มาเด้อออ..เที่ยวอะเมซอน บราซิล ตอนที่ 1 ไปตกปลาปิรันย่า พ่ะน่ะ
(อยากเอามาทำปลาส้มกับปลาแDกเด้ เป็นตาแซ่บโพดๆ อิๆๆ)
......................................................................................................................
อิๆๆ กระทู้แนวโลโซเด้อพี่น้อง ไปเที่ยวเรื่อยเปื่อย ทริปบอลโลกที่บราซิลเว้นช่วงแข่ง หมูน่อยเลยแว๊บไปเที่ยวอะเมซอนจ้อย
ไม่ค่อยเห็นรีวิวเที่ยวอะเมซอน เลยมารีวิวจั๊กหน่อยเนาะ จะได้เห็นอะเมซอน แม่น้ำอะเมซอน บ้านเมืองริมน้ำ คนเผ่าพื้นเมือง ปลาปิรีนย่า อนาคอนด้าไม่เห็นเด้อ มันมุดน้ำหนีจ้อย เลื้อยปรื๊ดดดดด...ด...ด อิๆ
งั้นเดี๋ยวหมูน่อยขอแนะนำเรื่องอะเมซอนสักนิดพอเป็นพิธีและมีสาระสักนิดก่อนเด้อ จะได้พอเข้าใจว่าอะเมซอนมันไปจังได๋มาจังได๋ พ่ะน่ะ
- อะเมซอนเป็นป่าร้อนชื้น มีฝนตกชุกทั้งปี
- ภูมิอากาศทั่วไป อุณหภูมิเฉลี่ย 27.9 องศาเซลเซียส และ 25.8 องศาเซลเซียสในฤดูฝน, ความชื้นสัมพัทธ์ 88%
- แม่น้ำอะเมซอนมีความยาว 6600 กิโลเมตร (ยาวเป็นอันดับสอง รองจากแม่น้ำไนล์ในอัฟริกา) ไหลผ่านประเทศกายอาน่า เอกวาดอร์ เวเนซุเอล่า โบลิเวีย บราซิล โคลัมเบีย เปรู
- ต้นกำเนิดแม่น้ำอะเมซอนเกิดจากเทือกเขาแอนดิส ในประเทศเปรู แล้วไหลไปทางทิศตะวันออก ไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกที่ปากแม่น้ำเมืองเบเล่ม ประเทศบราซิล
- เขตลุ่มแม่น้ำอะเมซอน มีประชากรอาศัย 30 กว่าล้านคน
- 2/3 ปริมาณน้ำจืดบนโลกนี้ พบได้ที่ลุ่มน้ำอะเมซอน
- ปริมาณออกซิเจนมากกว่า 20% บนโลกนี้ เกิดจากเขตป่าอะเมซอน
- อะเมซอนมีต้นไม้และพันธุ์พืชมากกว่าล้านชนิดพันธุ์
- แม่น้ำอะเมซอน ประกอบด้วยแม่น้ำสายเล็กสายน้อย ลำธาร ลำคลองไหลลงรวมกันเป็นจำนวนกว่าพนึ่งพันหนึ่งร้อยสาย, มีแม่น้ำสายย่อย 17 สายที่มีความยาวมากกว่า 1600 กม., แม่น้ำริโอ-นิโกร คือแม่น้ำสายใหญ่สุดที่ไหลลงสู่อะเมซอน
- ลุ่มน้ำอะเมซอน ครอบคลุมพื้นที่ 2.5 ล้านตารางไมล์ (ประมาณ 40% ของทวีปอเมริกาใต้ หรือเทียบได้กับปริมาณครอบคลุมพื้นที่มลรัฐต่างๆในอเมริกาได้ถึง 48 รัฐ, หรือสองเท่าของประเทศอินเดีย)
- แม่น้ำสายต่างๆที่รวมกันเป็นแม่น้ำอะเมซอน จะมีสีของแม่น้ำแตกต่างกันออกไปตามเขตพื้นที่ ลักษณะดิน สิ่งแวดล้อมและภูมิประเทศ
- ฤดูฝน น้ำฝนจะชะล้างแร่ธาตุและวิตามินต่างๆจากหน้าดินจากภูเขาไหลลงสู่อะเมซอน
- ในฤดูฝนเมื่อระดับน้ำขึ้นสูง บางช่วงของแม่น้ำอะเมซอนมีความกว้างถึง 560 กิโลเมตร.
