จากกระทู้เก่า
จอดรถขวางหน้าบ้าน-บุกรุกเวลากลางคืน ?
http://ppantip.com/topic/32309428
จอดรถขวางหน้าบ้าน-บุกรุกเวลากลางคืน update
http://ppantip.com/topic/32335458
ตอนนี้มีการเปลี่ยนตัวละคร
ยายของคู่กรณีจะไม่ยุ่งแล้ว เนื่องจากฝีมือน่าจะอ่อนด้อยที่สุด (น่าจะจากความเห็นของสมาชิกเครือญาติเขา) ตำรวจก้บอกว่าถ้ายายมาจะไม่คุยด้วย ยายคุยไม่รู้เรื่อง (ล่าสุดยายเหมือนจะยอมรับข้อเสนอ 2 พันจากผม พร้อมเซ้นสัญญาไม่เอาความกับตำรวจ)
แต่ ตัวละครใหม่ แม่ของคู่กรณีที่มาจาก ตจว. ซึ่งเป็นมนุษย์ป้าระดับบอส และน้องสาวของเขา ผู้ซึ่งก็เคยจอดรถขวามหน้าบ้านผมเวลามาหาพี่สาวที่บ้าน
พอผมบอกให้เลื่อนก็ไม่พอใจ ผูกใจเจ็บมาจนปัจจุบัน (จากที่คุยกันล่าสุดน้องสาวแม่คู่กรณีก็บอกไม่ชอบขี้หน้าผม บอกผมเขี้ยว!?)
ไม่ยินยอม เลยได้ไปคุยกับตำรวจพร้อมหน้ากันอีกครั้ง หลักๆ คือเรื่องเงิน
ไม่ว่าผมจะถามกี่ครั้งว่าต้องการเท่าไร คำตอบที่ได้คือ "ให้มันสมน้ำสมเนื้อหน่อย" ไม่มีการพูดถึงความผิดของลูกตัวเอง
แต่บอกว่า ผมทำหน้ากวนโมโหลูกเค้า ถ้าผมเดินเข้าบ้านไปก็จบ (อะไรวะบ้านผมแท้ๆ) สรุปคุยกันไม่รู้เรื่อง
ตำรวจบอก งั้นแจ้งความเลย ผมจะเป็นโปรโมเตอร์ให้เอง สู้กันเลยคุยกันไม่ได้แล้ว แล้วแม่ของคู่กรณีก็จากไป
ผมเลยถามตำรวจว่าเค้าบอกไหมอยากได้เงินเท่าไร ตำรวจบอก 5หมื่น ผมเลยบอกงั้นสู้กันเลย เกินไปละ
แม่คู่กรณีบอกผมพยายามฆ่าลูกเขา ใช้เข่ากดหน้าขาของเขาจนขาหัก ผมมีรอยฟกช้ำทั้งตัวจากการต่อสู้ แต่คู่กรณีไม่มีแผลอื่นนอกจากขาหัก
จากการปรึกษาทนาย ทนายบอกผมป้องกันตัว ไม่น่าจะผิด
เดี๋ยวค่อยมาต่อ
ขอชี้แจงหน่อย
ผมตั้งกระทู้อาจจะดูเยอะ น่ารำคาญว่าทำไมไม่ทำอะไรสักที
ผมจะบอกว่าใจจริงๆ ผมไม่อยากยุ่งหรอก อยากให้เรื่องมันเงียบๆ ไปเอง ผมจะไม่พยายามบุกก่อน จะเป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่า ผมจะสู้เท่าที่จำเป็น และสู้ตายเพื่อปกป้องคนที่ผมรัก
มีชีวิตอย่างปรกติสุขสำคัญกว่าเอาชนะแล้วแค่สะใจครับ ที่ผมคิด
วันนี้ผมเพิ่งกลับมาจาก การสอบปากคำ ประมานเที่ยง ส่วนคู่กรณีจะส่งแม่มาให้ปากคำ ตอนบ่ายสอง แต่ต้องสอบคู่กรณีด้วย (ซึ่งยังไม่ได้ผ่าตัดสักที) ต้องรอดูว่าเขาจะให้ปากคำยังไง แต่ผมกลับมาถึงบ่าย 1 ยังเห็นแม่เขาดูทีวีอยู่เลย
