YouTube / Uploaded by lukutiss1324
A long, long time ago
I can still remember
how that music used to make me smile
And I knew if I had my chance
that I could make those people dance
And maybe
they'd be happy for a while
But February made me shiver
with every paper I'd deliver
Bad news on the doorstep,
I couldn't take one more step
I can't remember if I cried
when I read about his widowed bride
But something touched me deep inside
the day the music died
กาลครั้งหนึ่งนานนานมาแล้ว
ฉันยังจำได้ว่า
ดนตรีนั้นทำให้ฉันมีความสุขอย่างไร
และฉันรู้ว่าหากฉันมีโอกาส
ฉันจะทำให้คนเหล่านั้นเต้น
และบางที
เขาคงจะมีความสุขแม้แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ
แต่กุมภาพันธ์นั้นทำให้ฉันเหมือนโดนฟ้าผ่า
จากข่าวร้ายในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ผมนำไปส่ง
ข่าวร้ายมาถึงหน้าบันไดบ้าน
จนไม่อาจก้าวเดินต่อไปได้
ฉันจำไม่ได้ว่าร้องไห้หรือเปล่า
เมื่ออ่านเกี่ยวกับภรรยาหม้ายของเขา
แต่มีบางอย่างมาสัมผัสฉันลึก ๆ
ว่าเป็นวันที่สิ้นเสียงเพลง
(3 กุมภาพันธ์ 2502
Buddy Holly นักร้องนักแต่งเพลงที่มีอิทธิพลต่อดนตรี rock and roll
เครื่องบินตกเสียชีวิตในไอโอว่า
ภรรยาเขาเสียใจจนแท้งลูก
... จบกัน rock and roll ...)
So bye, bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
And them good old boys
were drinking whiskey and rye
Singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
(มิสอเมริกันพาย อาจเป็นตัวแทนของความฝันของคนเอมริกัน - rock and roll
ยุคนั้นหนุ่มมักพาสาวขับเชฟวี่ไปพลอดรักที่สันเขื่อน
ไม่มีน้ำ - ไม่มีสาวไปด้วย)
Did you write the book of love
and do you have faith in God above
If the Bible tells you so?
Now do you believe in rock and roll?
Can music save your mortal soul?
And can you teach me how to dance real slow?
Well, I know that you're in love with him
'Cause I saw you dancing in the gym
You both kicked off your shoes
Man, I dig those rhythm and blues
I was a lonely teenage bronc'n' buck
With a pink carnation and a pickup truck
But I knew I was out of luck
The day the music died
คุณได้แต่งเพลงเรื่องความรักไหม
และคุณมีความเชื่อในพระเจ้าเบื้องบน
ตามที่ไบเบิลบอกคุณไหม?
ตอนนี้คุณเชื่อในร็อคแอนด์โรลไหม?
บทเพลงจะรักษาจิตวิญญาณคุณไหม?
และคุณจะสอนให้ฉันเต้นรำจังหวะช้า ๆ ไหม?
เอาละฉันรู้ว่าคุณรักเขา
เพราะฉันเห็นคุณเต้นรำในยิม
คุณทั้งคู่ต่างสะบัดรองเท้า
เพื่อน, ฉันจึงขุดจังหวะเก่า ๆ และเศร้าขึ้นมา ...
