นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาภายในสมาคมระหว่าง "โค้ชเช" ชเว ยองซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย กับ "น้องก้อย"  รุ่งระวี ขุระสะ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะปรับความเข้าใจกันต่อหน้าสื่อมวลชน โดยที่ "น้องก้อย" ได้นำดอกไม้มาขอโทษ "โค้ชเช" พร้อมกล่าวขอโทษไปเมื่อวันก่อน ณ ที่ทำการสมาคมฯนั้น

"ส่วนตัวอยากขอวิงวอนไปยังสื่อมวลชนทุกแขนง รวมไปถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งว่าอย่าเปิดประเด็นอะไรขึ้นมาอีก เพราะพวกเราทุกคนเสียเวลาในเรื่องนี้กันมามากแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้น เวลานี้สภาพขวัญและกำลังใจรวมไปถึงสภาพจิตใจต่างๆของนักกีฬาที่เรามีอยู่กว่า 30 คนไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทุกคนมีความเครียดและท้อแท้หมดกำลังใจ เห็นได้จากการฟิตซ้อมในแต่ละวันไม่ค่อยเหมือนเดิม

ล่าสุดเพื่อเป็นการให้ทุกอย่างกลับคืนมาสู่ภาวะปกติ  สมาคมฯได้ระดมเอานักจิตวิทยา, นักโภชนาการ และนักวิทยาศาสตร์การกีฬาจาก กกท. เข้ามาให้คำปรึกษานักกีฬาทั้งหมดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะชุดยูธโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 2 ที่หนานจิง และชุดเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 ที่อินชอน ที่เราจะพยายามเอาเหรียญทองกลับมา ทั้งนี้ สมาคมหวังว่าทุกคนจะมีกำลังใจและหมดความกังวลใจเรื่องนี้ เพราะทุกอย่างได้ข้อสรุปจบไปแล้ว"

อุปนายกสมาคมฯกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามจากนี้ไปการคัดเลือกตัวนักเทควันโดทีมชาติไทยเข้ามาสู่แคมป์ ไล่ตั้งแต่ชุดยุวชน, เยาวชน และประชาชนทั่วไป จะต้องมีการปฐมนิเทศอบรมสั่งสอนให้ความรู้ถึงระเบียบวินัย, กฎกติกาต่างๆ ของการอยู่ร่วมกัน รวมไปถึงการทำโทษนักกีฬาตั้งแต่เบาไปถึงหนักว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง เพราะกีฬาต่อสู้มีการอยู่ในระเบียบวินัยและการทุ่มเทเอาใจใส่มันสำคัญยิ่ง หากนักกีฬาไม่ประสบความสำเร็จหรือไม่เคยคว้าเหรียญรางวัลในระดับนานาชาติเลย ตัวโค้ชเชเองก็อยู่ลำบาก แต่ที่ต้องเข้มงวดวินัยระเบียบต่างๆของนักกีฬาไทยเพราะอยากให้ทุกคนประสบความสำเร็จ อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่านิสัยคนไทยชอบอะไรสบายๆ ไม่อยากให้มีใครมาบังคับ แต่เมื่อมาเล่นกีฬาชนิดนี้แล้วจะต้องเสียสละและเข้าใจวัฒนธรรมของกีฬาเทควันโดที่เขามีมานานเป็น 100 ปีแล้ว ในการพัฒนาขีดความสามารถนักกีฬาจากคนธรรมดาไปสู่นักกีฬาระดับโลก.

CR: http://www.thaipost.net/news/250714/93629