เนื้อข่าว......
"ศธ. ผุดไอเดีย สมุดพกความดี หรือพาสปอร์ตความดี หวังให้นักเรียนทุกระดับชั้นบันทึกความดี เตรียมใช้เป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงผลการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ. ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาแนวทางกิจกรรมเพื่อสร้างค่านิยมหลัก 12 ประการ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการปลูกฝังเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมของคนในชาติ แต่กิจกรรมที่จัดทำขึ้นมานั้นต้องเป็นการบูรณาการที่เข้ากับหลักสูตรการเรียนการสอนและการประเมินผลด้วยเช่นกัน โดยที่ประชุมเห็นชอบว่า ควรมีการจัดทำ “สมุดพกความดี” หรือ “พาสปอร์ตความดี” ให้แก่นักเรียนทุกระดับชั้น ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้ง กศน. เพื่อให้นักเรียนพกไว้จดบันทึกความดีว่า ในแต่ละวันตนได้ทำความดีอะไรบ้าง โดยจะมีผู้อำนวยการโรงเรียน หรือครูผู้สอบเซ็นรับรองในสมุดพกความดีให้
พร้อมกันนี้ ยังได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นำผลการทำความดีดังกล่าวมาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งเรื่องนี้ นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) จะนำไปหารือในที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) อีกครั้ง
นางสุทธศรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องสมุดพกความดี หรือพาสปอร์ตความดี ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในวิชาลูกเสือ ก็มีสมุดที่ให้มีการบันทึกความดีอยู่แล้ว อีกทั้ง สพฐ. ก็เคยทำโครงการดังกล่าวมาแล้ว โดยมีตัวอย่างของ “นครปฐมโมเดล” ที่โรงเรียนให้นักเรียนทำคุณงามความดีได้สิทธิในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในพื้นที่ อาทิ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น
สำหรับเรื่องการพิจารณานำสมุดพกความดีมาประกอบการพิจารณาในการสมัครเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 นั้น คงต้องให้ทาง สพฐ. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวโดยตรงเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ ศธ. ยังได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม และมหาเถรสมาคม เพื่อจัดการเรียนการสอนธรรมะในสถานศึกษาอย่างเข้มข้น เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาวิชาพระพุทธศาสนาควบคู่กับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://education.kapook.com/view93687.html
อยากบอกว่า......เอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ใครไปเป่าหู หรือ สะกดจิตตอนนอนมาหรือเปล่า หรือว่าว่างมากไม่มีอะไรทำเลยหาอะไรเล่นสนุกไปวันๆ
พอเถอะนะ อย่าให้เยาวชนของชาติต้องอนาถกับความคิดของผู้ใหญ่ใน ศธ. มากไปกว่านี้เลย แค่ทุกวันนี้พวกคุณก้อไม่น่าเชื่อถือ หรือน่านับถือแล้ว
ยังจะอุตสาห์หาเรื่องให้เด็กๆมันถอนหงอกเล่นอีกนะ อายบ้างเถอะคุณเอ๊ย
( ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาพูดกับเหตุการณ์นี้ดีจริงๆ ศธ. ไทยจะบ้าบอไปถึงไหนวะเนี่ย )
จากข่าว "ศธ. ผุด สมุดพกความดี เล็งใช้คัด น.ศ. เข้ามหาวิทยาลัย" เห็นแล้วเพลียจิต
"ศธ. ผุดไอเดีย สมุดพกความดี หรือพาสปอร์ตความดี หวังให้นักเรียนทุกระดับชั้นบันทึกความดี เตรียมใช้เป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงผลการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ. ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาแนวทางกิจกรรมเพื่อสร้างค่านิยมหลัก 12 ประการ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการปลูกฝังเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมของคนในชาติ แต่กิจกรรมที่จัดทำขึ้นมานั้นต้องเป็นการบูรณาการที่เข้ากับหลักสูตรการเรียนการสอนและการประเมินผลด้วยเช่นกัน โดยที่ประชุมเห็นชอบว่า ควรมีการจัดทำ “สมุดพกความดี” หรือ “พาสปอร์ตความดี” ให้แก่นักเรียนทุกระดับชั้น ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้ง กศน. เพื่อให้นักเรียนพกไว้จดบันทึกความดีว่า ในแต่ละวันตนได้ทำความดีอะไรบ้าง โดยจะมีผู้อำนวยการโรงเรียน หรือครูผู้สอบเซ็นรับรองในสมุดพกความดีให้
พร้อมกันนี้ ยังได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นำผลการทำความดีดังกล่าวมาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งเรื่องนี้ นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) จะนำไปหารือในที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) อีกครั้ง
นางสุทธศรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องสมุดพกความดี หรือพาสปอร์ตความดี ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในวิชาลูกเสือ ก็มีสมุดที่ให้มีการบันทึกความดีอยู่แล้ว อีกทั้ง สพฐ. ก็เคยทำโครงการดังกล่าวมาแล้ว โดยมีตัวอย่างของ “นครปฐมโมเดล” ที่โรงเรียนให้นักเรียนทำคุณงามความดีได้สิทธิในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในพื้นที่ อาทิ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น
สำหรับเรื่องการพิจารณานำสมุดพกความดีมาประกอบการพิจารณาในการสมัครเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 นั้น คงต้องให้ทาง สพฐ. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวโดยตรงเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ ศธ. ยังได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม และมหาเถรสมาคม เพื่อจัดการเรียนการสอนธรรมะในสถานศึกษาอย่างเข้มข้น เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาวิชาพระพุทธศาสนาควบคู่กับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยากบอกว่า......เอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ใครไปเป่าหู หรือ สะกดจิตตอนนอนมาหรือเปล่า หรือว่าว่างมากไม่มีอะไรทำเลยหาอะไรเล่นสนุกไปวันๆ
พอเถอะนะ อย่าให้เยาวชนของชาติต้องอนาถกับความคิดของผู้ใหญ่ใน ศธ. มากไปกว่านี้เลย แค่ทุกวันนี้พวกคุณก้อไม่น่าเชื่อถือ หรือน่านับถือแล้ว
ยังจะอุตสาห์หาเรื่องให้เด็กๆมันถอนหงอกเล่นอีกนะ อายบ้างเถอะคุณเอ๊ย
( ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาพูดกับเหตุการณ์นี้ดีจริงๆ ศธ. ไทยจะบ้าบอไปถึงไหนวะเนี่ย )