ขอเป็น word of mouth ปลายน้ำให้ "Begin Again" "ดาวหลงทาง" อีกปาก
Begin Again ***
1. ชอบการเล่นกับชื่อเรื่อง Begin Again มากๆ ทั้งการตัดต่อเล่าเรื่องที่ล้อ Begin Again อย่างการแฟลชแบ็ก เหตุการณ์ก่อนหน้าที่โปรดิวเซอร์กับนักร้องสาวจะมาเจอกันในบาร์ ที่จบลงด้วยเหตุการณ์ต้นเรื่องวนลูปอยู่จนกระทั่งกลางเรื่อง (จริงๆฉากจบก็เป็น begin ของตัวละครเหมือนกันนะ)
-ยังมีประเด็นเรื่องการเล่นกับ Begin อีกหลายประเด็นอย่าง การย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการ(ทำเดโม) อัดเสียงเพลง (ใช้แบรนด์เต็มวง ,ไมค์บูม) ,การเผยแพร่เพลงแบบปากต่อปาก ,การขายเพลง (ผลประโยชน์) ....................
2. ชอบสัญลักษณ์ในหนังอย่าง"สายแจ็คแยกหูฟัง" ที่ทำหน้าที่รวมเสียงเพลงจากแหล่งเดียวกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่แยกเสียงเพลงออกจากกันด้วย ซึ่งเปรียบกับความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องได้อย่างลงตัว
- คู่หนึ่งเพลงทำให้ทั้งคู่แยกออกจากกัน
- อีกคู่หนึ่งเพลงทำให้ทั้งคู่รักกัน
3.สตั๊นท์กับฉากเปิดตัวเพื่อนนักกีตาร์ร่างอ้วนของนางเอกมากๆ ที่เปิดหมวกร้องเพลงกลางถนน แม้จะไม่มีคนดู แต่ก็ดูมีความสุขที่ได้ทำตามฝันของตัวเอง (แอบซึมๆ)
4. ขอบเสียงร้องของเคียร่ามากๆ สไตล์แบบหลบๆ ไม่เต็มเสียง
5.ชอบหน้าตาเคียร่ามากๆ นึกถึงวีโรน่า ไรเดอร์ตลอดเวลา (เกี่ยวกันไหม)
สปอยยยย....
....................
.......................
...........................
6. ชอบการวางตำแหน่งความสัมพันธ์ของโปรดิวเซอร์ และนักร้องสาวมากๆ หนังจัดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ไม่ล้ำเส้นกันเกินไป ให้เกียรติและเข้าใจกันเกือบทุกซีน แม้จะมีฉากที่เกือบๆให้ลุ้นอยู่หลายฉากก็ตาม
7. ชอบธีมหนังเรื่องนี้ที่สุดท้ายมันพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนที่จะเกิดมาเป็นร็อคสตาร์ ฉากสุดท้ายที่นางเอกมองแฟนเก่าร้องเพลงบนเวที แล้วลังเลใจว่าจะกลับไปคืนดีหรือเปล่า แล้วพลันไปเห็นเหล่าแฟนคลับที่กำลังคลั่งไคล้แฟนเธอบนเวที เธอก็เลยตัดสินใจได้ว่า คนอย่างแฟนเธอนั้นเกิดมาเป็นดาวที่มีแต่คนต้องการ-หลงไหล
แล้วผกก.เองก็กลัวคนจะไม่เก็ตการตัดสินใจในฉากสุดท้ายของนางเอกด้วย เลยใส่คำพูดมาตั้งแต่ตอนกลางเรื่องซะเลยว่า คนอย่างแฟนเธอนั้นเป็นพวกร็อคสตาร์ ที่อ่อนไหวมีความรักให้กับทุกสิ่ง แม้แต่ต้นไม้ใบหญ้า สายลม แสงแดด ดังนั้นผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาไม่มีทางมีความสุขได้ เพราะเขาจะมีความรักให้กับทุกสิ่ง(แม้แต่สาวๆที่มาคลั่งไคล้) เราจึงเข้าใจในการตัดสินใจสุดท้ายของเธอได้ไม่ยาก
ปล1. ชอบไอเดียการปฏิวัติอุตสาหกรรมดนตรี ที่จิกกัดนายทุนในตอนสุดท้ายมากๆ
ปล2. แม้จริงๆจะหนังจะอยู่ในหมวดโรแมนติกโลกสวย ที่เพียบพร้อมไปด้วยสูตรสำเร็จ แต่ซีนจบ (และเพลง) มันทำให้หนังเรืองนี้กลายเป็นกระแส word of mouth จริงๆนะครัซ
ปล3. นึกไม่ออกว่าถ้า สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน มาเล่นบทนางเอกจริงๆ (ถ้าไม่ผิดคิวกันซะก่อน) ความสัมพันธ์ระหว่างโปรดิวเซอร์กับนู๋นักร้องจะออกมาเป็นยังไง
"Begin Again" "ดาวหลงทาง" ขอเป็น word of mouth ให้อีกปาก
Begin Again ***
1. ชอบการเล่นกับชื่อเรื่อง Begin Again มากๆ ทั้งการตัดต่อเล่าเรื่องที่ล้อ Begin Again อย่างการแฟลชแบ็ก เหตุการณ์ก่อนหน้าที่โปรดิวเซอร์กับนักร้องสาวจะมาเจอกันในบาร์ ที่จบลงด้วยเหตุการณ์ต้นเรื่องวนลูปอยู่จนกระทั่งกลางเรื่อง (จริงๆฉากจบก็เป็น begin ของตัวละครเหมือนกันนะ)
-ยังมีประเด็นเรื่องการเล่นกับ Begin อีกหลายประเด็นอย่าง การย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการ(ทำเดโม) อัดเสียงเพลง (ใช้แบรนด์เต็มวง ,ไมค์บูม) ,การเผยแพร่เพลงแบบปากต่อปาก ,การขายเพลง (ผลประโยชน์) ....................