ฉันเป็นวัยรุ่นที่เหงา กวางหนุ่มในรั้วผุ
มีคาร์เนชั่นสีชมพูกับรถปิ๊กอัพ
แต่ฉันรู้ว่าฉันอับโชค
ในวันที่สิ้นเสียงเพลง
(เหมือนเขาเอาเพลงหรือคำพูดเด็ด ๆ ของเพลง
เข้ามาร้อยเข้าด้วยกัน เป็นเรื่องราวเช่น
the book of love *
the Bible tells me so?*
Do You Believe In Magic*
ธรรมเนียมเช่น
การเต้นสโลว์เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน
เป็นการร้อยเรียงถึงยุคเก่า ยุคใหม่อะไรจะเกิดขึ้นจากนี้
จะกลับไปเป็นบบเดิมไหม จะมีใครสานต่อไหม)
I started singing bye,
bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
And them good old boys
were drinking whiskey and rye
Singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
ฉันจึงร้องว่า
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
Now, for ten years we've been on our own
And moss grows fat on a rolling stone
But that's not how it used to be
When the jester sang for the king and queen
In a coat he borrowed from James Dean
And a voice that came from you and me
Oh, and while the king was looking down
The jester stole his thorny crown
The courtroom was adjourned
No verdict was returned
And while Lenon read a book on Marx
The quartet practiced in the park
And we sang dirges in the dark
The day the music died
เป็นเวลาสิบปีที่เราอยู่ด้วยตัวเอง
คนที่ไม่หยุดอยู่กับที่ย่อมเกิดความคิดใหม่ ๆ
ที่ไม่เหมือนที่เคยเป็น
ตัวตลกร้องเพลงให้ราชาและราชินี
ใส่โค้ทที่ยืมมาจากเจมส์ดีน
และเสียงนั้นมาจากพวกคุณและฉัน
และเมื่อราชามองลงมา
ตัวตลกก็ขโมยมงกุฏ
การตัดสินความผิดถูกเลื่อนออกไป
โดยไม่ได้กลับมาพิจารณาอีก
เมื่อเลนอนอ่านหนังสือมาร์ซ
วงดนตรีสี่คนเล่นอยู่ในพาร์ค
และเราร้องเพลงในพิธีศพ
ในวันที่สิ้นเสียงเพลง
(วง Rolling stone พ้องกับสุภาษิตว่า ... คนที่ไม่หยุดอยู่กับที่ย่อมเกิดความคิดใหม่ ๆ
ตัวตลก ... บ็อบ ดิแลนด์
ราชา ... เอลวิส
ราชินี ... Connie Francis, Little Richard, ฯลฯ
ในหนังเรื่อง Rebel Without a Causeเจมสศ็ดีน มีเสื้อกันลมสีแดง
ในชีวิตจริง บ็อบ ดิแลน ชอบใส่เสื้อกันลมสีแดง
บ็อบ ดิแลนร้องเพลงโฟล์ค ... folk แปลว่า ประชาชน คือเรา ๆ ท่าน ๆ
เมื่อเอลวิสถูกเกณท์ทหาร บ็อบดิแลนขึ้นมาเป็นราชาเพลงแทน
การตัดสินความ ... หมายถึงคดีเคคาดี้ และมือปืน ออสวอลด์
เลนอนเลียนแบบมาร์ซในการปฏิวัติเพลง ในปี 1968
สี่เต่าทอง คือ สี่คน คือ Beatles
งานศพในยุค 60's มี Kennedy's คือ John และ Robert มี Martin Luther King)
We were singing bye,
bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
And them good old boys
were drinking whiskey and rye
Singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
เราร้องว่า
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
Helter skelter in a summer swelter
The birds flew off with a fallout shelter
Eight miles high and falling fast
Landed foul on the grass
The players tried for a forward pass
With the jester on the sidelines in a cast
Now the half time air was sweet perfume
While sergeants played a marching tune
We all got up to dance
Oh, but we never got the chance
'Cause the players tried to take the field
The marching band refused to yield
Do you recall what was revealed
The day the music died?
ความสับสนในฤดูร้อนที่อบอ้าว
จนนกตกตกจากคอน
สูงแปดไมล์และตกอย่างรวดเร็ว
ลงพื้นอย่าน่าขยะแขยงลงบนกัญชา
นักดนตรีอื่นพยายามบุกไปข้างหน้า
ขณะที่บ็อบดิแลนอยู่นอกวงเพราะถูกเหวี่ยง
เมื่อกลิ่นควันที่ไม่ถูกสูดช่างหอมหวน
ขณะที่ตำรวจพาเรดมา
เราควรได้ลุกขึ้นเต้น
แต่เราไม่มีโอกาส
เพราะผู้เล่นพยายามได้อิสระ
พวกพาเรดก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้
