ที่อาคาร GMM แกรมมี่ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม หลังจากเสร็จสิ้นการอัดรายการ สน.แสนแสบ ซึ่งออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม ชาแนล น.ส.สุณัณณิภาร์ กฤษณสุวรรณ หรือน้ำเพชร อดีตรองอันดับสอง มิสยูนิเวอร์ส ไทยแลนด์ 2014 ได้เปิดแถลงข่าว กรณีถูกกองประกวดฯปลดจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังปรากฎภาพไม่เหมาะสมในการอวดเรือนร่างและท่าทางเกินงามผ่านทางอินเตอร์เน็ต ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวจำนวนมาก
ทั้งนี้ น้ำเพชร ได้ระบุอยากจะขอโอกาสชี้แจงข่าวที่ออกมาจำนวนมาก เกี่ยวกับภาพลักษณ์ต่างๆ ของตัวเอง โดยอันดับแรก ขอปฏิเสธข่าวที่ว่า ตนเองขายตัว เป็นเด็กเสี่ย ติดยา เป็นเมียน้อยทหารอากาศใหญ่ เป็นเอเยต์ส่งเด็ก ซึ่งข่าวเหล่านี้ ทำให้เสียเกียรติความเป็น ผู้หญิง ช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่มีความสุขเลย ซึ่งที่ผ่านมา ที่ถูกระบุว่ามีอาชีพเป็นพริตตี้นั้น ขอเล่าว่า เมื่อก่อนเป็นเด็กธรรมดา อยู่กับแม่สองคน ตอนเรียนอยู่ชั้น ม. 5 แม่เกิดป่วยด้วยอาการเซลล์ปากมดลูกผิดปกติ ต้องผ่าตัดด่วน ถ้าไม่ผ่าจะกลายเป็นมะเร็ง ตนจึงต้องเริ่มทำงานพริตตี้ เพราะเป็นอาชีพสุจริต เด็กสาวทุกคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น หน้าตาสวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีไหวพริบดี เสียภาษีเหมือนกัน แต่ที่เสียใจเพราะโดนดูถูกว่าเป็นพริตตี้แล้วมาประกวดนางงาม
น้ำเพชร ยังระบุอีกว่า วันนี้มีหลักฐานใบรับรองแพทย์ว่าแม่ป่วยจริงๆ ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ลงวันที่ 19 พ.ค. 2557 ตอนนั้น ตนต้องรับงานเร็วมาก ไม่ว่างานอะไร ไม่ว่าจะแรงแค่ไหน งานเราจะเป็นอย่างไร แต่ต้องหาเงินรักษาแม่ ยอมรับว่าภาพแรงจริง แต่เราไม่ได้ขายตัว ถูกกฎหมาย ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมาไกลขนาดนี้ ตอนรับงานไม่รู้ว่างานจะแรงขนาดนั้น ไม่รุ้ว่าตากล้องคนถ่ายไหนปล่อย คิดแต่ว่าอยากจะหาเงินช่วยคุณแม่ และก็ทำครั้งนั้นทำครั้งเดียว
น้ำเพชร กล่าวต่อว่า เมื่อภาพต่างๆถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตหลังได้รับตำแหน่ง ผู้ใหญ่ทางกองประกวด ได้เรียกเข้าไปคุยหลายครั้งเรียก พร้อมสืบสวนก่อน เรายอมรับและบอกว่าทำไปเพราะอะไรพร้อมกับหลักฐาน และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ อีกทั้งยังไม่ให้ออกงาน งานเข้ามาก็ไม่รับงานให้ เงินจากกองประกวดก็ยังไม่ได้ ให้ผ่านกองประกวดอย่างเดียวเราบอกขอรับงานพิธีกรได้ เราก็รอคำตอบ เลื่อนไปๆ ทำให้เราพลาดงานหลายงาน กระมั่งมีการประกาศสั่งปลด ซึ่งคิดว่า ไม่ยุติธรรม
" มาวันหนึ่ง ผู้ใหญ่เรียกเพจแอนตี้เข้าไปโดยที่เราไม่รู้ นี่แหละคือเหตุผลที่ออกมาพูดว่ากองประกวดปลดอย่างไม่ยุติธรรมโดยไม่ให้โอกาสเราได้อธิบาย ไม่ได้ออกมาแฉ ไม่ได้อยากได้ตำแหน่งคืน ที่ออกมาเพราะ วันที่8 ก.ค ผู้ใหญ่โทรมาบอกว่าให้เข้าไปหาวันที่ 10 ก.ค. หลอกล่อให้เอามงกุฎไปคืน แล้วก็มีการใช้ถ้อยคำที่บีบหัวใจมาก เช่น ความประพฤติอันเป็นที่รังเกียจของสังคม จึงเห็นสมควรปลด เราร้องไห้ไม่หยุด เหมือนหมดที่พึ่ง เพราะเราศรัทธาในเวทีนี้ ตั้งใจ และมีความฝัน ปลดเพราะกระแสสังคมที่ออกมา เราก็ขอโอกาสว่ามีทางออกที่ดีกว่านี้หรือไม่ เพราะมันสร้างตราบาปในชีวิตเรามาก ความรู้สึกเรามันเป็นความกดดัน เค้าปลดเราแล้ว เค้าก็บอกให้เราสละเอง เรายอมรับการตัดสินของกองประกวด ให้เราเซ็นเอกสารแล้วให้เราเลือกว่า ให้กองปลดหรือให้เราสละเอง "