2. ชอบสัญลักษณ์ในหนังอย่าง"สายแจ็คแยกหูฟัง" ที่ทำหน้าที่รวมเสียงเพลงจากแหล่งเดียวกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่แยกเสียงเพลงออกจากกันด้วย ซึ่งเปรียบกับความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องได้อย่างลงตัว
- คู่หนึ่งเพลงทำให้ทั้งคู่แยกออกจากกัน
- อีกคู่หนึ่งเพลงทำให้ทั้งคู่รักกัน
3.สตั๊นท์กับฉากเปิดตัวเพื่อนนักกีตาร์ร่างอ้วนของนางเอกมากๆ ที่เปิดหมวกร้องเพลงกลางถนน แม้จะไม่มีคนดู แต่ก็ดูมีความสุขที่ได้ทำตามฝันของตัวเอง (แอบซึมๆ)
4. ขอบเสียงร้องของเคียร่ามากๆ สไตล์แบบหลบๆ ไม่เต็มเสียง
5.ชอบหน้าตาเคียร่ามากๆ นึกถึงวีโรน่า ไรเดอร์ตลอดเวลา (เกี่ยวกันไหม)
สปอยยยย....
....................
.......................
...........................
6. ชอบการวางตำแหน่งความสัมพันธ์ของโปรดิวเซอร์ และนักร้องสาวมากๆ หนังจัดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ไม่ล้ำเส้นกันเกินไป ให้เกียรติและเข้าใจกันเกือบทุกซีน แม้จะมีฉากที่เกือบๆให้ลุ้นอยู่หลายฉากก็ตาม
7. ชอบธีมหนังเรื่องนี้ที่สุดท้ายมันพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนที่จะเกิดมาเป็นร็อคสตาร์ ฉากสุดท้ายที่นางเอกมองแฟนเก่าร้องเพลงบนเวที แล้วลังเลใจว่าจะกลับไปคืนดีหรือเปล่า แล้วพลันไปเห็นเหล่าแฟนคลับที่กำลังคลั่งไคล้แฟนเธอบนเวที เธอก็เลยตัดสินใจได้ว่า คนอย่างแฟนเธอนั้นเกิดมาเป็นดาวที่มีแต่คนต้องการ-หลงไหล
แล้วผกก.เองก็กลัวคนจะไม่เก็ตการตัดสินใจในฉากสุดท้ายของนางเอกด้วย เลยใส่คำพูดมาตั้งแต่ตอนกลางเรื่องซะเลยว่า คนอย่างแฟนเธอนั้นเป็นพวกร็อคสตาร์ ที่อ่อนไหวมีความรักให้กับทุกสิ่ง แม้แต่ต้นไม้ใบหญ้า สายลม แสงแดด ดังนั้นผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาไม่มีทางมีความสุขได้ เพราะเขาจะมีความรักให้กับทุกสิ่ง(แม้แต่สาวๆที่มาคลั่งไคล้) เราจึงเข้าใจในการตัดสินใจสุดท้ายของเธอได้ไม่ยาก
ปล1. ชอบไอเดียการปฏิวัติอุตสาหกรรมดนตรี ที่จิกกัดนายทุนในตอนสุดท้ายมากๆ
ปล2. แม้จริงๆจะหนังจะอยู่ในหมวดโรแมนติกโลกสวย ที่เพียบพร้อมไปด้วยสูตรสำเร็จ แต่ซีนจบ (และเพลง) มันทำให้หนังเรืองนี้กลายเป็นกระแส word of mouth จริงๆนะครัซ
ปล3. นึกไม่ออกว่าถ้า สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน มาเล่นบทนางเอกจริงๆ (ถ้าไม่ผิดคิวกันซะก่อน) ความสัมพันธ์ระหว่างโปรดิวเซอร์กับนู๋นักร้องจะออกมาเป็นยังไง