เรื่องราวมันอาจจะชักช้าซ้ำซากไม่ถูกใจท่านผู้ชม แต่ผมคิดว่ามันก็ดีเหมือนกัน
ให้แต่ละฝ่ายมีเวลานึกทบทวนเรื่องที่ผ่านมา ทุกวันนี้ผมก็รู้สึกสงสารคนเจ็บเหมือนกัน
แต่ตำรวจบอกถอยไม่ได้แล้ว ขึ้นเวทีกันแล้วก็ต้องสู้กันให้ตายไปข้าง
บางท่านที่บอกผมเล่าไม่หมด ก็จริง รายละเอียดปลีกย่อยยุบยิบผมก็จะข้ามๆไปตามนิสัยผู้ชายที่ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดขนาดนั้น
แต่เรื่องบาดหมางระหว่างบ้านผมกับบ้านเค้าไม่เคยมีมาก่อนแน่นอน
ต้องรอดูสัก 2 วัน น่าจะมีเรื่องราวใหม่ๆมาเพิ่ม ถ้าโชคดีฝั่งคู่กรณีไม่สู้แล้ว ผมก็จะเฉยๆจะได้ไม่มีเรื่องราวต่อกัน แต่ความช่วยเหลือผมก็จะไม่ให้สักอย่างแล้ว
มีหลายคนส่งข้อความมาให้กำลังใจ ขอบคุณมากครับ แแพ้หรือชนะไม่สำคัญ ระหว่างที่สู้ผมสู้สุดตัวอยู่แล้ว
25/07/2557
เมื่อวานวันศุกร์ ผมได้มีโอกาศพูดคุยปรึกษากับทายผ่านทางโทรศัพท์ ออกอากาศกับ fm 105 เวลา 14.10
ผมได้เล่าความจริงทั้งหมดไป ทางทนายบอกว่าทางผมไม่ผิด
เพราะคู่กรณีเป็นฝ่ายเริ่มก่อน จากการจอดรถขวางหน้าบ้าน เริ่มแรกขวางนิดหน่อย จากนั้นจงใจขับมาจอดขวางมากกว่าเดิมเป็นมูลเหตุ
ผมดูดบุหรี่อยู่กระโปรงหลังรถ ซึ่งเป็นภายในบ้านของผม ผมจะทำอะไรก็ได้ แล้วผมก็ไม่ได้ท้าทายใดๆ
(ผมไม่ได้พูดกับเขาสักคำ ถ้าแค่จ้องหน้าแล้วจะมีเรื่องผมว่าคนแบบนี้อยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมยากแล้ว ผมนั่งหันหน้าออกหน้าบ้าน แล้วรถของเขาขวางอยู่ เขาเป็นฝ่ายเดินอ้อมรถมาเพื่อจ้องหน้าผม)
เขาเมาสุรา และอาชีพการงาน พร้องคดีเก่าๆจากปากคำสายตรวจ ความน่าเชื่อถือเขาจะน้อยลงไป (ทนายบอกว่าอาชีพการงานมีผลต่อความน่าเชื่อถือ จริงหรือเนี่ย?)
เป็นการป้องกันตัวโดยไม่เกินกว่าเหตุ ส่วนสูง น้ำหนัก พอๆกัน และมือเปล่า
(เมื่อเขาบาดเจ็บผมหยุดมือพร้อมเรียกรถตำรวจพร้อมรถมูลนิธิให้)
ตัวผมเป็นพยานให้ตัวเองได้จากบาดแผลบนตัวผม (นิ้วก้อยกระดูกน่าจะแตก แต่ตอนตรวจผมบอกหมอว่าเคล็ด คอเคล็ด เข่าถลอก หน้าผากมีรอยฟกช้ำ)
ลูกเขาที่เป็นพยานจะดูมีน้ำหนักน้อยกว่าเพราะเป็นพ่อลูกกัน
จอดรถขวางหน้าบ้าน-บุกรุกเวลากลางคืน ภาค 3
จอดรถขวางหน้าบ้าน-บุกรุกเวลากลางคืน ?
