยากออกทริปเพิ่มขึ้นประมาณ 200%
4.หลังจากนั้นคืนวันเสาร์ที่ 5 ว่างๆก็เลยเข้าไลน์กลุ่ม noclub ไปขอข้อมูลเส้นทาง/จุดระวัง/จุดเเวะจากเพื่อนๆ
แล้วก็นอน บังเอิญตื่นมาตีสี่วันอาทิตย์ตามเวลาโหลดบิทมาตรฐานบ้านตาแป๊ะ
แล้วก็คิดได้ว่า อืม..เราไปกินข้าวเช้า(+สำรวจเส้นทาง/เวลาเผื่อตอนไปทริปเกาะช้าง) ที่จันทบุรีเลยดีกว่า
จึงเป็นที่มาของทริปบินเดียวหนนี้ครับ
เริ่มเดินทางเช้าวันอาทิตย์ โดยออกจากบ้านตีห้าครึ่ง โดยลองใช้เส้นทางที่เพื่อนสมาชิกเคยใช้ตอนทริปน้ำตกพริ้ว
คือแผนเส้นทาง รามคำแหงสุดถนน > ฉะเชิงเทรา > เส้นพนัสนิคม > บ้านบึง >แกลง > จันทบุรี (ก๋วยเตี๋ยวกั๊ง)> ตราด(ท่าเรือ) > จันทบุรี (มัสมั่น)
> แอบแวะเส่นเฉลิมบูรพาทิศ จากนั้นกลับกทม.เส้นเดิม
แน่นอนว่าทำไม่ได้ตามแผน ไม่ไปครบ+แวะเกินตามคาด
จากกทม.ตีห้าครึ่ง ผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย มีสร้างถนนจนต้องเลี้ยวหักไปมา ก็วิ่งไปเรื่อยๆ
มันออกทำนองถนนชนบทจริงๆนะ 1-2 เลน สภาพไม่ค่อยเรียบ เเต่สามล้อเราก็ไปได้เรื่อยๆ (บิดไป 70-90)
ถนนถือว่าไม่ได้ห่วยมากนัก
จากนั้นพอหลุดออกมาถนนใหญ่นี่ หูยเหมือนเก็บกดมานาน ไฮเวย์สองเลน มีขึ้น-ลงเนิน
ตาแป๊ะนี่บิดมิดเล่นไป 90-100 หน่อยๆ +ไหลลงได้ 116 แอบเเซงซูซูกิเสวย(สวิฟ) ที่ขับชิวๆได้ตั้งหลายหน
แต่โดนมาสด้า กระบะ และยี่ห้ออื่นๆที่ขับทำเวลาแซงไปได้ทุกคันเช่นกัน~
บิดเพลินๆ จนมาถึงตัวจังหวัดประมาณ 9 โมง
จากนั้นเกิดอาการหลงทางนิดหน่อย หมุนไปๆมาๆระหว่างตัวเมือง กว่าจะมาถึงวัดไผ่ล้อมได้ เพื่อมาร้านเจ๊เพ็ญ เย้นตาโฟที่อยู่ข้างๆ
ไปถึงก็ไม่รอช้า สั่งบะหมี่กั๊งมา1เซต ใกล้จะสิบโมงพยาธินี่แทบจะประท้วงกันเเล้ว
ซูมๆๆ ชามละร้อยหรือ 80สักอย่างนี่แหละ (มีก๋วยเตี๋ยวปกติ/ปู-กั๊งขายด้วยเน้อ ปกติชามละ 40-50 มั้ง)
หูย แม้จะไม่อร่อยจนนกยูงโผล่ออกมาจากหน้ากากได้ แต่ก็เข้าขั้นเลยนะเนี่ย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรือเพราะเราหิวมากเลยรู้สึกอร่อยเพิ่มขึ้นก็ไม่ทราบได้
พอซัดหมดชาม ก็เลยซื้อแบบเกาเหลาปูกั๊งมาสองถุง ไว้ฝากคนที่บ้านซะ
จากนั้นก็เริ่มวางแผนเดินทาง ตอนแรกว่าจะไม่แวะไปเฉียดทะเล แล้วไปดูทางจนถึงท่าเรือที่ตราด
ดูคร่าวๆก็พุ่งไปอีกร้อยโล+หลงในตราด ชักภาพท่าเรือเเล้วกลับมาอีกร้อยโล.....แค่คิดก็เพลียเเล้ว
เลยเนียนๆ ยกเลิกการไปตราดซะ เเล้วไปเดินชมโบสถ์-สุสานสักพักแทน =w="
หลังจากนั้นก็ U turn หลงมาอีก 2 รอบ กว่าจะถึงจุดหมายร้านต่อมา
(จริงๆตั้งใจไปอีกสาขานะ แต่อากู๋ในมือถือหาไม่เจอ หาตอนอยู่ที่บ้านก็หาเจอแต้ๆ)
ด้วยความที่เพิ่งยัดก๋วยเตี๋ยวไปชามนึงยังไม่ครบชม.
