เกาหลีเหนือไม่ได้เอานิวเคลียร์มาขู่เพื่อขอแลกอาหาร

เกาหลีเหนือไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติมากขนาดนั้น

เกาหลีเหนือมีพื้นที่ทำการเกษตร เพาะปลูกพืชผักทั่วไปได้ตามฤดูกาล ยกเว้นกรณีเกิดภัยแล้ง

เกาหลีเหนือเกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงในทศวรรษที่ 1990s เพราะภัยธรรมชาติ และปัญหาการเมือง
ปัจจุบันภาวะขาดแคลนอาหารทุเลาลง การผลิตในภาคเกษตรทำได้ปกติ
แต่ที่มีปัญหาคือระบบการจัดสรรผลผลิต ที่ทำได้ไม่ทั่วถึง ไม่เป็นธรรม

เกาหลีเหนือเคยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 34 ของโลก ในช่วงทศวรรษที่ 1980s

เกาหลีเหนือเคยมียุครุ่งเรืองตอนตั้งประเทศใหม่ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในยุคอุตสาหกรรมหนัก
โรงงานในเกาหลีเหนือผลิตสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกได้มาก จนกระทั่งเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ยุคไฮเทคโนโลยี
และเศรษฐกิจโลกเกิดวิกฤติน้ำมัน การส่งออกซบเซา ต่อมาโซเวียตแตกไม่สามารถปล่อยเงินกู้ให้เกาหลีเหนือได้อีกต่อไป
เกาหลีเหนือถูกคว่ำบาตร และประสบกับภัยธรรมชาติ ระบบเศรษฐกิจพังพินาศ

เกาหลีตอนเหนือเคยเป็นย่านที่เจริญมากกว่าเกาหลีตอนใต้ ในอดีตมีระบบ infrastructure ดีกว่าตอนใต้เสียอีก
แต่ปัจจุบันล้าหลังกว่าเกาหลีใต้เพราะระบบสถาบันการเมืองแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์

ทำไมเกาหลีเหนือจึงเลือกระบบสถาบันการเมืองแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์

1. เพราะตัวตนของเกาหลีเหนือเอง เขาภูมิใจในความเป็นเกาหลีเหนือ ความเป็นเชื้อชาติบริสุทธิ์
ทำให้ไม่ยอมรับอิทธิพลจากภายนอก เมื่อไม่ยอมรับก็ต้องพัฒนากองทัพขึ้นมาเพื่อรักษาตัวตน

2. แรงกดดันจากภายนอก ตอนแรกเกาหลีเหนือ copy โมเดลการเมืองจากโซเวียต
แต่ต่อมาสตาลินตายในปี 1953  แล้วครุสชอฟขึ้นมาแทน ครุสชอฟประนามสตาลินและเปลี่ยนแนวทางไปผสมผสานอุดมการณ์คอมมิวนิสต์กับทุนนิยม
ทำให้ทั้งจีนและเกาหลีเหนือรู้สึกว่านี่คือภัยคุกคามใกล้ตัว ท่านประธานเหมาเม้งแตกมากๆ ในช่วงนั้น
ส่วนเกาหลีเหนือก็หันมาพัฒนาระบบการเมืองในแบบฉบับของตนเอง ที่เรียกว่าปรัชญา "จูเช่"

ปัจจัยเหล่านี้หล่อหลอมและกดดัน ให้เกาหลีเหนือกลายเป็นเกาหลีเหนืออย่างที่เราเห็นทุกวันนี้