- จุดลึกสุดของอะเมซอนประมาณ 121 ฟุต (37 เมตร)
- เมื่อแม่น้ำอะเมซอนไหลลงมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความเชี่ยวและแรงของกระแสน้ำอะเมซอน ทำให้น้ำทะเลและน้ำจากอะเมซอนยังไม่ผสมกันในทันที อะเมซอนไหลลงมหาสมุทร์แอตแลนติกประมาณ 230 กิโลเมตรถึงจะเริ่มผสมกับน้ำทะเล
- ป่าอะเมซอนเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์นานาชนิด หลากลายสปีซี่ส์มากกว่าที่ใดๆ
- ปลาในแม่น้ำอะเมซอน มีมากกว่า 3000 สปีซี่ส์ (มากกว่าปลาที่พบในมหาสมุทรแอตแลนติก)
- ปริมาณฝนตก 250 วันต่อปี, ปริมาตรฝน 100 นิ้ว ต่อปี
- ไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำอะเมซอน ( เนื่องจากไม่มีความจำเป็น แม่น้ำอะเมซอนไหลผ่านป่าเขามากกว่าผ่านเมืองต่างๆ)
- เมืองที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่เลียบแม่น้ำอะเมซอนคือเมืองมาเนาส์ ประเทศบราซิล มีประชากร 1.7 ล้านคน
- งูอนาคอนด้า พบได้ทั่วไปในเขตลุ่มแม่น้ำอะเมซอน
- ปลาปิรันย่า (ปลากินเนื้อ) พบได้ทั่วไปในแม่น้ำอะเมซอน มีนิสัยออกหากินเป็นฝูง โจมตีเหยื่อที่ลงมาในแม่น้ำ
** แปลจากกูเกิ้ล ผิดถูกยังไงไปบอกกูเกิ้ลเด้อ พ่ะน่ะ
......................................................................................................................
อ่านสาระไปแหล่ว น่าสนใจดีเนาะ กระทู้นี้เราไปเที่ยวด้วยกันแบบหมู่เฮาเจ้าข้อยแบบสบายๆเด้อ ไม่เอาวิชาการแต่เน้นวิชาเกิน เหอๆๆ
งั้นมาเริ่มเดินทางกันโลดดดดดดด....ด....ด พ่ะน่ะ
เบื้องล่างคืออะเมซอนเด้อพี่น้อง จ๊ากๆๆๆ จวนจะถึงแหล่ว กรุณารัดเข็มขัดค่ะผู้โดยสาร (แอร์ฯพูดภาษาโปรตุเกส หมูน่อยแปลเอาเอง อิๆๆ)
โฮ้ววววว...ววว อะเมซอน!!! ไหนล่ะอนาคอนด้า (รีบมองหาผ่านเมฆเลยเด้อนิ่ อิๆๆ)
แม่น้ำสองสายไหลรวมกันเป็น ริโอ-อะเมซอนนาส ณ เมืองมาเนาส์
มาเนาส์ กลางอะเมซอน เมืองนี้มาได้โดยทางเรือและทางเครื่องบินเท่านั้น ไม่มีถนนวิ่งตรงถึงเมืองนี้เด้อ พ่ะน่ะ
มาเนาส์มีสนามฟุตบอลใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ( ฟีฟ่าอนุญาตให้พักให้น้ำระหว่างการแข่งขันเนื่องจากอากาศร้อนมาก )