คุณจำได้ไหมว่าอะไรเกิดขึ้น
กำเนิดวันสิ้นเสียงเพลง
(Helter skelter*
birds คือวง The Byrd
ซึ่ง เพลง Eight miles high ถูกแบน และความนิยมตกอย่างเร็ว
เพราะเกี่ยวกับยาเสพติด
บ็อบ ดิแลน ประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์ พักไป 9 เดือน)
We started singing
bye, bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
Them good old boys
were drinking whiskey and rye
And singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
เราร้องว่า
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
Oh, and there we were all in one place,
a generation lost in space
With no time left to start again
So come on Jack be nimble, Jack be quick
Jack Flash sat on a candlestick '
cause fire is the devil's only friend
Oh, and as I watched him on the stage
My hands were clenched in fists of rage
No angel born in hell
Could break that Satan's spell
And as the flames climbed high into the night
To light the sacrificial rite
I saw Satan laughing with delight
The day the music died
เราต่างอยู่ในที่เดียวกัน
ในเจนเนอเรชั่นที่ไม่รู้จัก
ที่ไม่มีเวลาเหลือให้เริ่มต้นใหม่
มาเร็วแจ๊คผู้ว่องไว เร็ว ๆ
แจ็คแฟลชปักอยู่ในเชิงเทียน
เพราะไฟเป็นเพื่อนคนเดียวของอสูร
โอ แล้วเมื่อฉันดูเขาบนเวที
มือของฉันก็กำแน่น
ไม่มีนางฟ้าเกิดในนรก
ที่จะแก้คำสาปของซาตาน
และเมื่อที่ไฟกำลังลุกโชนสู่ค่ำคืน
เพื่อจุดไฟบูชายันต์
ฉันเห็นซาตานหัวเราะด้วยความยินดี
ในวันสิ้นสุดเสียงเพลง
(เราทั้งหมดมารวมกันในที่เดียว ... woodstock
Jack be nimble คือ Mick Jagger วง Rolling Stone
Jumpin Jack Flash * เพลงของ Rolling Stone
candlestick คือ Candlestick park concert
cause fire is the devil's only friend อยู่ในเพลง Sympathy for the Devil*
6 ธันวา 2512 มีการจัด rock concert ที่สนามแข่งรถ Altamont
Meredith Hunter พยายามจะปีนขึ้นไปบนเวที
ขณะที่ Rolling Stone กำลังเล่นเพลง Sympathy for the Devil
สมาชิกของกลุ่ม Hells Angels motorcycle club
ที่รับจ้างเป็นการ์ดด้วยเบียร์ และ ยา
ได้ลากตัวออกไปซ้อม
เขาได้กลับเข้ามาใหม่ ชักปืน จึงถูกการ์ดแทงตาย
วง rolling stone ขึ้นฮอออกจากเวทีทันที
ทิ้งร่าง Meredith Hunter ไว้
ดั่งใช้ชีวิตหนึ่งบูชายันต์ซาตาน)
He was singing
bye, bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
Them good old boys
were drinking whiskey and rye
And singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
เขาร้องว่า
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
I met a girl who sang the blues
And I asked her for some happy news
But she just smiled and turned away
I went down to the sacred store
Where I'd heard the music years before
But the man there said the music wouldn't play
And in the streets the children screamed
The lovers cried and the poets dreamed
But not a word was spoken
The church bells all were broken
And the three men I admire most
The Father, Son, and the Holy Ghost
They caught the last train for the coast
The day the music died
ฉันได้พบสาวที่ร้องเพลงบลู
และฉันถามเธอถึงข่าวดี
แต่เธอแค่ยิ้มและผละไป
ฉันแวะที่ร้านที่มีมนต์ขลัง
ร้านที่ฉันเคยฟังเพลงเก่าหลายปี
แต่ชายในร้านกลับพูดว่าดนตรีนั้นไม่ได้เล่นอีกแล้ว
ในถนนเด็ก ๆ ต่างกรีดร้อง
คู่รักเศร้าและกวีฝัน
แต่กลับไม่มีคำพูดแม้เพียงคำ
ระฆังโบสถ์ทุกใบเสียหาย
และชายสามคนที่ฉันบูชาที่สุด
พระบิดา พระบุตร และพระจิต
เขาจับรถขบวนสุดท้ายไปแผ่นดินสวรรค์
ในวันสิ้นเสียงเพลง
(Janis Joplin เป็นนักร้องเพลงบลู
เพลงฮิตของเธอคือ "Piece of My Heart" และ "Me and Bobby McGee."