เลยสามารถลองได้อีกเมนูเดียวเท่านั้น ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจนะเนี่ย
(แผนเดิมตั้งใจ มัสมั่น+หมึกกระเทียม)
ลองๆถามดูว่ามัสมั่นนี่ไซส์ใหญ่ไหม (หากมีเล็กจะได้สั่งเล็ก)
ปรากฏว่ามีไซส์เดียว ชามละสองร้อย.....เหย็ดดดดด
ไหนๆมาเเล้ว ตั้งใจสุดๆ เลยจัดมา 1 เซ็ตครับท่าน
ขนาดชามเกินฝ่ามือตรูอีก ได้ สะโพกมา 2 + มัน(ทุเรียน) 4 ก้อน
หลังจากกินเข้าไปก็เกิดอาการฟินอีกเช่นเคย
แม้ตัวเครื่องจะไม่หรูหรา ขนาดแกงที่หัตถ์เทวะต้นตำรับปรุงเพื่อถวายราชินีก็เหอะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวเนื้อไก่นุ่ม เนื้อแกงเข้าถึงข้างใน ไม่เผ็ดเกินไป มัน(ทุเรียน) ก็แข็งกำลังดีไม่นุ่มจนเหลว (แหงล่ะ ทุเรียนยังไม่สุก)
แถมรสชาติออกหวานนิดๆ หูย อร่อย~~~เลิศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยความพยายามยัดไก่ลงไปสองชิ้น ข้าว 1 จาน แถมทุเรียน 4 ก้อน.....และก่อนหน้านั้นบะหมี่ 1 ชาม
....ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนได้เข้าใกล้ขีดจำกัดของอะไรสักอย่าง.....
หลังจากเพิ่มน้ำหนักบรรทุกให้รถตัวเองเเล้วก็ต้องมาวางแผนกันใหม่
หลังจากแผนเดิมที่ว่าจะไม่เฉียดทะเลล่มไปแล้ว
แผนใหม่ก็เลยกลายเป็น วิ่งเล่นโค้งเส้นชายหาดตามป้ายไปเรื่อยๆแทนโลด!
หลังจากวิ่งอ่านป้ายไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงจุดชมวิวเนินนางพญาจนได้
รถเราแอบเนียนๆจอดในคอก ส่วนกลุ่มทัวริ่งตัวพันที่แซงมาระหว่างทางเขาก็จอดข้างนอกกัน
หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปสุดหาดกับจุดชมวิวหินโคร่ง
ตรงนั้นก็เจอคณะ KSR มาจับจองกันเต็มพื้นที่ (วันนั้นเจอไปหลายกลุ่มมากครับ)
ชักภาพหินโคร่งกันสักนิด
อันนี้ไม่ใช่เเระ
ต้องอันนี้ซินะ
หลังจากนั้นก็เลื้อยมาตามป้ายอีกเช่นเคย จนมาถึงเรือรบหลวงประแสร์
ได้เอาน้องเฮฟวี่ครุยเซอร์มาถ่ายรูปซะเลย~
จากนั้นก็หมดแรง นั่งกินน้ำพักผ่อน ชมทะเลไปพลาง ให้ขี้เกลือเกาะรถไปพลางๆ
หลังจากพักพอแล้วก็ตั้งใจออกเดินทางกันต่อ ขณะที่ออกมาจากหาดก็หันไปเห็นป้ายร้าน "หมวยเอ๊กเรือรบ"
....ช่างเป็นชื่อร้านที่ส่งเสริมจินตนาการของเราอะไรเช่นนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เพ้อเจ้อ นอกเรื่อง >[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หากไปแล้วเจอคนนี้ ประจำร้านล่ะก็นะ...