ส่วน ของรางวัลและมงกุฎนั้น น้ำเพชรระบุ ทางกองประกวดได้เรียกคืนจริง แต่ของรางวัลเรายังไม่ได้รับ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า เธอจะคืนสายสะพายให้กองประกวด แต่จะไม่คืนมงกุฎให้ เพราะเป็นสิทธิ์ที่ควรจะได้รับ และสุดท้าย ยังทิ้งท้ายว่า เธอยังไม่ได้รับเงินรางวัล 2แสนบาทจากกองประกวดทั้งๆที่คนอื่นๆได้รับเงินรางวัลไปหมดแล้ว
นอกจากนี้ น้ำเพชร ยัง นำภาพหลุดที่เป็นข่าวมาโชว์กับนักข่าว และเปรียบเทียบกับ ภาพหลุดของแอลลี่ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส2014 ที่มีภาพหลุดเช่นกัน แต่เธอกลับไม่ได้รับความยุติธรรม พร้อมกันนี้ ฝากบอกรุ่นน้องให้ดูแลตัวเองดีๆ โดยตลอดการแถลงข่าว น้ำเพชรได้ปล่อยโฮ ร้องไห้แสดงความเสียใจ พร้อมกับ ยกมือไหว้ ขอโทษ และขอความเมตตาจากสังคมกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย พร้อมฝากคืนสายสะพายให้กองประกวด และ ฝากถามกองประกวดว่า ของรางวัลจำนวน200,000 บาท และของรางวัลอื่นๆ ที่ควรจะได้รับ จะได้รับเมื่อไหร่
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1405933027
ปลดไม่เป็นธรรม!′น้ำเพชร′ร่ำไห้! กร้าวไม่คืนมงกุฎ′รองมิสยูนิเวิร์ส′เดินหน้าทวงเงินรางวัล2แสน!
ที่อาคาร GMM แกรมมี่ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม หลังจากเสร็จสิ้นการอัดรายการ สน.แสนแสบ ซึ่งออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม ชาแนล น.ส.สุณัณณิภาร์ กฤษณสุวรรณ หรือน้ำเพชร อดีตรองอันดับสอง มิสยูนิเวอร์ส ไทยแลนด์ 2014 ได้เปิดแถลงข่าว กรณีถูกกองประกวดฯปลดจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังปรากฎภาพไม่เหมาะสมในการอวดเรือนร่างและท่าทางเกินงามผ่านทางอินเตอร์เน็ต ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวจำนวนมาก
ทั้งนี้ น้ำเพชร ได้ระบุอยากจะขอโอกาสชี้แจงข่าวที่ออกมาจำนวนมาก เกี่ยวกับภาพลักษณ์ต่างๆ ของตัวเอง โดยอันดับแรก ขอปฏิเสธข่าวที่ว่า ตนเองขายตัว เป็นเด็กเสี่ย ติดยา เป็นเมียน้อยทหารอากาศใหญ่ เป็นเอเยต์ส่งเด็ก ซึ่งข่าวเหล่านี้ ทำให้เสียเกียรติความเป็น ผู้หญิง ช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่มีความสุขเลย ซึ่งที่ผ่านมา ที่ถูกระบุว่ามีอาชีพเป็นพริตตี้นั้น ขอเล่าว่า เมื่อก่อนเป็นเด็กธรรมดา อยู่กับแม่สองคน ตอนเรียนอยู่ชั้น ม. 5 แม่เกิดป่วยด้วยอาการเซลล์ปากมดลูกผิดปกติ ต้องผ่าตัดด่วน ถ้าไม่ผ่าจะกลายเป็นมะเร็ง ตนจึงต้องเริ่มทำงานพริตตี้ เพราะเป็นอาชีพสุจริต เด็กสาวทุกคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น หน้าตาสวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีไหวพริบดี เสียภาษีเหมือนกัน แต่ที่เสียใจเพราะโดนดูถูกว่าเป็นพริตตี้แล้วมาประกวดนางงาม