ถึงแหล่ววววววว....มาเนาส์ สนามบินมีขนาดเล็กเหมือนต่างจังหวัดในไทยเรานี่แหล่ะ มีรันเวย์เดียว
เอ๋า...ทำไมถนนหนทาง-ข้างทางมันเหมือนทางบ้านอุ๊บลของข้อยล่ะนิ่ เหอๆๆ โอ๊ยยย...มาอุบลก็ไม่บอกกันเนาะ ฮ่าๆๆ
ลงเครื่องแล้วก็ไปลงเรือ.....ว๊าวววววว....ว......ว....หรูหราดีแท้วะ ป้าดดดๆๆๆ
ไกด์เดินมาบอกว่าผิดลำแล้วเด้อ!!! ต้องลำนี้เขียวสดใส หางยาวไปไวโพดๆ ฮือๆๆๆ
แม่น้ำริโอนีโกร แม่น้ำนี้มีสีดำ เนื่องจากน้ำฝนชะเอาซากพืช ซากสัตว์ ต้นไม้ หญ้าแห้ง หน้าดินลงไปรวมกันที่แม่น้ำ
ค่า PH ของแม่น้ำริโอนิโกรคือ 4.5 มีความเป็นกรด ( ยุงไม่วางไข่ในน้ำ เขตนี้จึงปลอดยุง พ่ะน่ะ)
ที่พักเป็นจังเกิ้ลลอตจ์ หมูน่อยซื้อแพ็คเกจรวมอาหารทุกมื้อ ไม่มีตู้เย็น ไม่มีทีวี มีแอร์
น้ำเปล่าซื้อกินเองเด้อ ขวดละ 60 บาท อากาศร้อนต้องซื้อน้ำกินวันละ 7-8 ขวด แพงโพดๆ
เอาเป๋าไปเก็บแล้วออกทัวร์ทันที เจอเนย์มาร์กำลังหั่นเนื้อทำลาบก้อย ฮู๋ยยยย..กำลังหิวเลยเด้อนิ่ ลาบก้อยซอยแซ่ หิวเด่...
เอ๊ย! ไม่ใช่ เขากำลังหั่นเนื้อทำเหยื่อล่อปลาปิรันย่า พ่ะน่ะ จะไปตกปลาปิรันย่ากัน ตื่นเต้ลเด้...
ว่าแต่เขียงทำไมมันแบบบ้านเฮาน่ะนั่น นั่งหั่นแบบเดียวกันเป๊ะ...อ้าวๆๆ เริ่มเหมือนบ้านตัวเองเข้าไปทุกที เหอๆๆ
ทำไมมันเหมือนคันเบ็ดอยู่อุบลบ้านข้อยแท้ๆ เหอๆๆ เสียเงินแสนมาดูบ้านตัวเองเด้อนี่ ฮ่าๆๆ
มุ่งหน้าสู่ชายน้ำ...ไปแวะบ้านชาวบ้านริมน้ำก่อนสักนิดเนาะ ไหนๆมาแล้วต้องดูวิถึชาวบ้านแถวนี้ด้วยว่าเขาอยู่กันจังได๋
ชาวบ้านที่นี่เป็นลูกครึ่งเด้อ ครึ่งบราซิลและครึ่งคนเผ่าพื้นเมือง อิๆๆ ความเป็นอยู่ก็เลยผสมผสานแบบพื้นเมือง (แนวชนบทเหมือนบ้านเฮา)
อย่างมันสำปะหลังนี่ชาวบ้านก็เอามาขูดแล้วรีดน้ำออก เอาไปตำให้แหลกแล้วเอาไปผัดในกระทะจนแห้ง กลายเป็นเม็ดๆผงๆไว้ทำอาหาร
หมูน่อยแอบมองหาหวดกับหม้อนึ่ง เหอๆๆ อยากกินข้าวจี่ พ่ะน่ะ
ผัดบนกระทะนานสองชั่วโมง จนแห้ง พ่ะน่ะ
นวดกับน้ำแล้วเอาไปปิ้ง ออกมาเป็นแบบนี้ เอามาชิมเบิ่งดู้สักต่อน...เหมือนแป้งขนมหนาๆ จืดๆมันๆ อิๆๆ
พ่อใหญ่มีแห่งหนองหมาว้อกำลังนั่งรมควันยางพารา โดยเอากะลามะพร้าวตักน้ำยางราดลงไปบนก้อนยาง แล้วก็รมด้วยควัน