จะจับไป ปังปะกะ ป้าง~ ซะให้เพลินเลย 555+
ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับความคิดนั่นเอง ก็เกิดเหตุขึ้นจนได้....
วันอาทิตย์ ที่เรือรบเขาปิดล็อคห้องน้ำ ตรงที่ทำการไว้ซะด้วย....
ตอนนั้นจำได้ว่ารีบพุ่งเข้าตัวจังหวัดอย่างไวสุดๆ อารมณ์แทบจะบินไปหาปั้มเลยครับ
หลังแวะปั้มลดน้ำหนักบรรทุกเรียบร้อย
ตอนที่คิดว่าทริปนี้จะได้เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพแล้ว มันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ครับ
ตอนที่ผ่านตำบลหนองอีรุณ เป็นถนนชนบทไป1กลับ1เลน
ตอนที่กำลังบิดสบายๆ 80 ก่าๆ อยู่ดีๆก็เจอเมก้าหลุมลึกเต็มทั้งเลน 2 หลุม ต่อเนื่องเลยครับท่าน
แถมเลนสวนก็มีรถบรรทุกวิ่งมาซะอีก
ตอนนั้นปล่อยคันเร่ง+กำเบรคลงไปได้เหลือสัก 60-70 ถึงหลุม
จากนั้นก็มาเปลี่ยนกำแฮนด์ลงหลุมไป 2 ตู้มมมมม......
หลังจากนั้น เริ่มขลดรถและตรวจสภาพตัวเอง+รถ
คนขี่ยังไม่เด้งออกไปไหน
ยางยังไม่มีเสียงระเบิด
แมกซ์ยังไม่ดุ้ง(ที่สังเกตเห็นได้ชัด)
กระจกข้างตกลงมานิดหน่อย
หูยเรียกได้ว่าผ่านมาแบบไร้รอยขีดข่วน.....
หันไปดูกล่องหลัง....เอ๊ะไม่มีกล่องหลัง !!!!
แถมฐานรอง เขี้ยวหักไป...นี่กล่องหลังตรูสละยานไปแล้วเรอะเฮ้ย!
แถมในนั้นใส่เกาเหลากั๊งไว้ในนั้นด้วยนะเฮ้ย!
คาดว่ากล่องหลังคงสละยานไปตอนตกหลุมที่ความเร็ว 70+ สภาพประมาณนี้
รีบคลานย้อนไปเจอกล่อง และเปิดเช็คข้างใน....
ส่วนประกอบที่เป็นเกาเหลาทั้งหมดยังอยู่ในถุงดี....
ทว่าถุงน้ำซุปนี่แตกกระจาย หอมหวนไปหมด
หลังจากเท+ล้างโดยลวกๆแล้ว จะวางกล่องไว้บนฐานมันก็ไม่เกาะเเล้ว จะซุกไว้ตรงที่วางเท้ากล่องมันก็ใหญ่เกินไป
นั่งคีบไปได้แบบทุลักทุเล ไปพึ่งร้านข้างทาง เพื่อขอเชือกฟางมามัดยึดกล่องซะ
เออมัดได้แน่น ย้อนมายึดกับตะเกียบคู่แบบพอไปวัดไปวาได้
ขณะนั้นอีกร่วมๆ 300 km กว่าจะกทม. ตอนแรกๆก็หวั่นๆ ค่อยๆคลานมา 60 ก่าๆนะ
พอเห็นว่ากล่องยังเกาะอยู่ได้ เริ่มกลับมาที่ 80-90+ ตามเสตปเดิม จนมาแวะปั้มพักรถพักคน
ก็เลยจัดของว่างหวานไปซะแก้ว
ก่อนจะเอากล่องไปล้างในห้องน้ำอีกสักหน หลังจากนั้นก็ยิงยาวกลับบ้านมาเจอรถติดตามปกติ
จนคลานมาถึงบ้านประมาณห้าโมงครึ่ง แล้วอาบน้ำโหลดบิทสลบไป.....
