ในคณะนี้ มหาวิทยาลัยชื่อดังทางภาคเหนือได้มีการรับน้องกันเกิดขึ้นหลายคณะ พี่ปี2จะเรียกรวมตัวน้องปี1 ให้มาทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย แล้วจะมีพี่อีกกลุ่มนึง ที่เรียกตัวเองว่า staff มาล้อมน้องปี1 ใช้เสียงดังขุ่มขู่ กระทืบเท้าเสียงดัง ตะโกน ว่าน้องปี1 บังคับให้ทำตาม บังคับให้แต่งตัวเหมือนกันใส่เสื้อ กางเกง รองเท้า เหมือนกัน ทำผมให้เหมือนกันทุกคน การที่บังคับให้ใส่เสื้อผ้าเหมือนกันมันเป็นการสิ้นเปลื้องเงินโดยใช่เหตุที่จะต้องไปซื้อเสื้อผ้าที่เหมือนกันมาทำกิจกรรมหลายวันก็ต้องซื้อหลายชุด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ปกครองหลายท่าน ส่วนผมผู้ชายก็บังคับให้โกนหัว ผู้หญิงก็ต้องรวบผมในระดับความสูงเท่ากันหนังยางรัดก็ต้องสีเดียวกันไลผมก็ต้องเอาเจลปาด ติดกิ๊บเป็นสิบๆตัว ซึ่งก็สร้างความลำบากแก่เด็กเพราะต้องทำไปอีกกี่เดือนหรือเป็นเทอม สองเทอมถึงจะจบการรับน้องจะต้องสิ้นเปลืองกับค่าเจลอีกเท่าไหร่ และรุ่นพี่ก็ใช้คำพูดหยาบคายตะโกนด่าน้องปีหนึ่ง ถ้าใครไม่รับน้องก็จะอยู่ในคณะลำบาก จะใช้อุปกรณ์ส่วนรวมก็ยากโดนแกล้งต่างๆนาๆ โดยที่ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยมองว่านี่คือ ธรรมเนียมของมหาวิทยาลัย เด็กทุกคนต้องเจอแบบนี้ เพื่อให้เด็กมีความรักสามัคคีกัน แต่การรับน้องของมหาลัยนี้ไม่ได้มีแค่วันสองวัน ยาวนานเป็นเดือน เป็นเทอม หรือตลอดทั้งปี การรับน้องแบบนี้ ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองหลายท่านเป็นห่วงบุตร หลานของตนเองเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ ส่งลูกหลานเข้าไปเรียนควรจะได้รับความสบายใจกลับมา แต่นี่กลับต้องมานั่งคอยลูกกลับบ้านเป็นห่วงว่ารุ่นพี่จะทำอะไรกับลูกของตนหรือไม่ อยากจะถามว่าทำไมมหาลัยไม่ออกกฎที่แน่ชัดถึงช่วงเวลารับน้องสัก 1 อาทิตย์ หรือ2 อาทิตย์ก็น่าจะพอ เพราะเวลาเปิดเทอมเด็กจะต้องเรียนแล้วก็ต้องเข้ารับน้องบางวันรุ่นพี่นัดน้องมารวมตอนดึกๆแล้วเด็กที่อยู่บ้านหรือหอนอกมหาวิทยาลัยจะทำอย่างไร บอกให้เพื่อนผู้ชายมาส่งแล้วถ้ามีพวกนักเลงมากันเป็นกลุ่มใหญ่พวกผู้ชายพวกนั้นจะช่วยได้ไหม ชีวิตคนทั้งคนรุ่นพี่จะรับผิดชอบไหวไหม แล้วการรับน้องแบบนี้ทำให้เด็กไม่อยากไปเรียนเพราะจะต้องเจอกับการบังคับของรุ่นพี่ ทั้งๆที่เด็กอดทนอ่านหนังสือสอบมาเป็นปีๆ แข่งขันกันเพื่อจะได้เรียนในคณะที่ตนหวังไว้ บางคนทนไม่ได้ก็ต้องซิ่วไปเรียนที่อื่นเสียเวลาไปอีกปี เพราะการรับน้องแบบนี้มันสมควรแล้วหรอ ตอนนี้หลานผมก็เป็นน้องปี1 อยู่คณะติดประตูวัดฝายหินเช่นกัน กลับมาบ้านพร้อมความเหนื่อยแล้วเล่าให้ฟังพร้อมน้ำตา ตอนนี้เป็นห่วงอย่างมาก หลานรู้สึกไม่อยากจะไปมหาวิทยาลัย กลัวกังวน ที่จะต้องเจอกับรุ่นพี่ ที่เขาเรียกตัวเองว่า staff  อยากถามความเห็นว่าคนอื่นว่าคิดยังไงกับการรับน้องแบบนี้ และอยากจะเสนอแนวทางว่า ควรรับน้องโดยให้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่สังคม พวกค่ายจิตอาสา บำเพ็ญประโยชน์ อะไรพวกนี้ดีกว่า มาบังคับให้แต่งตัวเหมือนกันทำผมเหมือนกัน รับน้องแบบอบอุ่นก็สร้างความรักและสามัคคีได้เหมือนกัน อีกอย่างการรับน้องก็ควรมี อาจารย์ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด กำหนดระยะเวลาให้เหมาะสมไม่กระทบกับการเรียน ไม่ใช่รับกันทั้งปี ทั้งเทอม รบกวนผู้ที่เห็นด้วยและมีส่วนเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยรับไปพิจรณาและแก้ไขโดยเร่งด่วนก่อนที่จะเสียเงินเสียเวลา ไปมากกว่านี้ เพื่อความสบายใจของผู้ปกครองและตัวนักศึกษาเอง