เราเลี้ยงกระรอกไว้ค่ะ น้องกระรอกเราเป็นตัวผู้ชื่อ "กุ๊งกิ๊ง" (คือแม่เราตั้งให้นะคะ อย่ามองเรายังง้านนน) อันที่จริงคือต้องบอกว่ากระรอกตัวนี้แม่เราซื้อมาเลี้ยงมากกว่า (แม่เราชอบกระรอกมากๆ) ตอนมันยังเล็กทุกคนก็จับมันได้ไม่มีปัญหานะคะ จนกระทั่งเริ่มโตนี่ล่ะ กัดชาวบ้านซะเลือดพุ่ง คนที่เคยเล่นกับมันพอรู้ว่ามันกัดคนเลือดออก ทีนี้ก็ไม่กล้ายุ่งเลยค่ะ หายไปทีละคนสองคน สุดท้ายก็เหลือแค่เรากับแม่ที่ยังจับมันได้
ทีนี้ช่วงน้ำท่วมกรุงเทพคราวนั้นบ้านเราก็โดนด้วยค่ะ ท่วมหนักจนอยู่ไม่ได้ ที่บ้านเลยตัดสินใจกันว่าต้องอพยพหนีไปต่างจังหวัดกันแล้วละ ทีแรกเราจะเอากระรอกของเราไปด้วย แต่ปรากฏว่าแม่ไม่ให้เอาไปค่ะ เพราะน้ำท่วมสูงจริงๆ (ตอนนั้นท่วมไปแล้ว) ต้องฝ่ากระแสน้ำออกจากบ้าน ไหนจะข้าวของ แค่แบกของตัวเองฝ่าน้ำนี่ก็แทบไม่ไหวกันแล้ว ไหนจะต้องเดินตั้งไกลกว่าจะถึงจุดที่เขามีรถทหารบริการอีก จำได้ว่าตอนนั้นเถียงกับแม่นานมากๆ แต่สุดท้ายก็ต้องยอม ฝ่ายพี่ชายเราที่อยู่เฝ้าบ้านเลยรับปากว่าจะคอยดูแล เอาอาหารให้ เราเลยออกจากบ้านไปแบบพอจะวางใจได้บ้าง แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี
ทีนี้พอน้ำเริ่มลดจนถึงระดับที่พอจะอยู่ได้แล้วพวกเราก็กลับบ้านค่ะ กลับไปดีใจมากกก น้องกระรอกยังอยู่เหมือนเดิม ยังอ้วนเหมือนเดิม เราวางข้าวของรีบเอาของกินที่ซื้อมาเปิดกรงแล้วยื่นให้ ทีแรกแอบกลัวค่ะว่ามันจะยังจำเราได้มั้ย พอมันรับอาหารเราไปกินเฉยๆเราก็ดีใจ ว่า เออ...มันยังไม่ลืมเราล่ะนะ
แต่พอกินหมดเท่านั้น ปรากฏว่ามันโดดกัดเลยค่ะ
เราตกใจมาก รีบชักมือออกปิดกรงเลย มองมืออีกทีเลือดออกไปแล้ว ความรู้สึกแรกเลยคือเสียใจมากๆ แม่เราเองเห็นเรายังโดนกัดซะเลือดไหลขนาดนั้นก็กลัวค่ะ เลยไม่กล้าแตะมันไปด้วยเลย เราเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ทุกวันจากนั้นเลยได้แต่คอยให้อาหารมัน (แต่ไม่ได้เอามือเข้าไปในกรงหรือจับตัวมันอีก) เรียกชื่อมันบ้าง พยายามเอานิ้วเอามือมาเล่นแถวซี่กรงเยอะๆ เผื่อว่าได้กลิ่นทุกวันแล้วมันจะจำเราได้มั่ง
ผ่านไปเป็นเดือนๆเลยค่ะหลังจากนั้น เราก็คอยทำอยู่แค่นี้ เอาถาดไปล้างให้ จะเปลี่ยนผ้าเปลี่ยนอะไรให้มันก็ต้องใส่ถุงมือหนาๆ (แบบที่เขาใช้กันในที่ก่อสร้างอ่ะ) คอยวนเวียนเอามือไปเล่นๆแหย่ๆมันแถวกรงบ่อยๆ จนวันนึง เราเอากรงออกไปหลังบ้าน กะว่าจะล้างถาดรองแล้วเอาผ้าออกมาซะหน่อย ปรากฏว่าจังหวะที่เปิดกรง กระรอกเราวิ่งสวนค่ะ คือวิ่งจากมือเรา ไต่ตามแขนขึ้นมาอยู่บนตัวเลย