http://ppantip.com/topic/32309428
จอดรถขวางหน้าบ้าน-บุกรุกเวลากลางคืน update
http://ppantip.com/topic/32335458
ตอนนี้มีการเปลี่ยนตัวละคร
ยายของคู่กรณีจะไม่ยุ่งแล้ว เนื่องจากฝีมือน่าจะอ่อนด้อยที่สุด (น่าจะจากความเห็นของสมาชิกเครือญาติเขา) ตำรวจก้บอกว่าถ้ายายมาจะไม่คุยด้วย ยายคุยไม่รู้เรื่อง (ล่าสุดยายเหมือนจะยอมรับข้อเสนอ 2 พันจากผม พร้อมเซ้นสัญญาไม่เอาความกับตำรวจ)
แต่ ตัวละครใหม่ แม่ของคู่กรณีที่มาจาก ตจว. ซึ่งเป็นมนุษย์ป้าระดับบอส และน้องสาวของเขา ผู้ซึ่งก็เคยจอดรถขวามหน้าบ้านผมเวลามาหาพี่สาวที่บ้าน
พอผมบอกให้เลื่อนก็ไม่พอใจ ผูกใจเจ็บมาจนปัจจุบัน (จากที่คุยกันล่าสุดน้องสาวแม่คู่กรณีก็บอกไม่ชอบขี้หน้าผม บอกผมเขี้ยว!?)
ไม่ยินยอม เลยได้ไปคุยกับตำรวจพร้อมหน้ากันอีกครั้ง หลักๆ คือเรื่องเงิน
ไม่ว่าผมจะถามกี่ครั้งว่าต้องการเท่าไร คำตอบที่ได้คือ "ให้มันสมน้ำสมเนื้อหน่อย" ไม่มีการพูดถึงความผิดของลูกตัวเอง
แต่บอกว่า ผมทำหน้ากวนโมโหลูกเค้า ถ้าผมเดินเข้าบ้านไปก็จบ (อะไรวะบ้านผมแท้ๆ) สรุปคุยกันไม่รู้เรื่อง
ตำรวจบอก งั้นแจ้งความเลย ผมจะเป็นโปรโมเตอร์ให้เอง สู้กันเลยคุยกันไม่ได้แล้ว แล้วแม่ของคู่กรณีก็จากไป
ผมเลยถามตำรวจว่าเค้าบอกไหมอยากได้เงินเท่าไร ตำรวจบอก 5หมื่น ผมเลยบอกงั้นสู้กันเลย เกินไปละ
แม่คู่กรณีบอกผมพยายามฆ่าลูกเขา ใช้เข่ากดหน้าขาของเขาจนขาหัก ผมมีรอยฟกช้ำทั้งตัวจากการต่อสู้ แต่คู่กรณีไม่มีแผลอื่นนอกจากขาหัก
จากการปรึกษาทนาย ทนายบอกผมป้องกันตัว ไม่น่าจะผิด
เดี๋ยวค่อยมาต่อ
ขอชี้แจงหน่อย
ผมตั้งกระทู้อาจจะดูเยอะ น่ารำคาญว่าทำไมไม่ทำอะไรสักที
ผมจะบอกว่าใจจริงๆ ผมไม่อยากยุ่งหรอก อยากให้เรื่องมันเงียบๆ ไปเอง ผมจะไม่พยายามบุกก่อน จะเป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่า ผมจะสู้เท่าที่จำเป็น และสู้ตายเพื่อปกป้องคนที่ผมรัก
มีชีวิตอย่างปรกติสุขสำคัญกว่าเอาชนะแล้วแค่สะใจครับ ที่ผมคิด
วันนี้ผมเพิ่งกลับมาจาก การสอบปากคำ ประมานเที่ยง ส่วนคู่กรณีจะส่งแม่มาให้ปากคำ ตอนบ่ายสอง แต่ต้องสอบคู่กรณีด้วย (ซึ่งยังไม่ได้ผ่าตัดสักที) ต้องรอดูว่าเขาจะให้ปากคำยังไง แต่ผมกลับมาถึงบ่าย 1 ยังเห็นแม่เขาดูทีวีอยู่เลย
