กระแส สังคมที่เรียกร้อง "ข่มขืนต้องประหาร" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กำลังแบ่งภาคมาวิจารณ์ "น้องก้อย" นักเทควันโดทีมชาติไทย ผู้กล่าวหา "โค้ชเช" ลงโทษเกินกว่าเหตุ แต่กระแสส่วนใหญ่แทนที่จะเห็นอกเห็นใจ กลับกลายเป็นรุมประณาม ว่าน้องก้อยจะทำลายทีมเทควันโด ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้ประเทศมามากมาย ถ้าโค้ชเชน้อยอกน้อยใจไม่กลับเมืองไทย วงการเทควันโดคงวายป่วง น้องทำอย่างนี้ไม่สมควร ถ้าประเทศชาติ
น้องรับผิดชอบไหวหรือ
ทำไมเป็นกันไปได้ถึงเพียงนั้น หรือเห็นเหรียญทองเหรียญเงินสำคัญกว่าสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรมเมื่อ ถูกละเมิด เมื่อถูกทำร้ายร่างกาย
พูดอย่างนี้ไม่ได้พิพากษาว่าโค้ชเช ผิด น้องก้อยถูก ฟังความแล้วค่อนไปทางที่เชื่อว่าน้องก้อยหย่อนยานไม่มีวินัยจนพ่ายแพ้ แต่มันคนละเรื่องกัน การลงโทษนักกีฬามีตั้งมากมายหลายวิธี ที่ไม่ต้องทำร้ายร่างกาย
ที่สำคัญคือไม่ยักมีใครปฏิเสธว่าโค้ชเชไม่ ได้ลงไม้ลงมือ นักกีฬารุ่นพี่กลับบอกว่าตัวเองเคยโดนมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ตบปาก เตะปาก ตาปิด ฯลฯ ที่น้องโดนยังแค่น้อยนิด จากนั้นก็พากันร่ายยาวคุณงามความดี ซึ่งไม่มีใครเถียงหรอกว่าถ้าไม่มีเธอคงไม่มีวันนี้ จะมีใครซักกี่คนที่ทุ่มเท
เฮ้ย ถ้ายืนยันว่าโค้ชเชไม่ผิด โค้ชเชไม่เคยทำอย่างน้องก้อยกล่าวหา ผมจะไม่ว่าเลย แต่นี่รุ่นพี่และสมาคมกำลังจะให้สังคมยอมรับว่าการลงโทษด้วยความรุนแรงเป็น สิ่งที่ ถูกต้อง เป็นเรื่องธรรมดา หยวนๆ กันดีกว่า หลับตาข้างหนึ่งเสีย อย่างนั้นหรือ
แล้วคนส่วนหนึ่งก็เห็นดีเห็นงามว่าน้องก้อยทำผิด ทำให้ทีมแพ้ สมควรโดน บางคนพอถูกแย้งว่าถ้าเป็นลูกคุณโดนอย่างนี้ ก็ย้อนว่าถ้าเป็นตัวเองจะไม่สปอยลูก เอ๊า ไปด่าพ่อแม่เขาอีก บางคนบอกว่าไม่ใช่ละเมิดสิทธิเพราะสมัครใจไปเป็นนักกีฬาก็ต้องยอมรับ พูดอย่างนี้ก็เหมือนกับบอกว่าเข้ามหาลัยนี้ต้องรู้แก่ใจว่ารับน้องโหด ตลกกว่านั้นบางคนเป็นเสื้อแดงก็ดันไปขุดรูปน้องก้อยเป่านกหวีดมาด่า เวรกรรม ถ้าคุณเห็นด้วยกับการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ คุณก็ต้องเห็นพ้องกับการสลายม็อบด้วยกระสุนจริง
สังคมไทยแยกแยะ ประเด็นถูกหรือเปล่า หนึ่ง ถ้าน้องก้อยผิดก็ควรถูกลงโทษ ส่งกลับ ตัดออกจากทีมชาติ หรือสั่งซ้อมหนัก ซ้อมเดี่ยว เคี่ยวเข้าไปทนไม่ไหว ถอนตัวเอง สอง โค้ชเชมีคุณูปการ เรายกย่อง แต่ สาม นี่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุไหม
พูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่จะประณามโค้ชเช "ออกไปๆๆ" เพราะจากที่นักกีฬารุ่นพี่เล่า เขารักและเอาใจใส่ทุกคน แม้เข้มงวดจนบางครั้งเลยเถิดแต่ก็เป็นคนเที่ยงตรง ไม่ลำเอียง ไม่มี เด็กเส้น (อย่างที่หลายสมาคมกีฬาเป็น) ไม่เช่นนั้น ทีม เทควันโดไทยคงไม่ประสบความสำเร็จเช่นวันนี้ น้องก้อยก็รับว่าโค้ชขอโทษ กอด บอกว่ารักและหวังดีมากไป
ถ้าโค้ชทำเกินกว่าเหตุจริง เราเคารพพร้อมกับยอมรับ ข้อด้อยในความเป็นมนุษย์ของเขาได้ไหม พร้อมไปกับยอมรับสิทธิความเป็นมนุษย์ของน้องก้อย ไม่ใช่ให้เลือก ระหว่างโค้ชเชกับน้องก้อย ไม่ใช่ให้เลือกระหว่างเหรียญโอลิมปิกกับการหลับตาข้างหนึ่งหยวนยอมให้ละเมิด สิทธิกันต่อไป แล้วไพล่ไปด่าคนทักท้วงเป็น "คนบาป"
ผมก็ไม่อยากให้ โค้ชเชกลับเกาหลี แต่เรื่องจะลงเอยอย่างไรก็ตาม อย่าบอกว่าเพื่อประเทศชาติต้องยอมรับการละเมิดสิทธิศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (เพื่อความสงบ เราต้องเสียเสรีภาพ) ถ้าคิดว่าต้องกลบเกลื่อนถูกผิด เพื่อเหรียญโอลิมปิก ชัยชนะก็จะสูญเสียความหมาย ชัยชนะในการกีฬาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศด้วยวิถีแห่งความสำเร็จ แบบเยอรมันได้แชมป์บอลโลก เป็นเกียรติแก่คนทั้งชาติว่านี่แหละ "เมดอินเยอรมัน" มุ่งมั่น ทุ่มเท สร้างทีมอย่างเป็นระบบ ไม่มีนักเตะต่างดาวมีแต่มนุษย์ที่รู้จักทำงานเป็นทีม
บางคนอาจบอกว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ประสบความสำเร็จเพราะไดร์เป่าผม และ "สตั๊ดเหินหาว" มาแล้ว การเข้มงวดดุด่าในวงการกีฬายังพอยอมรับ แต่สตั๊ดเหินหาวยังไงก็เป็น "จุดด่าง" ในความสำเร็จ ไม่ใช่จุดควรชื่นชม โลกยุคปัจจุบัน สิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในวงการกีฬาเริ่มเป็น "อารยะ" มากขึ้น อย่าคิดว่า โยอาคิม เลิฟ ทำแบบเฟอร์กี้แล้วจะได้ใจนักเตะ
แต่สังคมไทยเรายังคิดว่าอยู่ในยุค "ครูไหวใจร้าย" ได้ไงครับ ถึงมีครูฉีกกระโปรงนักเรียน ครูกร้อนผมเด็ก
คอลัมน์ ใบตองแห้ง วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22:40 น. ข่าวสดออนไลน์
++++++++++++++++++++++
โดยความเห็นส่วนตัว คือเรางงกะกระแสสังคมและตรรกะที่ออกมารุมประณามน้องก้อยตอนนี้มากๆ และเห็นด้วยมากๆกับใบตองแห้งกรอบนี้ เลยอยากเอามาแบ่งปัน และอยากให้ลองหยุดคิดกันดู แล้วมาแลกเปลี่ยนกันด้วยเหตุผลและความเมตตานะคะ
เราไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงโดยเฉพาะทางร่างกายทุกรูปแบบ มีวิธีการลงโทษอื่นที่อาจให้บทเรียนได้เช่น การไม่อนุญาตให้ลงแข่งทัวร์นาเม้นต์ต่อไป การให้อยู่ซ้อมเลยเวลา การปลดตัวออกจากทีมฯลฯ คือความเข้มงวดโคชไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาแนวนี้ และเทควันโด้เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีอุปกรณ์ป้องกัน ไม่ใช่การใช้ความรุนแรง
สิทธิมนุษย์ชื่อน้องก้อย
ทำไมเป็นกันไปได้ถึงเพียงนั้น หรือเห็นเหรียญทองเหรียญเงินสำคัญกว่าสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรมเมื่อ ถูกละเมิด เมื่อถูกทำร้ายร่างกาย
พูดอย่างนี้ไม่ได้พิพากษาว่าโค้ชเช ผิด น้องก้อยถูก ฟังความแล้วค่อนไปทางที่เชื่อว่าน้องก้อยหย่อนยานไม่มีวินัยจนพ่ายแพ้ แต่มันคนละเรื่องกัน การลงโทษนักกีฬามีตั้งมากมายหลายวิธี ที่ไม่ต้องทำร้ายร่างกาย
ที่สำคัญคือไม่ยักมีใครปฏิเสธว่าโค้ชเชไม่ ได้ลงไม้ลงมือ นักกีฬารุ่นพี่กลับบอกว่าตัวเองเคยโดนมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ตบปาก เตะปาก ตาปิด ฯลฯ ที่น้องโดนยังแค่น้อยนิด จากนั้นก็พากันร่ายยาวคุณงามความดี ซึ่งไม่มีใครเถียงหรอกว่าถ้าไม่มีเธอคงไม่มีวันนี้ จะมีใครซักกี่คนที่ทุ่มเท
เฮ้ย ถ้ายืนยันว่าโค้ชเชไม่ผิด โค้ชเชไม่เคยทำอย่างน้องก้อยกล่าวหา ผมจะไม่ว่าเลย แต่นี่รุ่นพี่และสมาคมกำลังจะให้สังคมยอมรับว่าการลงโทษด้วยความรุนแรงเป็น สิ่งที่ ถูกต้อง เป็นเรื่องธรรมดา หยวนๆ กันดีกว่า หลับตาข้างหนึ่งเสีย อย่างนั้นหรือ
แล้วคนส่วนหนึ่งก็เห็นดีเห็นงามว่าน้องก้อยทำผิด ทำให้ทีมแพ้ สมควรโดน บางคนพอถูกแย้งว่าถ้าเป็นลูกคุณโดนอย่างนี้ ก็ย้อนว่าถ้าเป็นตัวเองจะไม่สปอยลูก เอ๊า ไปด่าพ่อแม่เขาอีก บางคนบอกว่าไม่ใช่ละเมิดสิทธิเพราะสมัครใจไปเป็นนักกีฬาก็ต้องยอมรับ พูดอย่างนี้ก็เหมือนกับบอกว่าเข้ามหาลัยนี้ต้องรู้แก่ใจว่ารับน้องโหด ตลกกว่านั้นบางคนเป็นเสื้อแดงก็ดันไปขุดรูปน้องก้อยเป่านกหวีดมาด่า เวรกรรม ถ้าคุณเห็นด้วยกับการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ คุณก็ต้องเห็นพ้องกับการสลายม็อบด้วยกระสุนจริง
สังคมไทยแยกแยะ ประเด็นถูกหรือเปล่า หนึ่ง ถ้าน้องก้อยผิดก็ควรถูกลงโทษ ส่งกลับ ตัดออกจากทีมชาติ หรือสั่งซ้อมหนัก ซ้อมเดี่ยว เคี่ยวเข้าไปทนไม่ไหว ถอนตัวเอง สอง โค้ชเชมีคุณูปการ เรายกย่อง แต่ สาม นี่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุไหม
พูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่จะประณามโค้ชเช "ออกไปๆๆ" เพราะจากที่นักกีฬารุ่นพี่เล่า เขารักและเอาใจใส่ทุกคน แม้เข้มงวดจนบางครั้งเลยเถิดแต่ก็เป็นคนเที่ยงตรง ไม่ลำเอียง ไม่มี เด็กเส้น (อย่างที่หลายสมาคมกีฬาเป็น) ไม่เช่นนั้น ทีม เทควันโดไทยคงไม่ประสบความสำเร็จเช่นวันนี้ น้องก้อยก็รับว่าโค้ชขอโทษ กอด บอกว่ารักและหวังดีมากไป