ทีแรกกลัวมากกกกก เพราะหลังจากที่โดนกัดครั้งแรกเราก็เคยพยายามเข้าหามันอีกสองสามครั้ง ทุกครั้งโดนกัดเหมือนกันหมด (แต่กัดไม่ลึก หลังๆรู้แกว ชักมือออกทัน) แต่ทีนี้ความกลัวว่ามันจะเตลิดหายไปมีมากกว่า เลี้ยงมันมาตั้งหลายปี มันหาอาหารเองไม่เป็นแล้วแน่ๆ ตอนนั้นเลยทำใจ ทิ้งกรงทิ้งทุกอย่าง แล้ววิ่งเข้าบ้าน ปิดประตูเลยค่ะ
ตอนนั้นมืดแล้ว บ้านเราจะปิดหน้าต่างเพื่อกันยุงไม่ให้เข้า เราเลยวางใจว่าไงๆมันก็คงไม่เตลิดหายไป แต่ลืมไปว่าแม่เรากับพี่เรากลัวมันแค่ไหน (คือเขาเห็นมันกัดกระทั่งเรา ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับมันอีกเลยค่ะ หน้าที่ให้อาหารมันตอนนี้ก็ของเราละ) ปรากฏว่าพอเข้าบ้านปุ๊บ กระรอกเราโดดลงพื้นปั๊บ แม่กับพี่ชายเราก็วงกระจายเลยค่ะ 5555555+ (ไม่ได้คิดจะช่วยลูกช่วยน้องเล้ยสองคนนี้)
ทีแรกวิ่งไล่จับมันกลับเข้ากรงก็กลัว เลยหาผ้าปูเตียงมา กะเอามาโยนครอบมันแล้วจับผ่านผ้า แต่ทุกคนคงรู้ดีว่ากระรอกนี่ไวสุดๆอ่ะค่ะ แน่นอนว่าไม่มีทางจับทัน เราจับนานมาก มากจนหมดแรงนั่งหอบ เอาอาหารล่อก็แล้ว เอาผลไม้ล่อก็แล้ว มันก็ยังไม่ยอมหลงกล สุดท้ายเลยนั่งแปะกับพื้น มองมันที่หลบอยู่หลังๆชั้นทีวี บอกมันว่ายอมแพ้ละ จะออกมาเมื่อไหร่เดินออกมาเองนะ (คือพูดไปงั้นค่ะ แค่จะนั่งพัก หายเหนื่อยก็ต้องไล่จับต่ออยู่ดี เหอะๆ)
แต่ทีนี้เราเห็นมันนิ่งมาก (ทีแรกตกใจว่ามันช็อคไปแล้วหรือเปล่า) คือยืนเฉยๆ เราก็ค่อยๆกระดื๊บไปหามัน ค่อยๆยื่นมือไปหา (ผ้าเผ้อถุงมือไม่มีแล้ว หมดแรงขั้นสุดค่ะ) แล้วก็ช้อนตัวมัน จับได้สำเร็จค่ะ
และที่ดีใจกว่านั้นคือ...มันก็ยอมให้อุ้ม ไม่กัดเลยด้วย! (จริงๆคือมันอาจจะเหนื่อยจนหมดแรงแล้วพอกัน ฮาา)
ตอนนั้นดีใจมากกกกก ดีใจสุดๆ เราไม่ได้แตะตัวมันแบบนี้มานานมากๆเลยค่ะ พอจับได้อุ้มได้ก็ค่อยๆลองเอานิ้วลูบหัวมันเบาๆ มันก็ยังเฉย พอคราวนี้เริ่มลูบลำตัว มันก็เฉยอีก จำได้ว่าตอนนั้นดีใจจนอุ้มมันไปบอกแม่ว่า "แม่ กุ๊งกิ๊งมันให้หนูจับมันได้แล้วแหละ!" แต่แม่ไล่ให้ไปไกลๆค่ะ แม่กลัว (กร๊ากกกกกก)