ก้อนยางก็จะแน่นขึ้นหนาขึ้นเรื่อยๆ, ชาวบ้านปลูกยางพาราและออกไปกรีดยางในตอนเช้ามืดเหมือนกับที่ไทยเรานี่แหล่ะ
นั่งรมควันทำแบบนี้หลายวันเลย พอได้ขนาดก้อนยางที่กำหนดหนัก 30 กิโลกรัม ก็เอาไปขายให้ร้านในเมือง
* เมื่อก่อนที่มาเนาส์มีอุตสาหกรรมยางพารา ต่อมาการปลูกแพร่หลายไปทั่วโลก ทำให้ที่มาเนาส์ซบเซาลงไป พ่ะน่ะ
อันนี้เกล็ดปลาArapaima 1 เกล็ด, ปลา Arapaima เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแม่น้ำอะเมซอน
** ขอบคุณภาพจากแนทจีโอ เทียบขนาดของคนและปลาArapaima ถ่ายจากจากอควาเรียมที่มาเนาส์
ไกด์กำลังอธิบายว่าบ้านคนส่วนมากแถวนี้จะมีรางน้ำฝน เอาไว้รองน้ำฝนไว้ใช้ดื่มใช้กิน เห็นบ่นี่ รางน้ำฝนเด้อ เหอๆๆ
นักท่องเที่ยวบางคนไม่รู้จักการรองน้ำฝนมาก่อนก็มีเด้อ...หมูน่อยก็เลยบอกทุกคนว่า บ้านข้อยก็มีแบบนี้คือกัลลลล์ น้ำเย็นชื่นใจ พ่ะน่ะ ฮิๆๆ
บ้านอยู่ริมน้ำ ไปไสมาไสก็ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ บ้านนี้มีสัตว์เลี้ยงคือน้องหมา 4 ตัว (รีบมองหาน้องหมา แอ๊ะๆๆ มาๆๆ แอ๊ะๆๆ)
แต่ทว่า..งูอนาคอนด้ามันเลื้อยขึ้นมาสวบไปกินหมดแล้วจ้อย มีกี่ตัวๆโดนสวบหมด แต่ววว..ว...ว..ว น่ากลัวเด้ กึ๋ยยยยส์
ได้เวลาอำลาจรลี ออกเดินทางไปตามหาปลาปิรันย่ามาทำปลาส้มแล้ว....มุ่งหน้าสู่แหล่งน้ำนิ่งๆ พ่ะน่ะ
น้ำนิ่งๆแบบนี้แหล่ะ ปลาปิรันย่ามันชอบอยู่กันเยอะ กระโดดลงไปโลดงั้น อิๆๆ...อย่ามาผลักกันตกน้ำเด้อ มันมารุมตอดกินจริงๆนะนิ่
ไกด์หนุ่มคนในพื้นที่ ฮ่าๆๆ ลุงแกพูดภาษาโปรตุเกสเด้อ หมูน่อยก็มึนตึ้บเลย ได้แต่ผงกหัว พยักหน้า งึกๆๆๆ พูดอะไรน๊อนิ่
แกกำลังเตรียมอุปกรณ์ไฮโซ ซิดเบ็ด พ่ะน่ะ
นั่น..รู้จักปาดขวดน้ำรีไซเคิลเอามาใช้ประโยชน์ได้อีก แนวมาก เหอๆๆ
เนื้อดิบๆ ปลาปิรันย่ามันจะได้กลิ่นคาวเลือด...เลื๊อดดดด...เลื๊อดดดดด...ด..ด...ข้าต้องการเลื๊อดดดดดดดด...ด....ด เจ๊ย!
ใส่เหยื่อแล้วก็ใช้คันเบ็ดตีน้ำไปมา ตีๆๆ แกว่งๆปลายคันเบ็ด ตีน้ำ ตีๆๆ
ตีๆๆๆ ตุ๋มๆๆ ต๋อมๆๆ
โฮ้วววววว.....ว.....ว!!!! ติดแหล่วววว!!! ได้มาแหล่ว 1 ตัว !!!!!