เรื่องราวมันอาจจะชักช้าซ้ำซากไม่ถูกใจท่านผู้ชม แต่ผมคิดว่ามันก็ดีเหมือนกัน
ให้แต่ละฝ่ายมีเวลานึกทบทวนเรื่องที่ผ่านมา ทุกวันนี้ผมก็รู้สึกสงสารคนเจ็บเหมือนกัน
แต่ตำรวจบอกถอยไม่ได้แล้ว ขึ้นเวทีกันแล้วก็ต้องสู้กันให้ตายไปข้าง
บางท่านที่บอกผมเล่าไม่หมด ก็จริง รายละเอียดปลีกย่อยยุบยิบผมก็จะข้ามๆไปตามนิสัยผู้ชายที่ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดขนาดนั้น
แต่เรื่องบาดหมางระหว่างบ้านผมกับบ้านเค้าไม่เคยมีมาก่อนแน่นอน
ต้องรอดูสัก 2 วัน น่าจะมีเรื่องราวใหม่ๆมาเพิ่ม ถ้าโชคดีฝั่งคู่กรณีไม่สู้แล้ว ผมก็จะเฉยๆจะได้ไม่มีเรื่องราวต่อกัน แต่ความช่วยเหลือผมก็จะไม่ให้สักอย่างแล้ว
มีหลายคนส่งข้อความมาให้กำลังใจ ขอบคุณมากครับ แแพ้หรือชนะไม่สำคัญ ระหว่างที่สู้ผมสู้สุดตัวอยู่แล้ว
25/07/2557
เมื่อวานวันศุกร์ ผมได้มีโอกาศพูดคุยปรึกษากับทายผ่านทางโทรศัพท์ ออกอากาศกับ fm 105 เวลา 14.10
ผมได้เล่าความจริงทั้งหมดไป ทางทนายบอกว่าทางผมไม่ผิด
เพราะคู่กรณีเป็นฝ่ายเริ่มก่อน จากการจอดรถขวางหน้าบ้าน เริ่มแรกขวางนิดหน่อย จากนั้นจงใจขับมาจอดขวางมากกว่าเดิมเป็นมูลเหตุ
ผมดูดบุหรี่อยู่กระโปรงหลังรถ ซึ่งเป็นภายในบ้านของผม ผมจะทำอะไรก็ได้ แล้วผมก็ไม่ได้ท้าทายใดๆ
(ผมไม่ได้พูดกับเขาสักคำ ถ้าแค่จ้องหน้าแล้วจะมีเรื่องผมว่าคนแบบนี้อยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมยากแล้ว ผมนั่งหันหน้าออกหน้าบ้าน แล้วรถของเขาขวางอยู่ เขาเป็นฝ่ายเดินอ้อมรถมาเพื่อจ้องหน้าผม)
เขาเมาสุรา และอาชีพการงาน พร้องคดีเก่าๆจากปากคำสายตรวจ ความน่าเชื่อถือเขาจะน้อยลงไป (ทนายบอกว่าอาชีพการงานมีผลต่อความน่าเชื่อถือ จริงหรือเนี่ย?)
เป็นการป้องกันตัวโดยไม่เกินกว่าเหตุ ส่วนสูง น้ำหนัก พอๆกัน และมือเปล่า
(เมื่อเขาบาดเจ็บผมหยุดมือพร้อมเรียกรถตำรวจพร้อมรถมูลนิธิให้)
ตัวผมเป็นพยานให้ตัวเองได้จากบาดแผลบนตัวผม (นิ้วก้อยกระดูกน่าจะแตก แต่ตอนตรวจผมบอกหมอว่าเคล็ด คอเคล็ด เข่าถลอก หน้าผากมีรอยฟกช้ำ)
ลูกเขาที่เป็นพยานจะดูมีน้ำหนักน้อยกว่าเพราะเป็นพ่อลูกกัน