เรื่องเพิ่งแดงขึ้นมาเมื่อวันจันทร์นี้เองค่ะ เป็นเรื่องของออฟฟิศเราเอง อยากเอามาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์
และอยากขอความเห็น พร้อมอยากสอบถามว่ามีออฟฟิศใดประสบเหตุแบบนี้กันบ้างนะคะ
คนที่ฉ้อโกง เราจะเรียกเขาว่า ม. นะคะ เมื่อ 2 ปีก่อน ม. มาสมัครงานที่ออฟฟิศที่เราทำงานอยู่ ด้วยวุฒิปริญญาโท
และทำงานในตำแหน่งเกี่ยวกับบัญชี โดยเป็นบัญชีที่มีหน้าที่ประสานงานไปยังสาขา เมื่อ 2 ปีก่อนนั้นงานด้านนั้น
หนักมาก แต่ ม. ก็รับทำโดยไม่บ่นว่าอะไร (เราแอบคิดนะว่า เขาจะทนได้แค่ไหนเชียวเรียนมาระดับปริญญาโทเชียวนะ)
รูปลักษณ์ภายนอก สวย น่ารัก แต่งตัวเก่ง เหมาะสมกับตัวเองมาก ในสายตาของเรา แต่..เราไม่ค่อยชอบเธอจาก
อะไร เราก็อธิบายไม่ถูก จะชมว่ามารยาทดีก็ไม่เต็มปาก แปลก ๆ ในความรู้สึกเรา แต่ราก็ปล่อยผ่านไม่เคยเอาความรู้สึกนี้
ไปคุยกับใคร เพราะเราอายุมากในที่ทำงานนั้นแล้ว จะไปพูดจาให้คนอื่นเขาหมดความนับถือก็กระไรอยู่ และอยู่คนละสายงาน
ไม่ค่อยประสานงานกันเท่าไหร่
พายุเข้าออฟฟิศเราวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ มีเด็กธุรการฝ่ายขายหน้าตาตื่นมาหาเจ้านายเราแล้วฟ้องว่า ม. หนีไปแล้วเก็บข้าวของในเก๊ะ
ไปจนเกลี้ยงเลย หนีไปแล้วแน่ ๆ สอบถามไปมาได้ความว่า ม. ยืมเงินเด็กธุรการฝ่ายขายคนนี้ไป 1 ล้าน 4 แสนบาท O_o! แม่เจ้า
ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อค ซ้ำรอบที่ 2 ฝ่ายบุคคลที่คิดว่าเป็นเพื่อนสนิทของ ม. ในที่ทำงานมาบอกเจ้านายว่า เขาทำบัตรเครดิตให้ ม.
จำนวนทั้งหมด 12 ใบ และรูดจนเต็มวงเงินแล้วทุกใบ และ ๆ ๆ ยังเอาเงินที่ ตัวเขากู้จากเจ้าของบริษัทฯ 100,000.00 บาทเพื่อจะส่ง
ไปให้ทางบ้านซื้อที่ดินเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพเสริมไปด้วย โดยอ้างว่าขอยืมก่อน >_<! อาฟเตอร์ช็อคลูกที่ 3 แม่บ้านที่ทำความสะอาดประจำชั้น
มาแจ้งว่า ม. ยืมเงินเขาไปทั้งหมด 700,000.00 บาท โดยที่ 200,000.00 ในนั้นเป็นเงินของน้องสาวของเขาเอง ทั้งหมดยกโขยงกันไปแจ้งความ
โดย คนที่โดนมากสุดปรึกษาทนายและวิธีการต่าง ๆ เตรียมไว้แล้ว
วันนี้วันอังคาร อาฟเตอร์ช็อคลูกที่ 4 มาตอนบ่ายหลังจากที่ เรากลับจากการขอดูกล้องวงจรปิดออฟฟิศฝั่งตรงข้าม เพื่อติดตามว่าเขาไปทางไหน
และไปกับใคร? แต่โชคไม่เข้าข้าง เรื่องที่ได้ยิน คือ ม. ไปยืมเงินจากสาขาที่ดิวงานไว้ด้วย อย่างน้อย ๆ ที่เรารู้ ก็ 5 คน 1 ในนั้นเป็นน้องที่เราดิว