จนถึงตอนนี้ ผ่านมาหลายปีแล้ว มันก็ยังอยู่นะคะ ยังให้เราจับเหมือนเดิม หลังจากนั้นมามันก็ไม่เคยกัดเราอีกเลย (มีแต่วิ่งมาแทะนิ้วแทะเล็บ) ติดมือเราด้วยซ้ำ ชอบเล่น เราเปิดกรงเล่นกับมันทีมันจะดี๊ด๊ามาก คงดีใจที่มีเพื่อน เพราะจนป่านฉะนี้บ้านเราก็ยังไม่มีใครจับมันได้เหมือนเดิม (เมื่อกี้อุ้มมันไปหาแม่ อยากให้แม่ได้จับมันบ้าง เลยใช้วิธีเอามือเราดึงดูดความสนใจมันไว้ แล้วให้แม่แอบลูบหลังมันแทนค่ะ ปรากฏว่ามันรู้นะ มันหันขวับจ้องแม่เราเขม็งเลย แล้วหันกลับมาจ้องเราด้วย เหมือนจะบอกว่า "ให้ผู้หญิงคนนี้มาจับตัวฉันได้ไงฮะ")
แอบแปะรูปด้วย
จะถ่ายรูปให้ได้ชัดๆนี่ยากมากเลยค่ะ อยู่ไม่สุขเล้ย นิ่งได้เฉพาะตอนกินกับนอน
ที่เอามาเล่าเพราะเห็นก่อนหน้านี้มีเรื่องชูการ์ที่ถูกเจ้าของฆ่า เห็นรูปแล้วนึกถึงสัตว์เลี้ยงของตัวเองค่ะ คือนิสัยพวกเขาก็งี้แหละ กัดๆแทะๆ เราเคยได้ยินมาด้วยซ้ำว่ากระรอกอ่ะความจำสั้น ลืมแล้วก็ลืมเลย ลืมแล้วให้เป็นเจ้าของก็กัดด้วย แต่เราคิดว่าบางทีมันก็ไม่จริงเสมอไปนะ อย่างกุ๊งกิ๊งนี่ที่มันจำเราได้ใหม่ สุดท้ายก็เล่นด้วยกันได้เหมือนเดิม อยากจะบอกว่าถ้าพยายามมากพอ อดทนกับเขาได้มากพอ เขาก็น่าจะจำเราได้เองนะคะ เราเองก็โดนงับไปสองสามที เจ็บอยู่ แต่ถ้าคิดถึงตอนนี้ก็คุ้มอ่ะ
สัตว์เลี้ยง ให้ความรักกับเขาเยอะๆ ให้อย่างสม่ำเสมอ ยังไงเขาก็รู้นะคะ เขาจำได้ค่ะ
ปล. เราไม่ตัดเล็บให้มันด้วยค่ะ คือมันจะกัดหรือจะเอาเล็บจิกเนื้อก็ยอมหมดทุกอย่าง เรื่องของเรื่องคือแถวบ้านเราเคยมีคนเลี้ยงกระรอกเหมือนกัน แล้วเขาเอากระรอกตัวเองมาตัดเล็บ ปรากฏว่ามันตกใจแล้วกัดนิ้วเจ้าของ เจ้าของตกใจร้องเสียงดัง มันช็อคตายค่ะ เลยไม่ขอเสี่ยง -_-"
[แชร์สัตว์เลี้ยงกันค่ะ] ใครมีวีรกรรมอะไรของสัตว์เลี้ยงตัวเองที่จำได้ไม่มีลืมบ้างคะ
ทีนี้ช่วงน้ำท่วมกรุงเทพคราวนั้นบ้านเราก็โดนด้วยค่ะ ท่วมหนักจนอยู่ไม่ได้ ที่บ้านเลยตัดสินใจกันว่าต้องอพยพหนีไปต่างจังหวัดกันแล้วละ ทีแรกเราจะเอากระรอกของเราไปด้วย แต่ปรากฏว่าแม่ไม่ให้เอาไปค่ะ เพราะน้ำท่วมสูงจริงๆ (ตอนนั้นท่วมไปแล้ว) ต้องฝ่ากระแสน้ำออกจากบ้าน ไหนจะข้าวของ แค่แบกของตัวเองฝ่าน้ำนี่ก็แทบไม่ไหวกันแล้ว ไหนจะต้องเดินตั้งไกลกว่าจะถึงจุดที่เขามีรถทหารบริการอีก จำได้ว่าตอนนั้นเถียงกับแม่นานมากๆ แต่สุดท้ายก็ต้องยอม ฝ่ายพี่ชายเราที่อยู่เฝ้าบ้านเลยรับปากว่าจะคอยดูแล เอาอาหารให้ เราเลยออกจากบ้านไปแบบพอจะวางใจได้บ้าง แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี
ทีนี้พอน้ำเริ่มลดจนถึงระดับที่พอจะอยู่ได้แล้วพวกเราก็กลับบ้านค่ะ กลับไปดีใจมากกก น้องกระรอกยังอยู่เหมือนเดิม ยังอ้วนเหมือนเดิม เราวางข้าวของรีบเอาของกินที่ซื้อมาเปิดกรงแล้วยื่นให้ ทีแรกแอบกลัวค่ะว่ามันจะยังจำเราได้มั้ย พอมันรับอาหารเราไปกินเฉยๆเราก็ดีใจ ว่า เออ...มันยังไม่ลืมเราล่ะนะ