วิธีจับตัวปลา ต้องจับแบบนี้เด้อ ไม่งั้นโดนกัดเนื้อยุ่ยแน่ๆ
มาเด้อออ..เที่ยวอะเมซอน บราซิล ตอนที่ 1 ไปตกปลาปิรันย่า พ่ะน่ะ
(อยากเอามาทำปลาส้มกับปลาแDกเด้ เป็นตาแซ่บโพดๆ อิๆๆ)
......................................................................................................................
อิๆๆ กระทู้แนวโลโซเด้อพี่น้อง ไปเที่ยวเรื่อยเปื่อย ทริปบอลโลกที่บราซิลเว้นช่วงแข่ง หมูน่อยเลยแว๊บไปเที่ยวอะเมซอนจ้อย
ไม่ค่อยเห็นรีวิวเที่ยวอะเมซอน เลยมารีวิวจั๊กหน่อยเนาะ จะได้เห็นอะเมซอน แม่น้ำอะเมซอน บ้านเมืองริมน้ำ คนเผ่าพื้นเมือง ปลาปิรีนย่า อนาคอนด้าไม่เห็นเด้อ มันมุดน้ำหนีจ้อย เลื้อยปรื๊ดดดดด...ด...ด อิๆ
งั้นเดี๋ยวหมูน่อยขอแนะนำเรื่องอะเมซอนสักนิดพอเป็นพิธีและมีสาระสักนิดก่อนเด้อ จะได้พอเข้าใจว่าอะเมซอนมันไปจังได๋มาจังได๋ พ่ะน่ะ
- อะเมซอนเป็นป่าร้อนชื้น มีฝนตกชุกทั้งปี
- ภูมิอากาศทั่วไป อุณหภูมิเฉลี่ย 27.9 องศาเซลเซียส และ 25.8 องศาเซลเซียสในฤดูฝน, ความชื้นสัมพัทธ์ 88%
- แม่น้ำอะเมซอนมีความยาว 6600 กิโลเมตร (ยาวเป็นอันดับสอง รองจากแม่น้ำไนล์ในอัฟริกา) ไหลผ่านประเทศกายอาน่า เอกวาดอร์ เวเนซุเอล่า โบลิเวีย บราซิล โคลัมเบีย เปรู
- ต้นกำเนิดแม่น้ำอะเมซอนเกิดจากเทือกเขาแอนดิส ในประเทศเปรู แล้วไหลไปทางทิศตะวันออก ไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกที่ปากแม่น้ำเมืองเบเล่ม ประเทศบราซิล
- เขตลุ่มแม่น้ำอะเมซอน มีประชากรอาศัย 30 กว่าล้านคน
- 2/3 ปริมาณน้ำจืดบนโลกนี้ พบได้ที่ลุ่มน้ำอะเมซอน
- ปริมาณออกซิเจนมากกว่า 20% บนโลกนี้ เกิดจากเขตป่าอะเมซอน
- อะเมซอนมีต้นไม้และพันธุ์พืชมากกว่าล้านชนิดพันธุ์
- แม่น้ำอะเมซอน ประกอบด้วยแม่น้ำสายเล็กสายน้อย ลำธาร ลำคลองไหลลงรวมกันเป็นจำนวนกว่าพนึ่งพันหนึ่งร้อยสาย, มีแม่น้ำสายย่อย 17 สายที่มีความยาวมากกว่า 1600 กม., แม่น้ำริโอ-นิโกร คือแม่น้ำสายใหญ่สุดที่ไหลลงสู่อะเมซอน
- ลุ่มน้ำอะเมซอน ครอบคลุมพื้นที่ 2.5 ล้านตารางไมล์ (ประมาณ 40% ของทวีปอเมริกาใต้ หรือเทียบได้กับปริมาณครอบคลุมพื้นที่มลรัฐต่างๆในอเมริกาได้ถึง 48 รัฐ, หรือสองเท่าของประเทศอินเดีย)
- แม่น้ำสายต่างๆที่รวมกันเป็นแม่น้ำอะเมซอน จะมีสีของแม่น้ำแตกต่างกันออกไปตามเขตพื้นที่ ลักษณะดิน สิ่งแวดล้อมและภูมิประเทศ
- ฤดูฝน น้ำฝนจะชะล้างแร่ธาตุและวิตามินต่างๆจากหน้าดินจากภูเขาไหลลงสู่อะเมซอน
- ในฤดูฝนเมื่อระดับน้ำขึ้นสูง บางช่วงของแม่น้ำอะเมซอนมีความกว้างถึง 560 กิโลเมตร.
