ถอดความที่ฟังจาก เจาะข่าวเด่น สรยุทธ ต่อสายคุยกับปรีชา 22 ก.ค. 2557 เวลา 17.30 น.
นายปรีชาให้สัมภาษณ์ว่า น้องก้อยมีชื่อติด 1 ใน 20 คนของเอเชี่ยนเกมส์
น้องก้อยกับครอบครัวบอกว่ายังอยากอยู่ในทีมชาติต่อไป อยากเข้ามาพูดคุยกันปรับความเข้าใจกัน
แต่เรื่องขอขมา ก้อยไม่ได้บอกว่าจะมาขอขมา สื่ออาจจะสื่อสารผิด
เพียงแค่ว่านายปรีชาบอกน้องก้อยว่า ถ้าจะเข้ามาอาจจะนำดอกไม้ติดมือมา มาไหว้โค้ชหน่อย
เพราะเป็นธรรมเนียมของนักกีฬาทีมชาติเค้าทำกัน

ส่วนที่คุยโค้ชเชไม่ได้ติดใจเรื่องขอโทษอะไร ยินดีหากน้องก้อยจะเข้ามา
ส่วนเรื่องการลงโทษ จะมีการชี้แจงให้นักกีฬา ผู้ปกครองทราบ ให้เข้าใจกัน
แต่จะชี้แจงโค้ชทุกคนว่า เรื่องการลงโทษ ตั้งแต่บ่าไหล่ขึ้นมาถึงศีรษะไม่ให้แตะเนื่องจากคนไทยถือ ให้ลงโทษตั้งแต่ช่วงท้องลงไปเพราะนักกีฬาเทควันโดช่วงท้องจะแข็งแรง

ที่ผ่านมาระบบการลงโทษที่ใช้มาค่อยข้างใช้หนักตั้งแต่สมัยวิว เยาวภา แต่ที่รายการโคเรียโอเพ่นถือว่าเบากว่ายุคก่อนมาก

ทั้งคู่ทั้งก้อย และชานดร้า ถ้าจะกลับมาซ้อม ต้องมารายงานตัวพรุ่งนี้เลย 23 กรกฎาคม 2557
และนายปรีชา ยังกล่าวต่อไปว่า ต่อไปจะต้องมีการควบคุมเรื่องการเล่นโชเชี่ยล เพราะนักกีฬาบางคนเล่น ถึง 5 ทุ่ม ดึกดื่นทำให้เสียสมาธิพักผ่อนไม่เพียงพอ
กรณีที่ผ่านมา ที่มีปัญหา จะมีการฟ้องร้องต่อสมาคม ไม่มีอะไร แต่เรื่องนี้ทำไมไม่มีใครบอกอะไรเลย ไม่มาปรึกษาอะไรเลย จนเรื่องเข้าสู่กระแสสังคม

สรุปคือ
เรื่องขอขมา ก้อยไม่ได้เสนอตัวที่จะเข้ามาขอขมา แต่เป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน คือที่จริงนายปรีชา บอกให้ก้อยเตรียมดอกไม้มาไหว้โค้ชตามธรรมเนียมนักกีฬา ที่จะเข้ามาสวัสดีครู เพื่อจะเข้าฝึกซ้อมทีมชาติ หากก้อยจะกลับเข้าทีมชาติก็ให้รายงานตัวพรุ่งนี้
คือโค้ชเชยินดี และสมาคมเทควันโด ให้โอกาสก้อย และก้อยก็เปรยๆ ว่าอยากกลับเข้าทีมชาติ