งานด้วยเพราะเป็นฝ่ายจัดซื้อโคงานกัน
อยากเตือนภัยเรื่องการฉ้อโกงในออฟฟิศ และขอความคิดเห็น
และอยากขอความเห็น พร้อมอยากสอบถามว่ามีออฟฟิศใดประสบเหตุแบบนี้กันบ้างนะคะ
คนที่ฉ้อโกง เราจะเรียกเขาว่า ม. นะคะ เมื่อ 2 ปีก่อน ม. มาสมัครงานที่ออฟฟิศที่เราทำงานอยู่ ด้วยวุฒิปริญญาโท
และทำงานในตำแหน่งเกี่ยวกับบัญชี โดยเป็นบัญชีที่มีหน้าที่ประสานงานไปยังสาขา เมื่อ 2 ปีก่อนนั้นงานด้านนั้น
หนักมาก แต่ ม. ก็รับทำโดยไม่บ่นว่าอะไร (เราแอบคิดนะว่า เขาจะทนได้แค่ไหนเชียวเรียนมาระดับปริญญาโทเชียวนะ)
รูปลักษณ์ภายนอก สวย น่ารัก แต่งตัวเก่ง เหมาะสมกับตัวเองมาก ในสายตาของเรา แต่..เราไม่ค่อยชอบเธอจาก
อะไร เราก็อธิบายไม่ถูก จะชมว่ามารยาทดีก็ไม่เต็มปาก แปลก ๆ ในความรู้สึกเรา แต่ราก็ปล่อยผ่านไม่เคยเอาความรู้สึกนี้
ไปคุยกับใคร เพราะเราอายุมากในที่ทำงานนั้นแล้ว จะไปพูดจาให้คนอื่นเขาหมดความนับถือก็กระไรอยู่ และอยู่คนละสายงาน
ไม่ค่อยประสานงานกันเท่าไหร่
พายุเข้าออฟฟิศเราวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ มีเด็กธุรการฝ่ายขายหน้าตาตื่นมาหาเจ้านายเราแล้วฟ้องว่า ม. หนีไปแล้วเก็บข้าวของในเก๊ะ
ไปจนเกลี้ยงเลย หนีไปแล้วแน่ ๆ สอบถามไปมาได้ความว่า ม. ยืมเงินเด็กธุรการฝ่ายขายคนนี้ไป 1 ล้าน 4 แสนบาท O_o! แม่เจ้า
ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อค ซ้ำรอบที่ 2 ฝ่ายบุคคลที่คิดว่าเป็นเพื่อนสนิทของ ม. ในที่ทำงานมาบอกเจ้านายว่า เขาทำบัตรเครดิตให้ ม.
จำนวนทั้งหมด 12 ใบ และรูดจนเต็มวงเงินแล้วทุกใบ และ ๆ ๆ ยังเอาเงินที่ ตัวเขากู้จากเจ้าของบริษัทฯ 100,000.00 บาทเพื่อจะส่ง
ไปให้ทางบ้านซื้อที่ดินเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพเสริมไปด้วย โดยอ้างว่าขอยืมก่อน >_<! อาฟเตอร์ช็อคลูกที่ 3 แม่บ้านที่ทำความสะอาดประจำชั้น
มาแจ้งว่า ม. ยืมเงินเขาไปทั้งหมด 700,000.00 บาท โดยที่ 200,000.00 ในนั้นเป็นเงินของน้องสาวของเขาเอง ทั้งหมดยกโขยงกันไปแจ้งความ
โดย คนที่โดนมากสุดปรึกษาทนายและวิธีการต่าง ๆ เตรียมไว้แล้ว
วันนี้วันอังคาร อาฟเตอร์ช็อคลูกที่ 4 มาตอนบ่ายหลังจากที่ เรากลับจากการขอดูกล้องวงจรปิดออฟฟิศฝั่งตรงข้าม เพื่อติดตามว่าเขาไปทางไหน
และไปกับใคร? แต่โชคไม่เข้าข้าง เรื่องที่ได้ยิน คือ ม. ไปยืมเงินจากสาขาที่ดิวงานไว้ด้วย อย่างน้อย ๆ ที่เรารู้ ก็ 5 คน 1 ในนั้นเป็นน้องที่เราดิว
งานด้วยเพราะเป็นฝ่ายจัดซื้อโคงานกัน