ก็เป็นอันจบทริปบินเดี่ยวครั้งนี้ของตาแป๊ะลงแบบทุลักทะลุพอควร
[CR] บินเดี่ยวเที่ยวกับสามล้อ Survey Trip Eat โซ้ย หม่ำ @จันทบุรี
ออกทริปไปตั้งแต่ต้นๆเดือน ดองเอาๆ เผลอดูหนังฟังเพลง แอบหมดเวลาไปกับเกมมือถือ
เขียนดราฟ+อัพรูปรอไว้หลายรูปแระ ตั้งใจปั่นให้เสร็จซะที
(เขียนเมื่อประมาณวันที่ 10 ก่าๆ ดองมาจะสิ้นเดือนเเล้ว)
ช่วงบ่น-แรงกระตุ้นให้ออกทริป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เริ่มเดินทางเช้าวันอาทิตย์ โดยออกจากบ้านตีห้าครึ่ง โดยลองใช้เส้นทางที่เพื่อนสมาชิกเคยใช้ตอนทริปน้ำตกพริ้ว
คือแผนเส้นทาง รามคำแหงสุดถนน > ฉะเชิงเทรา > เส้นพนัสนิคม > บ้านบึง >แกลง > จันทบุรี (ก๋วยเตี๋ยวกั๊ง)> ตราด(ท่าเรือ) > จันทบุรี (มัสมั่น)
> แอบแวะเส่นเฉลิมบูรพาทิศ จากนั้นกลับกทม.เส้นเดิม
แน่นอนว่าทำไม่ได้ตามแผน ไม่ไปครบ+แวะเกินตามคาด
จากกทม.ตีห้าครึ่ง ผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย มีสร้างถนนจนต้องเลี้ยวหักไปมา ก็วิ่งไปเรื่อยๆ
มันออกทำนองถนนชนบทจริงๆนะ 1-2 เลน สภาพไม่ค่อยเรียบ เเต่สามล้อเราก็ไปได้เรื่อยๆ (บิดไป 70-90)
ถนนถือว่าไม่ได้ห่วยมากนัก
จากนั้นพอหลุดออกมาถนนใหญ่นี่ หูยเหมือนเก็บกดมานาน ไฮเวย์สองเลน มีขึ้น-ลงเนิน
ตาแป๊ะนี่บิดมิดเล่นไป 90-100 หน่อยๆ +ไหลลงได้ 116 แอบเเซงซูซูกิเสวย(สวิฟ) ที่ขับชิวๆได้ตั้งหลายหน
แต่โดนมาสด้า กระบะ และยี่ห้ออื่นๆที่ขับทำเวลาแซงไปได้ทุกคันเช่นกัน~
บิดเพลินๆ จนมาถึงตัวจังหวัดประมาณ 9 โมง
จากนั้นเกิดอาการหลงทางนิดหน่อย หมุนไปๆมาๆระหว่างตัวเมือง กว่าจะมาถึงวัดไผ่ล้อมได้ เพื่อมาร้านเจ๊เพ็ญ เย้นตาโฟที่อยู่ข้างๆ
ไปถึงก็ไม่รอช้า สั่งบะหมี่กั๊งมา1เซต ใกล้จะสิบโมงพยาธินี่แทบจะประท้วงกันเเล้ว
ซูมๆๆ ชามละร้อยหรือ 80สักอย่างนี่แหละ (มีก๋วยเตี๋ยวปกติ/ปู-กั๊งขายด้วยเน้อ ปกติชามละ 40-50 มั้ง)
หูย แม้จะไม่อร่อยจนนกยูงโผล่ออกมาจากหน้ากากได้ แต่ก็เข้าขั้นเลยนะเนี่ย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรือเพราะเราหิวมากเลยรู้สึกอร่อยเพิ่มขึ้นก็ไม่ทราบได้
พอซัดหมดชาม ก็เลยซื้อแบบเกาเหลาปูกั๊งมาสองถุง ไว้ฝากคนที่บ้านซะ
จากนั้นก็เริ่มวางแผนเดินทาง ตอนแรกว่าจะไม่แวะไปเฉียดทะเล แล้วไปดูทางจนถึงท่าเรือที่ตราด
ดูคร่าวๆก็พุ่งไปอีกร้อยโล+หลงในตราด ชักภาพท่าเรือเเล้วกลับมาอีกร้อยโล.....แค่คิดก็เพลียเเล้ว
เลยเนียนๆ ยกเลิกการไปตราดซะ เเล้วไปเดินชมโบสถ์-สุสานสักพักแทน =w="
หลังจากนั้นก็ U turn หลงมาอีก 2 รอบ กว่าจะถึงจุดหมายร้านต่อมา
(จริงๆตั้งใจไปอีกสาขานะ แต่อากู๋ในมือถือหาไม่เจอ หาตอนอยู่ที่บ้านก็หาเจอแต้ๆ)
ด้วยความที่เพิ่งยัดก๋วยเตี๋ยวไปชามนึงยังไม่ครบชม.