แต่พอกินหมดเท่านั้น ปรากฏว่ามันโดดกัดเลยค่ะ
เราตกใจมาก รีบชักมือออกปิดกรงเลย มองมืออีกทีเลือดออกไปแล้ว ความรู้สึกแรกเลยคือเสียใจมากๆ แม่เราเองเห็นเรายังโดนกัดซะเลือดไหลขนาดนั้นก็กลัวค่ะ เลยไม่กล้าแตะมันไปด้วยเลย เราเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ทุกวันจากนั้นเลยได้แต่คอยให้อาหารมัน (แต่ไม่ได้เอามือเข้าไปในกรงหรือจับตัวมันอีก) เรียกชื่อมันบ้าง พยายามเอานิ้วเอามือมาเล่นแถวซี่กรงเยอะๆ เผื่อว่าได้กลิ่นทุกวันแล้วมันจะจำเราได้มั่ง
ผ่านไปเป็นเดือนๆเลยค่ะหลังจากนั้น เราก็คอยทำอยู่แค่นี้ เอาถาดไปล้างให้ จะเปลี่ยนผ้าเปลี่ยนอะไรให้มันก็ต้องใส่ถุงมือหนาๆ (แบบที่เขาใช้กันในที่ก่อสร้างอ่ะ) คอยวนเวียนเอามือไปเล่นๆแหย่ๆมันแถวกรงบ่อยๆ จนวันนึง เราเอากรงออกไปหลังบ้าน กะว่าจะล้างถาดรองแล้วเอาผ้าออกมาซะหน่อย ปรากฏว่าจังหวะที่เปิดกรง กระรอกเราวิ่งสวนค่ะ คือวิ่งจากมือเรา ไต่ตามแขนขึ้นมาอยู่บนตัวเลย
ทีแรกกลัวมากกกกก เพราะหลังจากที่โดนกัดครั้งแรกเราก็เคยพยายามเข้าหามันอีกสองสามครั้ง ทุกครั้งโดนกัดเหมือนกันหมด (แต่กัดไม่ลึก หลังๆรู้แกว ชักมือออกทัน) แต่ทีนี้ความกลัวว่ามันจะเตลิดหายไปมีมากกว่า เลี้ยงมันมาตั้งหลายปี มันหาอาหารเองไม่เป็นแล้วแน่ๆ ตอนนั้นเลยทำใจ ทิ้งกรงทิ้งทุกอย่าง แล้ววิ่งเข้าบ้าน ปิดประตูเลยค่ะ
ตอนนั้นมืดแล้ว บ้านเราจะปิดหน้าต่างเพื่อกันยุงไม่ให้เข้า เราเลยวางใจว่าไงๆมันก็คงไม่เตลิดหายไป แต่ลืมไปว่าแม่เรากับพี่เรากลัวมันแค่ไหน (คือเขาเห็นมันกัดกระทั่งเรา ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับมันอีกเลยค่ะ หน้าที่ให้อาหารมันตอนนี้ก็ของเราละ) ปรากฏว่าพอเข้าบ้านปุ๊บ กระรอกเราโดดลงพื้นปั๊บ แม่กับพี่ชายเราก็วงกระจายเลยค่ะ 5555555+ (ไม่ได้คิดจะช่วยลูกช่วยน้องเล้ยสองคนนี้)
ทีแรกวิ่งไล่จับมันกลับเข้ากรงก็กลัว เลยหาผ้าปูเตียงมา กะเอามาโยนครอบมันแล้วจับผ่านผ้า แต่ทุกคนคงรู้ดีว่ากระรอกนี่ไวสุดๆอ่ะค่ะ แน่นอนว่าไม่มีทางจับทัน เราจับนานมาก มากจนหมดแรงนั่งหอบ เอาอาหารล่อก็แล้ว เอาผลไม้ล่อก็แล้ว มันก็ยังไม่ยอมหลงกล สุดท้ายเลยนั่งแปะกับพื้น มองมันที่หลบอยู่หลังๆชั้นทีวี บอกมันว่ายอมแพ้ละ จะออกมาเมื่อไหร่เดินออกมาเองนะ (คือพูดไปงั้นค่ะ แค่จะนั่งพัก หายเหนื่อยก็ต้องไล่จับต่ออยู่ดี เหอะๆ)