- จุดลึกสุดของอะเมซอนประมาณ 121 ฟุต (37 เมตร)
- เมื่อแม่น้ำอะเมซอนไหลลงมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความเชี่ยวและแรงของกระแสน้ำอะเมซอน ทำให้น้ำทะเลและน้ำจากอะเมซอนยังไม่ผสมกันในทันที อะเมซอนไหลลงมหาสมุทร์แอตแลนติกประมาณ 230 กิโลเมตรถึงจะเริ่มผสมกับน้ำทะเล
- ป่าอะเมซอนเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์นานาชนิด หลากลายสปีซี่ส์มากกว่าที่ใดๆ
- ปลาในแม่น้ำอะเมซอน มีมากกว่า 3000 สปีซี่ส์ (มากกว่าปลาที่พบในมหาสมุทรแอตแลนติก)
- ปริมาณฝนตก 250 วันต่อปี, ปริมาตรฝน 100 นิ้ว ต่อปี
- ไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำอะเมซอน ( เนื่องจากไม่มีความจำเป็น แม่น้ำอะเมซอนไหลผ่านป่าเขามากกว่าผ่านเมืองต่างๆ)
- เมืองที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่เลียบแม่น้ำอะเมซอนคือเมืองมาเนาส์ ประเทศบราซิล มีประชากร 1.7 ล้านคน
- งูอนาคอนด้า พบได้ทั่วไปในเขตลุ่มแม่น้ำอะเมซอน
- ปลาปิรันย่า (ปลากินเนื้อ) พบได้ทั่วไปในแม่น้ำอะเมซอน มีนิสัยออกหากินเป็นฝูง โจมตีเหยื่อที่ลงมาในแม่น้ำ
** แปลจากกูเกิ้ล ผิดถูกยังไงไปบอกกูเกิ้ลเด้อ พ่ะน่ะ
......................................................................................................................
อ่านสาระไปแหล่ว น่าสนใจดีเนาะ กระทู้นี้เราไปเที่ยวด้วยกันแบบหมู่เฮาเจ้าข้อยแบบสบายๆเด้อ ไม่เอาวิชาการแต่เน้นวิชาเกิน เหอๆๆ
งั้นมาเริ่มเดินทางกันโลดดดดดดด....ด....ด พ่ะน่ะ
เบื้องล่างคืออะเมซอนเด้อพี่น้อง จ๊ากๆๆๆ จวนจะถึงแหล่ว กรุณารัดเข็มขัดค่ะผู้โดยสาร (แอร์ฯพูดภาษาโปรตุเกส หมูน่อยแปลเอาเอง อิๆๆ)
โฮ้ววววว...ววว อะเมซอน!!! ไหนล่ะอนาคอนด้า (รีบมองหาผ่านเมฆเลยเด้อนิ่ อิๆๆ)
แม่น้ำสองสายไหลรวมกันเป็น ริโอ-อะเมซอนนาส ณ เมืองมาเนาส์
มาเนาส์ กลางอะเมซอน เมืองนี้มาได้โดยทางเรือและทางเครื่องบินเท่านั้น ไม่มีถนนวิ่งตรงถึงเมืองนี้เด้อ พ่ะน่ะ
มาเนาส์มีสนามฟุตบอลใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ( ฟีฟ่าอนุญาตให้พักให้น้ำระหว่างการแข่งขันเนื่องจากอากาศร้อนมาก )