เธอตายเพราะเสพเฮโรอินเกินขนาด
เมคลีนชอบเพลงของเธอ
I saw ten thousand talkers whose tongues were all broken
อยู่ใน Sound of Silence โดย Simon and Garfunkel)
And they were singing
bye, bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
Them good old boys
were drinking whiskey and rye
Singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
เนื้อเพลง American Pie เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น
สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคง
American Pie - Don McLean
YouTube / Uploaded by lukutiss1324
A long, long time ago
I can still remember
how that music used to make me smile
And I knew if I had my chance
that I could make those people dance
And maybe
they'd be happy for a while
But February made me shiver
with every paper I'd deliver
Bad news on the doorstep,
I couldn't take one more step
I can't remember if I cried
when I read about his widowed bride
But something touched me deep inside
the day the music died
กาลครั้งหนึ่งนานนานมาแล้ว
ฉันยังจำได้ว่า
ดนตรีนั้นทำให้ฉันมีความสุขอย่างไร
และฉันรู้ว่าหากฉันมีโอกาส
ฉันจะทำให้คนเหล่านั้นเต้น
และบางที
เขาคงจะมีความสุขแม้แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ
แต่กุมภาพันธ์นั้นทำให้ฉันเหมือนโดนฟ้าผ่า
จากข่าวร้ายในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ผมนำไปส่ง
ข่าวร้ายมาถึงหน้าบันไดบ้าน
จนไม่อาจก้าวเดินต่อไปได้
ฉันจำไม่ได้ว่าร้องไห้หรือเปล่า
เมื่ออ่านเกี่ยวกับภรรยาหม้ายของเขา
แต่มีบางอย่างมาสัมผัสฉันลึก ๆ
ว่าเป็นวันที่สิ้นเสียงเพลง
(3 กุมภาพันธ์ 2502
Buddy Holly นักร้องนักแต่งเพลงที่มีอิทธิพลต่อดนตรี rock and roll
เครื่องบินตกเสียชีวิตในไอโอว่า
ภรรยาเขาเสียใจจนแท้งลูก
... จบกัน rock and roll ...)
So bye, bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
And them good old boys
were drinking whiskey and rye
Singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
(มิสอเมริกันพาย อาจเป็นตัวแทนของความฝันของคนเอมริกัน - rock and roll
ยุคนั้นหนุ่มมักพาสาวขับเชฟวี่ไปพลอดรักที่สันเขื่อน
ไม่มีน้ำ - ไม่มีสาวไปด้วย)
Did you write the book of love
and do you have faith in God above
If the Bible tells you so?
Now do you believe in rock and roll?
Can music save your mortal soul?
And can you teach me how to dance real slow?
Well, I know that you're in love with him
'Cause I saw you dancing in the gym
You both kicked off your shoes
Man, I dig those rhythm and blues
I was a lonely teenage bronc'n' buck
With a pink carnation and a pickup truck
But I knew I was out of luck
The day the music died
คุณได้แต่งเพลงเรื่องความรักไหม
และคุณมีความเชื่อในพระเจ้าเบื้องบน
ตามที่ไบเบิลบอกคุณไหม?
ตอนนี้คุณเชื่อในร็อคแอนด์โรลไหม?
บทเพลงจะรักษาจิตวิญญาณคุณไหม?
และคุณจะสอนให้ฉันเต้นรำจังหวะช้า ๆ ไหม?
เอาละฉันรู้ว่าคุณรักเขา
เพราะฉันเห็นคุณเต้นรำในยิม
คุณทั้งคู่ต่างสะบัดรองเท้า
เพื่อน, ฉันจึงขุดจังหวะเก่า ๆ และเศร้าขึ้นมา ...
ฉันเป็นวัยรุ่นที่เหงา กวางหนุ่มในรั้วผุ
มีคาร์เนชั่นสีชมพูกับรถปิ๊กอัพ
แต่ฉันรู้ว่าฉันอับโชค
ในวันที่สิ้นเสียงเพลง
(เหมือนเขาเอาเพลงหรือคำพูดเด็ด ๆ ของเพลง
เข้ามาร้อยเข้าด้วยกัน เป็นเรื่องราวเช่น
the book of love *
the Bible tells me so?*
Do You Believe In Magic*
ธรรมเนียมเช่น
การเต้นสโลว์เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน
เป็นการร้อยเรียงถึงยุคเก่า ยุคใหม่อะไรจะเกิดขึ้นจากนี้
จะกลับไปเป็นบบเดิมไหม จะมีใครสานต่อไหม)
I started singing bye,
bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
And them good old boys