แต่ทีนี้เราเห็นมันนิ่งมาก (ทีแรกตกใจว่ามันช็อคไปแล้วหรือเปล่า) คือยืนเฉยๆ เราก็ค่อยๆกระดื๊บไปหามัน ค่อยๆยื่นมือไปหา (ผ้าเผ้อถุงมือไม่มีแล้ว หมดแรงขั้นสุดค่ะ) แล้วก็ช้อนตัวมัน จับได้สำเร็จค่ะ
และที่ดีใจกว่านั้นคือ...มันก็ยอมให้อุ้ม ไม่กัดเลยด้วย! (จริงๆคือมันอาจจะเหนื่อยจนหมดแรงแล้วพอกัน ฮาา)
ตอนนั้นดีใจมากกกกก ดีใจสุดๆ เราไม่ได้แตะตัวมันแบบนี้มานานมากๆเลยค่ะ พอจับได้อุ้มได้ก็ค่อยๆลองเอานิ้วลูบหัวมันเบาๆ มันก็ยังเฉย พอคราวนี้เริ่มลูบลำตัว มันก็เฉยอีก จำได้ว่าตอนนั้นดีใจจนอุ้มมันไปบอกแม่ว่า "แม่ กุ๊งกิ๊งมันให้หนูจับมันได้แล้วแหละ!" แต่แม่ไล่ให้ไปไกลๆค่ะ แม่กลัว (กร๊ากกกกกก)
จนถึงตอนนี้ ผ่านมาหลายปีแล้ว มันก็ยังอยู่นะคะ ยังให้เราจับเหมือนเดิม หลังจากนั้นมามันก็ไม่เคยกัดเราอีกเลย (มีแต่วิ่งมาแทะนิ้วแทะเล็บ) ติดมือเราด้วยซ้ำ ชอบเล่น เราเปิดกรงเล่นกับมันทีมันจะดี๊ด๊ามาก คงดีใจที่มีเพื่อน เพราะจนป่านฉะนี้บ้านเราก็ยังไม่มีใครจับมันได้เหมือนเดิม (เมื่อกี้อุ้มมันไปหาแม่ อยากให้แม่ได้จับมันบ้าง เลยใช้วิธีเอามือเราดึงดูดความสนใจมันไว้ แล้วให้แม่แอบลูบหลังมันแทนค่ะ ปรากฏว่ามันรู้นะ มันหันขวับจ้องแม่เราเขม็งเลย แล้วหันกลับมาจ้องเราด้วย เหมือนจะบอกว่า "ให้ผู้หญิงคนนี้มาจับตัวฉันได้ไงฮะ")
แอบแปะรูปด้วย
จะถ่ายรูปให้ได้ชัดๆนี่ยากมากเลยค่ะ อยู่ไม่สุขเล้ย นิ่งได้เฉพาะตอนกินกับนอน
ที่เอามาเล่าเพราะเห็นก่อนหน้านี้มีเรื่องชูการ์ที่ถูกเจ้าของฆ่า เห็นรูปแล้วนึกถึงสัตว์เลี้ยงของตัวเองค่ะ คือนิสัยพวกเขาก็งี้แหละ กัดๆแทะๆ เราเคยได้ยินมาด้วยซ้ำว่ากระรอกอ่ะความจำสั้น ลืมแล้วก็ลืมเลย ลืมแล้วให้เป็นเจ้าของก็กัดด้วย แต่เราคิดว่าบางทีมันก็ไม่จริงเสมอไปนะ อย่างกุ๊งกิ๊งนี่ที่มันจำเราได้ใหม่ สุดท้ายก็เล่นด้วยกันได้เหมือนเดิม อยากจะบอกว่าถ้าพยายามมากพอ อดทนกับเขาได้มากพอ เขาก็น่าจะจำเราได้เองนะคะ เราเองก็โดนงับไปสองสามที เจ็บอยู่ แต่ถ้าคิดถึงตอนนี้ก็คุ้มอ่ะ
สัตว์เลี้ยง ให้ความรักกับเขาเยอะๆ ให้อย่างสม่ำเสมอ ยังไงเขาก็รู้นะคะ เขาจำได้ค่ะ
ปล. เราไม่ตัดเล็บให้มันด้วยค่ะ คือมันจะกัดหรือจะเอาเล็บจิกเนื้อก็ยอมหมดทุกอย่าง เรื่องของเรื่องคือแถวบ้านเราเคยมีคนเลี้ยงกระรอกเหมือนกัน แล้วเขาเอากระรอกตัวเองมาตัดเล็บ ปรากฏว่ามันตกใจแล้วกัดนิ้วเจ้าของ เจ้าของตกใจร้องเสียงดัง มันช็อคตายค่ะ เลยไม่ขอเสี่ยง -_-"