น้ำเพชร ยังระบุอีกว่า วันนี้มีหลักฐานใบรับรองแพทย์ว่าแม่ป่วยจริงๆ ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ลงวันที่ 19 พ.ค. 2557 ตอนนั้น ตนต้องรับงานเร็วมาก ไม่ว่างานอะไร ไม่ว่าจะแรงแค่ไหน งานเราจะเป็นอย่างไร แต่ต้องหาเงินรักษาแม่ ยอมรับว่าภาพแรงจริง แต่เราไม่ได้ขายตัว ถูกกฎหมาย ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมาไกลขนาดนี้ ตอนรับงานไม่รู้ว่างานจะแรงขนาดนั้น ไม่รุ้ว่าตากล้องคนถ่ายไหนปล่อย คิดแต่ว่าอยากจะหาเงินช่วยคุณแม่ และก็ทำครั้งนั้นทำครั้งเดียว
น้ำเพชร กล่าวต่อว่า เมื่อภาพต่างๆถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตหลังได้รับตำแหน่ง ผู้ใหญ่ทางกองประกวด ได้เรียกเข้าไปคุยหลายครั้งเรียก พร้อมสืบสวนก่อน เรายอมรับและบอกว่าทำไปเพราะอะไรพร้อมกับหลักฐาน และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ อีกทั้งยังไม่ให้ออกงาน งานเข้ามาก็ไม่รับงานให้ เงินจากกองประกวดก็ยังไม่ได้ ให้ผ่านกองประกวดอย่างเดียวเราบอกขอรับงานพิธีกรได้ เราก็รอคำตอบ เลื่อนไปๆ ทำให้เราพลาดงานหลายงาน กระมั่งมีการประกาศสั่งปลด ซึ่งคิดว่า ไม่ยุติธรรม
" มาวันหนึ่ง ผู้ใหญ่เรียกเพจแอนตี้เข้าไปโดยที่เราไม่รู้ นี่แหละคือเหตุผลที่ออกมาพูดว่ากองประกวดปลดอย่างไม่ยุติธรรมโดยไม่ให้โอกาสเราได้อธิบาย ไม่ได้ออกมาแฉ ไม่ได้อยากได้ตำแหน่งคืน ที่ออกมาเพราะ วันที่8 ก.ค ผู้ใหญ่โทรมาบอกว่าให้เข้าไปหาวันที่ 10 ก.ค. หลอกล่อให้เอามงกุฎไปคืน แล้วก็มีการใช้ถ้อยคำที่บีบหัวใจมาก เช่น ความประพฤติอันเป็นที่รังเกียจของสังคม จึงเห็นสมควรปลด เราร้องไห้ไม่หยุด เหมือนหมดที่พึ่ง เพราะเราศรัทธาในเวทีนี้ ตั้งใจ และมีความฝัน ปลดเพราะกระแสสังคมที่ออกมา เราก็ขอโอกาสว่ามีทางออกที่ดีกว่านี้หรือไม่ เพราะมันสร้างตราบาปในชีวิตเรามาก ความรู้สึกเรามันเป็นความกดดัน เค้าปลดเราแล้ว เค้าก็บอกให้เราสละเอง เรายอมรับการตัดสินของกองประกวด ให้เราเซ็นเอกสารแล้วให้เราเลือกว่า ให้กองปลดหรือให้เราสละเอง "
ส่วน ของรางวัลและมงกุฎนั้น น้ำเพชรระบุ ทางกองประกวดได้เรียกคืนจริง แต่ของรางวัลเรายังไม่ได้รับ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า เธอจะคืนสายสะพายให้กองประกวด แต่จะไม่คืนมงกุฎให้ เพราะเป็นสิทธิ์ที่ควรจะได้รับ และสุดท้าย ยังทิ้งท้ายว่า เธอยังไม่ได้รับเงินรางวัล 2แสนบาทจากกองประกวดทั้งๆที่คนอื่นๆได้รับเงินรางวัลไปหมดแล้ว
นอกจากนี้ น้ำเพชร ยัง นำภาพหลุดที่เป็นข่าวมาโชว์กับนักข่าว และเปรียบเทียบกับ ภาพหลุดของแอลลี่ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส2014 ที่มีภาพหลุดเช่นกัน แต่เธอกลับไม่ได้รับความยุติธรรม พร้อมกันนี้ ฝากบอกรุ่นน้องให้ดูแลตัวเองดีๆ โดยตลอดการแถลงข่าว น้ำเพชรได้ปล่อยโฮ ร้องไห้แสดงความเสียใจ พร้อมกับ ยกมือไหว้ ขอโทษ และขอความเมตตาจากสังคมกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย พร้อมฝากคืนสายสะพายให้กองประกวด และ ฝากถามกองประกวดว่า ของรางวัลจำนวน200,000 บาท และของรางวัลอื่นๆ ที่ควรจะได้รับ จะได้รับเมื่อไหร่
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1405933027