เลยสามารถลองได้อีกเมนูเดียวเท่านั้น ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจนะเนี่ย
(แผนเดิมตั้งใจ มัสมั่น+หมึกกระเทียม)
ลองๆถามดูว่ามัสมั่นนี่ไซส์ใหญ่ไหม (หากมีเล็กจะได้สั่งเล็ก)
ปรากฏว่ามีไซส์เดียว ชามละสองร้อย.....เหย็ดดดดด
ไหนๆมาเเล้ว ตั้งใจสุดๆ เลยจัดมา 1 เซ็ตครับท่าน
ขนาดชามเกินฝ่ามือตรูอีก ได้ สะโพกมา 2 + มัน(ทุเรียน) 4 ก้อน
หลังจากกินเข้าไปก็เกิดอาการฟินอีกเช่นเคย
แม้ตัวเครื่องจะไม่หรูหรา ขนาดแกงที่หัตถ์เทวะต้นตำรับปรุงเพื่อถวายราชินีก็เหอะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวเนื้อไก่นุ่ม เนื้อแกงเข้าถึงข้างใน ไม่เผ็ดเกินไป มัน(ทุเรียน) ก็แข็งกำลังดีไม่นุ่มจนเหลว (แหงล่ะ ทุเรียนยังไม่สุก)
แถมรสชาติออกหวานนิดๆ หูย อร่อย~~~เลิศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยความพยายามยัดไก่ลงไปสองชิ้น ข้าว 1 จาน แถมทุเรียน 4 ก้อน.....และก่อนหน้านั้นบะหมี่ 1 ชาม
....ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนได้เข้าใกล้ขีดจำกัดของอะไรสักอย่าง.....
หลังจากเพิ่มน้ำหนักบรรทุกให้รถตัวเองเเล้วก็ต้องมาวางแผนกันใหม่
หลังจากแผนเดิมที่ว่าจะไม่เฉียดทะเลล่มไปแล้ว
แผนใหม่ก็เลยกลายเป็น วิ่งเล่นโค้งเส้นชายหาดตามป้ายไปเรื่อยๆแทนโลด!
หลังจากวิ่งอ่านป้ายไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงจุดชมวิวเนินนางพญาจนได้
รถเราแอบเนียนๆจอดในคอก ส่วนกลุ่มทัวริ่งตัวพันที่แซงมาระหว่างทางเขาก็จอดข้างนอกกัน
หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปสุดหาดกับจุดชมวิวหินโคร่ง
ตรงนั้นก็เจอคณะ KSR มาจับจองกันเต็มพื้นที่ (วันนั้นเจอไปหลายกลุ่มมากครับ)
ชักภาพหินโคร่งกันสักนิด
อันนี้ไม่ใช่เเระ ต้องอันนี้ซินะ
หลังจากนั้นก็เลื้อยมาตามป้ายอีกเช่นเคย จนมาถึงเรือรบหลวงประแสร์
ได้เอาน้องเฮฟวี่ครุยเซอร์มาถ่ายรูปซะเลย~
จากนั้นก็หมดแรง นั่งกินน้ำพักผ่อน ชมทะเลไปพลาง ให้ขี้เกลือเกาะรถไปพลางๆ
หลังจากพักพอแล้วก็ตั้งใจออกเดินทางกันต่อ ขณะที่ออกมาจากหาดก็หันไปเห็นป้ายร้าน "หมวยเอ๊กเรือรบ"
....ช่างเป็นชื่อร้านที่ส่งเสริมจินตนาการของเราอะไรเช่นนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับความคิดนั่นเอง ก็เกิดเหตุขึ้นจนได้....
วันอาทิตย์ ที่เรือรบเขาปิดล็อคห้องน้ำ ตรงที่ทำการไว้ซะด้วย....
ตอนนั้นจำได้ว่ารีบพุ่งเข้าตัวจังหวัดอย่างไวสุดๆ อารมณ์แทบจะบินไปหาปั้มเลยครับ
หลังแวะปั้มลดน้ำหนักบรรทุกเรียบร้อย
ตอนที่คิดว่าทริปนี้จะได้เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพแล้ว มันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ครับ
ตอนที่ผ่านตำบลหนองอีรุณ เป็นถนนชนบทไป1กลับ1เลน
ตอนที่กำลังบิดสบายๆ 80 ก่าๆ อยู่ดีๆก็เจอเมก้าหลุมลึกเต็มทั้งเลน 2 หลุม ต่อเนื่องเลยครับท่าน
แถมเลนสวนก็มีรถบรรทุกวิ่งมาซะอีก
ตอนนั้นปล่อยคันเร่ง+กำเบรคลงไปได้เหลือสัก 60-70 ถึงหลุม
จากนั้นก็มาเปลี่ยนกำแฮนด์ลงหลุมไป 2 ตู้มมมมม......
หลังจากนั้น เริ่มขลดรถและตรวจสภาพตัวเอง+รถ
คนขี่ยังไม่เด้งออกไปไหน
ยางยังไม่มีเสียงระเบิด
แมกซ์ยังไม่ดุ้ง(ที่สังเกตเห็นได้ชัด)
กระจกข้างตกลงมานิดหน่อย
หูยเรียกได้ว่าผ่านมาแบบไร้รอยขีดข่วน.....
หันไปดูกล่องหลัง....เอ๊ะไม่มีกล่องหลัง !!!!
แถมฐานรอง เขี้ยวหักไป...นี่กล่องหลังตรูสละยานไปแล้วเรอะเฮ้ย!
แถมในนั้นใส่เกาเหลากั๊งไว้ในนั้นด้วยนะเฮ้ย!
คาดว่ากล่องหลังคงสละยานไปตอนตกหลุมที่ความเร็ว 70+ สภาพประมาณนี้
รีบคลานย้อนไปเจอกล่อง และเปิดเช็คข้างใน....
ส่วนประกอบที่เป็นเกาเหลาทั้งหมดยังอยู่ในถุงดี....
ทว่าถุงน้ำซุปนี่แตกกระจาย หอมหวนไปหมด
หลังจากเท+ล้างโดยลวกๆแล้ว จะวางกล่องไว้บนฐานมันก็ไม่เกาะเเล้ว จะซุกไว้ตรงที่วางเท้ากล่องมันก็ใหญ่เกินไป
นั่งคีบไปได้แบบทุลักทุเล ไปพึ่งร้านข้างทาง เพื่อขอเชือกฟางมามัดยึดกล่องซะ
เออมัดได้แน่น ย้อนมายึดกับตะเกียบคู่แบบพอไปวัดไปวาได้
ขณะนั้นอีกร่วมๆ 300 km กว่าจะกทม. ตอนแรกๆก็หวั่นๆ ค่อยๆคลานมา 60 ก่าๆนะ
พอเห็นว่ากล่องยังเกาะอยู่ได้ เริ่มกลับมาที่ 80-90+ ตามเสตปเดิม จนมาแวะปั้มพักรถพักคน
ก็เลยจัดของว่างหวานไปซะแก้ว
ก่อนจะเอากล่องไปล้างในห้องน้ำอีกสักหน หลังจากนั้นก็ยิงยาวกลับบ้านมาเจอรถติดตามปกติ
จนคลานมาถึงบ้านประมาณห้าโมงครึ่ง แล้วอาบน้ำโหลดบิทสลบไป.....
ก็เป็นอันจบทริปบินเดี่ยวครั้งนี้ของตาแป๊ะลงแบบทุลักทะลุพอควร