ถึงแหล่ววววววว....มาเนาส์ สนามบินมีขนาดเล็กเหมือนต่างจังหวัดในไทยเรานี่แหล่ะ มีรันเวย์เดียว
เอ๋า...ทำไมถนนหนทาง-ข้างทางมันเหมือนทางบ้านอุ๊บลของข้อยล่ะนิ่ เหอๆๆ โอ๊ยยย...มาอุบลก็ไม่บอกกันเนาะ ฮ่าๆๆ
ลงเครื่องแล้วก็ไปลงเรือ.....ว๊าวววววว....ว......ว....หรูหราดีแท้วะ ป้าดดดๆๆๆ
ไกด์เดินมาบอกว่าผิดลำแล้วเด้อ!!! ต้องลำนี้เขียวสดใส หางยาวไปไวโพดๆ ฮือๆๆๆ
แม่น้ำริโอนีโกร แม่น้ำนี้มีสีดำ เนื่องจากน้ำฝนชะเอาซากพืช ซากสัตว์ ต้นไม้ หญ้าแห้ง หน้าดินลงไปรวมกันที่แม่น้ำ
ค่า PH ของแม่น้ำริโอนิโกรคือ 4.5 มีความเป็นกรด ( ยุงไม่วางไข่ในน้ำ เขตนี้จึงปลอดยุง พ่ะน่ะ)
ที่พักเป็นจังเกิ้ลลอตจ์ หมูน่อยซื้อแพ็คเกจรวมอาหารทุกมื้อ ไม่มีตู้เย็น ไม่มีทีวี มีแอร์
น้ำเปล่าซื้อกินเองเด้อ ขวดละ 60 บาท อากาศร้อนต้องซื้อน้ำกินวันละ 7-8 ขวด แพงโพดๆ
เอาเป๋าไปเก็บแล้วออกทัวร์ทันที เจอเนย์มาร์กำลังหั่นเนื้อทำลาบก้อย ฮู๋ยยยย..กำลังหิวเลยเด้อนิ่ ลาบก้อยซอยแซ่ หิวเด่...
เอ๊ย! ไม่ใช่ เขากำลังหั่นเนื้อทำเหยื่อล่อปลาปิรันย่า พ่ะน่ะ จะไปตกปลาปิรันย่ากัน ตื่นเต้ลเด้...
ว่าแต่เขียงทำไมมันแบบบ้านเฮาน่ะนั่น นั่งหั่นแบบเดียวกันเป๊ะ...อ้าวๆๆ เริ่มเหมือนบ้านตัวเองเข้าไปทุกที เหอๆๆ
ทำไมมันเหมือนคันเบ็ดอยู่อุบลบ้านข้อยแท้ๆ เหอๆๆ เสียเงินแสนมาดูบ้านตัวเองเด้อนี่ ฮ่าๆๆ
มุ่งหน้าสู่ชายน้ำ...ไปแวะบ้านชาวบ้านริมน้ำก่อนสักนิดเนาะ ไหนๆมาแล้วต้องดูวิถึชาวบ้านแถวนี้ด้วยว่าเขาอยู่กันจังได๋
ชาวบ้านที่นี่เป็นลูกครึ่งเด้อ ครึ่งบราซิลและครึ่งคนเผ่าพื้นเมือง อิๆๆ ความเป็นอยู่ก็เลยผสมผสานแบบพื้นเมือง (แนวชนบทเหมือนบ้านเฮา)
อย่างมันสำปะหลังนี่ชาวบ้านก็เอามาขูดแล้วรีดน้ำออก เอาไปตำให้แหลกแล้วเอาไปผัดในกระทะจนแห้ง กลายเป็นเม็ดๆผงๆไว้ทำอาหาร
หมูน่อยแอบมองหาหวดกับหม้อนึ่ง เหอๆๆ อยากกินข้าวจี่ พ่ะน่ะ
ผัดบนกระทะนานสองชั่วโมง จนแห้ง พ่ะน่ะ
นวดกับน้ำแล้วเอาไปปิ้ง ออกมาเป็นแบบนี้ เอามาชิมเบิ่งดู้สักต่อน...เหมือนแป้งขนมหนาๆ จืดๆมันๆ อิๆๆ
พ่อใหญ่มีแห่งหนองหมาว้อกำลังนั่งรมควันยางพารา โดยเอากะลามะพร้าวตักน้ำยางราดลงไปบนก้อนยาง แล้วก็รมด้วยควัน
ก้อนยางก็จะแน่นขึ้นหนาขึ้นเรื่อยๆ, ชาวบ้านปลูกยางพาราและออกไปกรีดยางในตอนเช้ามืดเหมือนกับที่ไทยเรานี่แหล่ะ
นั่งรมควันทำแบบนี้หลายวันเลย พอได้ขนาดก้อนยางที่กำหนดหนัก 30 กิโลกรัม ก็เอาไปขายให้ร้านในเมือง
* เมื่อก่อนที่มาเนาส์มีอุตสาหกรรมยางพารา ต่อมาการปลูกแพร่หลายไปทั่วโลก ทำให้ที่มาเนาส์ซบเซาลงไป พ่ะน่ะ
อันนี้เกล็ดปลาArapaima 1 เกล็ด, ปลา Arapaima เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแม่น้ำอะเมซอน
** ขอบคุณภาพจากแนทจีโอ เทียบขนาดของคนและปลาArapaima ถ่ายจากจากอควาเรียมที่มาเนาส์
ไกด์กำลังอธิบายว่าบ้านคนส่วนมากแถวนี้จะมีรางน้ำฝน เอาไว้รองน้ำฝนไว้ใช้ดื่มใช้กิน เห็นบ่นี่ รางน้ำฝนเด้อ เหอๆๆ
นักท่องเที่ยวบางคนไม่รู้จักการรองน้ำฝนมาก่อนก็มีเด้อ...หมูน่อยก็เลยบอกทุกคนว่า บ้านข้อยก็มีแบบนี้คือกัลลลล์ น้ำเย็นชื่นใจ พ่ะน่ะ ฮิๆๆ
บ้านอยู่ริมน้ำ ไปไสมาไสก็ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ บ้านนี้มีสัตว์เลี้ยงคือน้องหมา 4 ตัว (รีบมองหาน้องหมา แอ๊ะๆๆ มาๆๆ แอ๊ะๆๆ)
แต่ทว่า..งูอนาคอนด้ามันเลื้อยขึ้นมาสวบไปกินหมดแล้วจ้อย มีกี่ตัวๆโดนสวบหมด แต่ววว..ว...ว..ว น่ากลัวเด้ กึ๋ยยยยส์
ได้เวลาอำลาจรลี ออกเดินทางไปตามหาปลาปิรันย่ามาทำปลาส้มแล้ว....มุ่งหน้าสู่แหล่งน้ำนิ่งๆ พ่ะน่ะ
น้ำนิ่งๆแบบนี้แหล่ะ ปลาปิรันย่ามันชอบอยู่กันเยอะ กระโดดลงไปโลดงั้น อิๆๆ...อย่ามาผลักกันตกน้ำเด้อ มันมารุมตอดกินจริงๆนะนิ่
ไกด์หนุ่มคนในพื้นที่ ฮ่าๆๆ ลุงแกพูดภาษาโปรตุเกสเด้อ หมูน่อยก็มึนตึ้บเลย ได้แต่ผงกหัว พยักหน้า งึกๆๆๆ พูดอะไรน๊อนิ่
แกกำลังเตรียมอุปกรณ์ไฮโซ ซิดเบ็ด พ่ะน่ะ
นั่น..รู้จักปาดขวดน้ำรีไซเคิลเอามาใช้ประโยชน์ได้อีก แนวมาก เหอๆๆ
เนื้อดิบๆ ปลาปิรันย่ามันจะได้กลิ่นคาวเลือด...เลื๊อดดดด...เลื๊อดดดดด...ด..ด...ข้าต้องการเลื๊อดดดดดดดด...ด....ด เจ๊ย!
ใส่เหยื่อแล้วก็ใช้คันเบ็ดตีน้ำไปมา ตีๆๆ แกว่งๆปลายคันเบ็ด ตีน้ำ ตีๆๆ
ตีๆๆๆ ตุ๋มๆๆ ต๋อมๆๆ
โฮ้วววววว.....ว.....ว!!!! ติดแหล่วววว!!! ได้มาแหล่ว 1 ตัว !!!!!
วิธีจับตัวปลา ต้องจับแบบนี้เด้อ ไม่งั้นโดนกัดเนื้อยุ่ยแน่ๆ