were drinking whiskey and rye
Singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
ฉันจึงร้องว่า
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
Now, for ten years we've been on our own
And moss grows fat on a rolling stone
But that's not how it used to be
When the jester sang for the king and queen
In a coat he borrowed from James Dean
And a voice that came from you and me
Oh, and while the king was looking down
The jester stole his thorny crown
The courtroom was adjourned
No verdict was returned
And while Lenon read a book on Marx
The quartet practiced in the park
And we sang dirges in the dark
The day the music died
เป็นเวลาสิบปีที่เราอยู่ด้วยตัวเอง
คนที่ไม่หยุดอยู่กับที่ย่อมเกิดความคิดใหม่ ๆ
ที่ไม่เหมือนที่เคยเป็น
ตัวตลกร้องเพลงให้ราชาและราชินี
ใส่โค้ทที่ยืมมาจากเจมส์ดีน
และเสียงนั้นมาจากพวกคุณและฉัน
และเมื่อราชามองลงมา
ตัวตลกก็ขโมยมงกุฏ
การตัดสินความผิดถูกเลื่อนออกไป
โดยไม่ได้กลับมาพิจารณาอีก
เมื่อเลนอนอ่านหนังสือมาร์ซ
วงดนตรีสี่คนเล่นอยู่ในพาร์ค
และเราร้องเพลงในพิธีศพ
ในวันที่สิ้นเสียงเพลง
(วง Rolling stone พ้องกับสุภาษิตว่า ... คนที่ไม่หยุดอยู่กับที่ย่อมเกิดความคิดใหม่ ๆ
ตัวตลก ... บ็อบ ดิแลนด์
ราชา ... เอลวิส
ราชินี ... Connie Francis, Little Richard, ฯลฯ
ในหนังเรื่อง Rebel Without a Causeเจมสศ็ดีน มีเสื้อกันลมสีแดง
ในชีวิตจริง บ็อบ ดิแลน ชอบใส่เสื้อกันลมสีแดง
บ็อบ ดิแลนร้องเพลงโฟล์ค ... folk แปลว่า ประชาชน คือเรา ๆ ท่าน ๆ
เมื่อเอลวิสถูกเกณท์ทหาร บ็อบดิแลนขึ้นมาเป็นราชาเพลงแทน
การตัดสินความ ... หมายถึงคดีเคคาดี้ และมือปืน ออสวอลด์
เลนอนเลียนแบบมาร์ซในการปฏิวัติเพลง ในปี 1968
สี่เต่าทอง คือ สี่คน คือ Beatles
งานศพในยุค 60's มี Kennedy's คือ John และ Robert มี Martin Luther King)
We were singing bye,
bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
And them good old boys
were drinking whiskey and rye
Singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
เราร้องว่า
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
Helter skelter in a summer swelter
The birds flew off with a fallout shelter
Eight miles high and falling fast
Landed foul on the grass
The players tried for a forward pass
With the jester on the sidelines in a cast
Now the half time air was sweet perfume
While sergeants played a marching tune
We all got up to dance
Oh, but we never got the chance
'Cause the players tried to take the field
The marching band refused to yield
Do you recall what was revealed
The day the music died?
ความสับสนในฤดูร้อนที่อบอ้าว
จนนกตกตกจากคอน
สูงแปดไมล์และตกอย่างรวดเร็ว
ลงพื้นอย่าน่าขยะแขยงลงบนกัญชา
นักดนตรีอื่นพยายามบุกไปข้างหน้า
ขณะที่บ็อบดิแลนอยู่นอกวงเพราะถูกเหวี่ยง
เมื่อกลิ่นควันที่ไม่ถูกสูดช่างหอมหวน
ขณะที่ตำรวจพาเรดมา
เราควรได้ลุกขึ้นเต้น
แต่เราไม่มีโอกาส
เพราะผู้เล่นพยายามได้อิสระ
พวกพาเรดก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้
คุณจำได้ไหมว่าอะไรเกิดขึ้น
กำเนิดวันสิ้นเสียงเพลง
(Helter skelter*
birds คือวง The Byrd
ซึ่ง เพลง Eight miles high ถูกแบน และความนิยมตกอย่างเร็ว
เพราะเกี่ยวกับยาเสพติด
บ็อบ ดิแลน ประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์ พักไป 9 เดือน)
We started singing
bye, bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
Them good old boys
were drinking whiskey and rye
And singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
เราร้องว่า
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
Oh, and there we were all in one place,
a generation lost in space
With no time left to start again
