The Rover (David Michôd,2014) คะแนน B
By Form Corleone
"กะทันหัน เกินคาดเดา ไร้ซึ่งขอบเขต" กับการเปิดตัวต้นเรื่องที่ไม่ทันตั้งตัว บวกกับการถ่ายภาพที่ทิ้งช่วงเวลาให้ได้พินิจพิจารณารายละเอียดต่างๆ ได้อย่างชัดเจน การเล่าเรื่องที่ไม่ต้องใช้คำพูดมากมาย เพียงแค่สีหน้าของนักแสดง จังหวะในการเข้าทำของตัวหนังส่งผลออกมาในแง่เชิงบวกและเชิงลบไปพร้อมๆกัน ตลอดระยะเวลาหนังไม่เพียงแค่พาตัวเราไปสู่โลกอีกโลกหนึ่งแต่หนังยังพาตัวเราเข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นั้นๆ การแสดงของ “Guy Pearce” และ “Robert Pattinson” ถือเป็นการแสดงที่ดีมากๆ โดยเฉพาะ “Robert Pattinson” หลังจากเป็นแวมไพร์ดูดเลือด หน้าตาซีด หล่อเท่ห์ แต่สำหรับเรื่องนี้ต้องบอกว่า พี่แกแสดงแบบลืมหล่อ แถมยังแสดงดีเอามากๆ ความกะทันหันของตัวหนัง คือ ความดิบ ไม่ต้องมีอะไรมากมาย อยากจะมาตอนไหนก็มาเลย ดูไปก็นึกไปถ้าเป็นเรื่องจริงหรือชีวิตจริงมันก็คงจะประมาณนี้หรือเปล่า กับเหตุการณ์แบบนี้ สถานที่แบบนี้ ความดิบของหนัง ทำให้เราลุ้นไปกับเหตุการณ์ข้างหน้าที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ถึงกระนั้นแล้ว เราก็ไม่สามารถเข้าใจที่มาและแรงจูงใจของตัวละคร พฤติกรรมของตัวละครแบบแท้จริง การเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเป็นการนำเสนอที่ไร้ขอบเขตของการเล่าเรื่อง เหตุการณ์ต่างๆล้วนเกิดขึ้น ณ เวลานั้นๆ ตามสถานการณ์ ณ ตอนนั้น ผนวกกับการแสดงของนักแสดงที่ชวน กดดัน และ อึดอัด โดยไม่ต้องมีเสียงหรือดนตรีประกอบใดๆมาช่วยบิ้วท์อารมณ์เลยแม้แต่น้อย เพราะการถ่ายภาพของหนังก็ชวนให้ระทึกได้แล้วครับ
ตัวหนังเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีนี้เลยครับ หนังอยู่ในหมวด “สายเข็ง” ต้องพวกที่บ้าคลั่งการเสพหนังคงจะชอบแบบสุดๆ ขึ้นชื่อว่า “คานส์” มันก็ต้องฮาร์ดคอร์กันหน่อยแหละครับ สำหรับคนทั่วไปคงต้องใช้ความพยายามในการดูค่อนข้างมาก แต่สำหรับพวกสายแข็ง คงจะดูสบายๆ ผมชอบที่ตัวหนังนึกจะมาก็มา ฉาก การถ่ายภาพ มุมกล้อง ‘ดูจริงจัง’และ ‘ซีเรียส’ มากครับ ไม่เหมาะกับพวกโลกสวยเพราะตัวหนังจะเรียกว่า “ป่าเถื่อนแบบมีศิลป์” ก็ว่าได้ สำหรับคนที่คิดจะดูต้องเตรียมตัวเตรียมใจไปก่อนนะครับ เพราะหนังมันสายแข็งจริง แต่ก็ไม่ได้ดูยากขนาดที่จะดูไม่รู้เรื่องเลย เพียงแค่หนังดำเนินเรื่องในรูปแบบที่ตัวหนังต้องการนำเสนอ!!
สุดท้าย “The Rover” คือ ภาพยนตร์ที่แสดงความป่าเถื่อนของตัวละครได้อย่างมีศิลปะและชั้นเชิงในการนำเสนอ การเล่าเรื่องที่เกินคาดเดาผนวกกับฉากที่ดูกดดัน และ ซีเรียส ทั้งหมดทั้งมวลของตัวหนังบีบคั้นคนดูได้ตลอดทั้งเรื่อง ถึงแม้ว่าหนังจะมีวิธีการนำเสนอในตัวของมันเอง แต่ด้วยเหตุผลและแรงจูงใจก็ยังเป็น “ปริศนา” ที่ผมก็ยังเข้าใจไม่หมดอยู่ดี โดยรวมแล้วไม่ขอแนะนำสำหรับคนที่ต้องการเสพหนังเพื่อความผ่อนคลายทางร่างกายและจิตใจ แต่ถ้าใครสนใจหนังสายแข็ง ผมคิดว่า “The Rover” เป็นหนังที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งเลยครับ >< ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
อ่านเรื่องอื่น
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: The Rover (David Michôd,2014)
By Form Corleone
"กะทันหัน เกินคาดเดา ไร้ซึ่งขอบเขต" กับการเปิดตัวต้นเรื่องที่ไม่ทันตั้งตัว บวกกับการถ่ายภาพที่ทิ้งช่วงเวลาให้ได้พินิจพิจารณารายละเอียดต่างๆ ได้อย่างชัดเจน การเล่าเรื่องที่ไม่ต้องใช้คำพูดมากมาย เพียงแค่สีหน้าของนักแสดง จังหวะในการเข้าทำของตัวหนังส่งผลออกมาในแง่เชิงบวกและเชิงลบไปพร้อมๆกัน ตลอดระยะเวลาหนังไม่เพียงแค่พาตัวเราไปสู่โลกอีกโลกหนึ่งแต่หนังยังพาตัวเราเข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นั้นๆ การแสดงของ “Guy Pearce” และ “Robert Pattinson” ถือเป็นการแสดงที่ดีมากๆ โดยเฉพาะ “Robert Pattinson” หลังจากเป็นแวมไพร์ดูดเลือด หน้าตาซีด หล่อเท่ห์ แต่สำหรับเรื่องนี้ต้องบอกว่า พี่แกแสดงแบบลืมหล่อ แถมยังแสดงดีเอามากๆ ความกะทันหันของตัวหนัง คือ ความดิบ ไม่ต้องมีอะไรมากมาย อยากจะมาตอนไหนก็มาเลย ดูไปก็นึกไปถ้าเป็นเรื่องจริงหรือชีวิตจริงมันก็คงจะประมาณนี้หรือเปล่า กับเหตุการณ์แบบนี้ สถานที่แบบนี้ ความดิบของหนัง ทำให้เราลุ้นไปกับเหตุการณ์ข้างหน้าที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ถึงกระนั้นแล้ว เราก็ไม่สามารถเข้าใจที่มาและแรงจูงใจของตัวละคร พฤติกรรมของตัวละครแบบแท้จริง การเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเป็นการนำเสนอที่ไร้ขอบเขตของการเล่าเรื่อง เหตุการณ์ต่างๆล้วนเกิดขึ้น ณ เวลานั้นๆ ตามสถานการณ์ ณ ตอนนั้น ผนวกกับการแสดงของนักแสดงที่ชวน กดดัน และ อึดอัด โดยไม่ต้องมีเสียงหรือดนตรีประกอบใดๆมาช่วยบิ้วท์อารมณ์เลยแม้แต่น้อย เพราะการถ่ายภาพของหนังก็ชวนให้ระทึกได้แล้วครับ
ตัวหนังเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีนี้เลยครับ หนังอยู่ในหมวด “สายเข็ง” ต้องพวกที่บ้าคลั่งการเสพหนังคงจะชอบแบบสุดๆ ขึ้นชื่อว่า “คานส์” มันก็ต้องฮาร์ดคอร์กันหน่อยแหละครับ สำหรับคนทั่วไปคงต้องใช้ความพยายามในการดูค่อนข้างมาก แต่สำหรับพวกสายแข็ง คงจะดูสบายๆ ผมชอบที่ตัวหนังนึกจะมาก็มา ฉาก การถ่ายภาพ มุมกล้อง ‘ดูจริงจัง’และ ‘ซีเรียส’ มากครับ ไม่เหมาะกับพวกโลกสวยเพราะตัวหนังจะเรียกว่า “ป่าเถื่อนแบบมีศิลป์” ก็ว่าได้ สำหรับคนที่คิดจะดูต้องเตรียมตัวเตรียมใจไปก่อนนะครับ เพราะหนังมันสายแข็งจริง แต่ก็ไม่ได้ดูยากขนาดที่จะดูไม่รู้เรื่องเลย เพียงแค่หนังดำเนินเรื่องในรูปแบบที่ตัวหนังต้องการนำเสนอ!!
สุดท้าย “The Rover” คือ ภาพยนตร์ที่แสดงความป่าเถื่อนของตัวละครได้อย่างมีศิลปะและชั้นเชิงในการนำเสนอ การเล่าเรื่องที่เกินคาดเดาผนวกกับฉากที่ดูกดดัน และ ซีเรียส ทั้งหมดทั้งมวลของตัวหนังบีบคั้นคนดูได้ตลอดทั้งเรื่อง ถึงแม้ว่าหนังจะมีวิธีการนำเสนอในตัวของมันเอง แต่ด้วยเหตุผลและแรงจูงใจก็ยังเป็น “ปริศนา” ที่ผมก็ยังเข้าใจไม่หมดอยู่ดี โดยรวมแล้วไม่ขอแนะนำสำหรับคนที่ต้องการเสพหนังเพื่อความผ่อนคลายทางร่างกายและจิตใจ แต่ถ้าใครสนใจหนังสายแข็ง ผมคิดว่า “The Rover” เป็นหนังที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งเลยครับ >< ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
อ่านเรื่องอื่น http://moviesdelightclub.blogspot.com/