คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
อันนี้ความคิดเห็นเหมือนกันครับ
แวน เฮาเทน เหมือนพยายามบอกกับเฮเซลว่า อย่าไปใส่ใจเลยว่าคนที่อยู่จะเป็นยังไง
เหมือนฟังเพลงฮิปฮอปสวีเดนนั้นแหละ ฟังไปก็ไม่รู้เรื่อง ไม่มีความหมายอะไรเลย
เข้าใจว่าอยากให้เฮเซลไม่ต้องไปคิดถึงคนที่อยู่ เพราะตัวเองจะทุกข์ซะเปล่าๆ ถ้าได้รับรู้ว่าคนที่อยู่ต้องเจ็บปวด
เหมือนตัว แวน เฮาเทนเอง ที่เมื่อลูกสาวจากไปแล้วก็ใช้ชีวิตไม่เป็นผู้เป็นคนแบบนี้
ส่วนที่บ้านของแอน แฟรงค์ อย่างความเห็นข้างบนว่าครับ
ต้องฟังที่เค้าบรรยาย เกี่ยวกับชีวิต ความเจ็บปวด ความลำบาก แต่เราก็ยังคงต้องสู้ต่อไป
หนังจะตัดคำบรรยายในบ้านของแอน แฟรงค์กับสอดคล้องกับการกระทำของเฮเซล
(อย่างตอนที่พยายามขึ้นบันได แล้วเฮเซลทำท่าจะไม่ไหวแล้ว แต่ก็สู้ในที่สุดนั้นแหละครับ)
แวน เฮาเทน เหมือนพยายามบอกกับเฮเซลว่า อย่าไปใส่ใจเลยว่าคนที่อยู่จะเป็นยังไง
เหมือนฟังเพลงฮิปฮอปสวีเดนนั้นแหละ ฟังไปก็ไม่รู้เรื่อง ไม่มีความหมายอะไรเลย
เข้าใจว่าอยากให้เฮเซลไม่ต้องไปคิดถึงคนที่อยู่ เพราะตัวเองจะทุกข์ซะเปล่าๆ ถ้าได้รับรู้ว่าคนที่อยู่ต้องเจ็บปวด
เหมือนตัว แวน เฮาเทนเอง ที่เมื่อลูกสาวจากไปแล้วก็ใช้ชีวิตไม่เป็นผู้เป็นคนแบบนี้
ส่วนที่บ้านของแอน แฟรงค์ อย่างความเห็นข้างบนว่าครับ
ต้องฟังที่เค้าบรรยาย เกี่ยวกับชีวิต ความเจ็บปวด ความลำบาก แต่เราก็ยังคงต้องสู้ต่อไป
หนังจะตัดคำบรรยายในบ้านของแอน แฟรงค์กับสอดคล้องกับการกระทำของเฮเซล
(อย่างตอนที่พยายามขึ้นบันได แล้วเฮเซลทำท่าจะไม่ไหวแล้ว แต่ก็สู้ในที่สุดนั้นแหละครับ)
แสดงความคิดเห็น
คำถามthe fault in our star (spoiled)