So come on Jack be nimble, Jack be quick
Jack Flash sat on a candlestick '
cause fire is the devil's only friend
Oh, and as I watched him on the stage
My hands were clenched in fists of rage
No angel born in hell
Could break that Satan's spell
And as the flames climbed high into the night
To light the sacrificial rite
I saw Satan laughing with delight
The day the music died
เราต่างอยู่ในที่เดียวกัน
ในเจนเนอเรชั่นที่ไม่รู้จัก
ที่ไม่มีเวลาเหลือให้เริ่มต้นใหม่
มาเร็วแจ๊คผู้ว่องไว เร็ว ๆ
แจ็คแฟลชปักอยู่ในเชิงเทียน
เพราะไฟเป็นเพื่อนคนเดียวของอสูร
โอ แล้วเมื่อฉันดูเขาบนเวที
มือของฉันก็กำแน่น
ไม่มีนางฟ้าเกิดในนรก
ที่จะแก้คำสาปของซาตาน
และเมื่อที่ไฟกำลังลุกโชนสู่ค่ำคืน
เพื่อจุดไฟบูชายันต์
ฉันเห็นซาตานหัวเราะด้วยความยินดี
ในวันสิ้นสุดเสียงเพลง
(เราทั้งหมดมารวมกันในที่เดียว ... woodstock
Jack be nimble คือ Mick Jagger วง Rolling Stone
Jumpin Jack Flash * เพลงของ Rolling Stone
candlestick คือ Candlestick park concert
cause fire is the devil's only friend อยู่ในเพลง Sympathy for the Devil*
6 ธันวา 2512 มีการจัด rock concert ที่สนามแข่งรถ Altamont
Meredith Hunter พยายามจะปีนขึ้นไปบนเวที
ขณะที่ Rolling Stone กำลังเล่นเพลง Sympathy for the Devil
สมาชิกของกลุ่ม Hells Angels motorcycle club
ที่รับจ้างเป็นการ์ดด้วยเบียร์ และ ยา
ได้ลากตัวออกไปซ้อม
เขาได้กลับเข้ามาใหม่ ชักปืน จึงถูกการ์ดแทงตาย
วง rolling stone ขึ้นฮอออกจากเวทีทันที
ทิ้งร่าง Meredith Hunter ไว้
ดั่งใช้ชีวิตหนึ่งบูชายันต์ซาตาน)
He was singing
bye, bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
Them good old boys
were drinking whiskey and rye
And singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
เขาร้องว่า
ลาก่อนมิสอเมริกันพาย
ได้ขับเชฟวี่ขึ้นไปบนคันกั้นน้ำ
ที่ปราศจากน้ำ
และเด็กชายคนดี
กำลังดื่มเหล้า
พลางร้องว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ,
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันสิ้นใจ
I met a girl who sang the blues
And I asked her for some happy news
But she just smiled and turned away
I went down to the sacred store
Where I'd heard the music years before
But the man there said the music wouldn't play
And in the streets the children screamed
The lovers cried and the poets dreamed
But not a word was spoken
The church bells all were broken
And the three men I admire most
The Father, Son, and the Holy Ghost
They caught the last train for the coast
The day the music died
ฉันได้พบสาวที่ร้องเพลงบลู
และฉันถามเธอถึงข่าวดี
แต่เธอแค่ยิ้มและผละไป
ฉันแวะที่ร้านที่มีมนต์ขลัง
ร้านที่ฉันเคยฟังเพลงเก่าหลายปี
แต่ชายในร้านกลับพูดว่าดนตรีนั้นไม่ได้เล่นอีกแล้ว
ในถนนเด็ก ๆ ต่างกรีดร้อง
คู่รักเศร้าและกวีฝัน
แต่กลับไม่มีคำพูดแม้เพียงคำ
ระฆังโบสถ์ทุกใบเสียหาย
และชายสามคนที่ฉันบูชาที่สุด
พระบิดา พระบุตร และพระจิต
เขาจับรถขบวนสุดท้ายไปแผ่นดินสวรรค์
ในวันสิ้นเสียงเพลง
(Janis Joplin เป็นนักร้องเพลงบลู
เพลงฮิตของเธอคือ "Piece of My Heart" และ "Me and Bobby McGee."
เธอตายเพราะเสพเฮโรอินเกินขนาด
เมคลีนชอบเพลงของเธอ
I saw ten thousand talkers whose tongues were all broken
อยู่ใน Sound of Silence โดย Simon and Garfunkel)
And they were singing
bye, bye Miss American Pie
Drove my Chevy to the levee
but the levee was dry
Them good old boys
were drinking whiskey and rye
Singing this'll be the day that I die,
this'll be the day that I die
เนื้อเพลง American Pie เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น
สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคง