เหตุผลหลักในการไปเที่ยวจอร์แดนของผม ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมือนกับใครอีกหลายคน ที่ต้องการไปเยือนสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สร้างด้วยน้ำมือของมนุษย์ให้ครบทั้ง7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ เมืองเพตรา เมื่อรวมเข้ากับความฝันวัยเด็กที่อยากลองประสบการณ์ลอยตัวอ่านหนังสือได้ในทะเลสาบเดดซี กับรูปภาพที่เคยเห็นความสมบูรณ์ของเมืองพันเสา เจราช แห่งอาณาจักรโรมัน ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำให้ฝันครั้งนี้ของผมเป็นจริงขึ้นมา
เริ่มออกเดินทางไปวันที่ 6 เมษายน ปี 2010 โดยจะใช้เวลาที่ประเทศนี้ทั้งหมด 17 วัน โดยใช้บริการของสายการบินรอยัลจอร์แดนเนี่ยน ซึ่งเป็นสายการบินเดียวที่บินตรงจากกรุงเทพสู่อัมมัน เมืองหลวงของจอร์แดน โดยใช้เวลาในการบินราว 9 ชั่วโมง หลังจากหลับ ๆ ตื่น ๆ เกือบทั้งคืน ก็ใกล้เวลาเครื่องลง
ตอนเดินผ่านตม. คิวค่อนข้างน้อย คงเพราะยังเป็นช่วงเช้ามืด และคนส่วนใหญ่ไปแลกเงินกันก่อน เพื่อไปจ่ายค่า visa on arrivalซึ่งยืนยันว่า ของคนไทยสามารถไปขอที่นั่นได้ (600 บาท) แถมยังถูกกว่าขอจากที่กงสุลด้วย (800 บาท) แต่เพื่อความสะดวกและสบายใจ ผมเลยขอวีซ่าไปก่อนที่กงสุล ซึ่งอยู่แถวเอกมัย
เจ้าหน้าที่ตรวจพาสปอร์ต และถามคำถาม 2-3 ข้อ เช่น มากี่วัน พักที่ไหน ซึ่งก็ผ่านฉลุยแบบไม่มีปัญหาอะไร หลังออกจากตม. ก็ไปแลกเงิน ซึ่งเป็นสกุลจอร์แดนเนี่ยนดีนาร์ (คนที่นั่นนิยมเรียกย่อว่า เจดี) 1 JD คิดเป็นเงินไทยราว ๆ 50 บาทได้ครับ โดยถูกหักค่าคอมไป 2 JD
ออกมาด้านนอกแล้ว ได้เห็นหน้าตาสนามบิน Queens Alia International Airport ถือว่า ค่อนข้างเล็กมากสำหรับสนามบินนานาชาติ มีอยู่ 2 เทอร์มินัล เทอร์มินัลแรกที่ผมเดินออกมาเป็นของสายการบินรอยัลจอร์แดนเนี่ยนซะส่วนใหญ่ ที่เหลือจะอยู่เทอร์มินัลสอง สนามบินแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงอัมมัน ไปทางใต้ราว 32 กม. ซึ่งชื่อของสนามบินได้จากพระนามของราชินีเอเลีย ภรรยาคนที่สามของกษัตริย์ฮุสเซนแห่งจอร์แดน แต่เห็นอยู่ในช่วงการก่อสร้างขยายพื้นที่ของสนามบินซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2011 เมื่อขยายแล้ว จะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 9 ล้านคน/ปี ประมาณ 3 เท่าจากของเดิมในปัจจุบัน
[CR] จอร์แดน #1 เมืองแห่งโมเสก
เริ่มออกเดินทางไปวันที่ 6 เมษายน ปี 2010 โดยจะใช้เวลาที่ประเทศนี้ทั้งหมด 17 วัน โดยใช้บริการของสายการบินรอยัลจอร์แดนเนี่ยน ซึ่งเป็นสายการบินเดียวที่บินตรงจากกรุงเทพสู่อัมมัน เมืองหลวงของจอร์แดน โดยใช้เวลาในการบินราว 9 ชั่วโมง หลังจากหลับ ๆ ตื่น ๆ เกือบทั้งคืน ก็ใกล้เวลาเครื่องลง
ตอนเดินผ่านตม. คิวค่อนข้างน้อย คงเพราะยังเป็นช่วงเช้ามืด และคนส่วนใหญ่ไปแลกเงินกันก่อน เพื่อไปจ่ายค่า visa on arrivalซึ่งยืนยันว่า ของคนไทยสามารถไปขอที่นั่นได้ (600 บาท) แถมยังถูกกว่าขอจากที่กงสุลด้วย (800 บาท) แต่เพื่อความสะดวกและสบายใจ ผมเลยขอวีซ่าไปก่อนที่กงสุล ซึ่งอยู่แถวเอกมัย
เจ้าหน้าที่ตรวจพาสปอร์ต และถามคำถาม 2-3 ข้อ เช่น มากี่วัน พักที่ไหน ซึ่งก็ผ่านฉลุยแบบไม่มีปัญหาอะไร หลังออกจากตม. ก็ไปแลกเงิน ซึ่งเป็นสกุลจอร์แดนเนี่ยนดีนาร์ (คนที่นั่นนิยมเรียกย่อว่า เจดี) 1 JD คิดเป็นเงินไทยราว ๆ 50 บาทได้ครับ โดยถูกหักค่าคอมไป 2 JD
ออกมาด้านนอกแล้ว ได้เห็นหน้าตาสนามบิน Queens Alia International Airport ถือว่า ค่อนข้างเล็กมากสำหรับสนามบินนานาชาติ มีอยู่ 2 เทอร์มินัล เทอร์มินัลแรกที่ผมเดินออกมาเป็นของสายการบินรอยัลจอร์แดนเนี่ยนซะส่วนใหญ่ ที่เหลือจะอยู่เทอร์มินัลสอง สนามบินแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงอัมมัน ไปทางใต้ราว 32 กม. ซึ่งชื่อของสนามบินได้จากพระนามของราชินีเอเลีย ภรรยาคนที่สามของกษัตริย์ฮุสเซนแห่งจอร์แดน แต่เห็นอยู่ในช่วงการก่อสร้างขยายพื้นที่ของสนามบินซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2011 เมื่อขยายแล้ว จะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 9 ล้านคน/ปี ประมาณ 3 เท่าจากของเดิมในปัจจุบัน