ถ้าโค้ชทำเกินกว่าเหตุจริง เราเคารพพร้อมกับยอมรับ ข้อด้อยในความเป็นมนุษย์ของเขาได้ไหม พร้อมไปกับยอมรับสิทธิความเป็นมนุษย์ของน้องก้อย ไม่ใช่ให้เลือก ระหว่างโค้ชเชกับน้องก้อย ไม่ใช่ให้เลือกระหว่างเหรียญโอลิมปิกกับการหลับตาข้างหนึ่งหยวนยอมให้ละเมิด สิทธิกันต่อไป แล้วไพล่ไปด่าคนทักท้วงเป็น "คนบาป"
ผมก็ไม่อยากให้ โค้ชเชกลับเกาหลี แต่เรื่องจะลงเอยอย่างไรก็ตาม อย่าบอกว่าเพื่อประเทศชาติต้องยอมรับการละเมิดสิทธิศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (เพื่อความสงบ เราต้องเสียเสรีภาพ) ถ้าคิดว่าต้องกลบเกลื่อนถูกผิด เพื่อเหรียญโอลิมปิก ชัยชนะก็จะสูญเสียความหมาย ชัยชนะในการกีฬาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศด้วยวิถีแห่งความสำเร็จ แบบเยอรมันได้แชมป์บอลโลก เป็นเกียรติแก่คนทั้งชาติว่านี่แหละ "เมดอินเยอรมัน" มุ่งมั่น ทุ่มเท สร้างทีมอย่างเป็นระบบ ไม่มีนักเตะต่างดาวมีแต่มนุษย์ที่รู้จักทำงานเป็นทีม
บางคนอาจบอกว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ประสบความสำเร็จเพราะไดร์เป่าผม และ "สตั๊ดเหินหาว" มาแล้ว การเข้มงวดดุด่าในวงการกีฬายังพอยอมรับ แต่สตั๊ดเหินหาวยังไงก็เป็น "จุดด่าง" ในความสำเร็จ ไม่ใช่จุดควรชื่นชม โลกยุคปัจจุบัน สิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในวงการกีฬาเริ่มเป็น "อารยะ" มากขึ้น อย่าคิดว่า โยอาคิม เลิฟ ทำแบบเฟอร์กี้แล้วจะได้ใจนักเตะ
แต่สังคมไทยเรายังคิดว่าอยู่ในยุค "ครูไหวใจร้าย" ได้ไงครับ ถึงมีครูฉีกกระโปรงนักเรียน ครูกร้อนผมเด็ก
คอลัมน์ ใบตองแห้ง วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22:40 น. ข่าวสดออนไลน์
++++++++++++++++++++++
โดยความเห็นส่วนตัว คือเรางงกะกระแสสังคมและตรรกะที่ออกมารุมประณามน้องก้อยตอนนี้มากๆ และเห็นด้วยมากๆกับใบตองแห้งกรอบนี้ เลยอยากเอามาแบ่งปัน และอยากให้ลองหยุดคิดกันดู แล้วมาแลกเปลี่ยนกันด้วยเหตุผลและความเมตตานะคะ
เราไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงโดยเฉพาะทางร่างกายทุกรูปแบบ มีวิธีการลงโทษอื่นที่อาจให้บทเรียนได้เช่น การไม่อนุญาตให้ลงแข่งทัวร์นาเม้นต์ต่อไป การให้อยู่ซ้อมเลยเวลา การปลดตัวออกจากทีมฯลฯ คือความเข้มงวดโคชไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาแนวนี้ และเทควันโด้เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีอุปกรณ์ป้องกัน ไม่ใช่การใช้ความรุนแรง