http://ppantip.com/topic/32067189 (รอนแรม แบ็คแพ็ค โตเกียว ตอน 1) จากปักกิ่งสู่ฮาเนดะ โตเกียว
http://ppantip.com/topic/32104115 (รอนแรม แบ็คแพ็ค โตเกียว ตอน 2) Hakone เที่ยวง่ายๆ เมืองขุนเขาใกล้ Tokyo / ล่องเรือโจรสลัดทะเลสาบอาชิ / หุบเขาแห่งนรก Owakudani / นั่งกระเช้าชมความงามฟูจิซัง  / นั่งรถไฟสุดหรู Odakyu Limited Express "Romancecar"  / ปิดทริปหนึ่งวัน ด้วย ราเมงร้อนๆ ริมแม่น้ำซุนมิดะ แกล้มวิวโตเกียวสกายทรี
      

      รอนแรม แบ็คแพ็คโตเกียว หลังจากไปชมภูเขาไฟฟูจิที่ฮาโกเน่ มาเมื่อวานซึ่งเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากๆ หลายคนไปญี่ปุ่นมาหลายครั้ง เคยเล่าให้ฟังว่ายังแทบไม่ค่อยได้เห็นฟูจิซังชัดๆสักที มีเมฆบังบ้าง ฟ้าปิดบ้างแล้วแต่ดวงจริงๆ ผมว่าความสนุกตื่นเต้นของการออกเดินทางท่องเที่ยวคือ เราไม่สามารถคาดเดาเรื่องราวระหว่างทางไปจนถึงความงดงามของจุดหมายปลายทางได้ แต่ธรรมชาติมักสร้างเรื่องเซอร์ไพรส์ให้มนุษย์ตัวน้อยได้ตื่นเต้นเสมอผมคิดเช่นนั้น วันนี้ก็เช่นกันใครคาดคิดว่าเมื่อวานแดดใสแจ๋ว วันนี้ฝนจะตกทั้งวัน นี่ถ้าผมวางแปลนเรื่องเที่ยวสับวันกับเมื่อวานวันนี้ผมคงอดเห็นฟูจิซังเป็นแน่แท้ ถึงฝนตกก็ไม่กลัวเพราะตั๋วเครื่องบินแพงครับ 55 มาแล้วยังไงก็เที่ยว คิดแปลนเดี๋ยวนั้นเรย ไหว้พระ ช๊อบปิ้ง ซากุระ ข้าวหน้าปลาดิบ และปิดท้ายวันด้วยราเมงแชมเปี้ยนและกันดั้ม โอไดบะ ฮ่ะๆนี่แปลนวันฝนตกหรอฟร่ะ ไปโล้ดดด
ผมว่าโชคดีซะอีกได้เห็นคนญี่ปุ่นใช้ชีวิตในวันฝนตกด้วย เอิ๊ก หาดูยากนะ 55 ใครเคยมาเดินกางร่มใสที่ญี่ปุ่นบ้างยกมือขึ้น   ถ้างั้นหาซื้อร่มที่เซเว่นแร้วออกตะลอนเที่ยวโตเกียวเปียกๆกันคร้าบ

ชะโงกหัวออกจากที่พัก Chisuninn Asakusa ฟ้าครึ้ม ฝนตกพรำๆ อากาศหนาวสุดๆ เห็นรถจักรยานแร้วอยากถีบ

ป้ายรถเมล์ที่โตเกียวนั่งหันหลังนะเออ รถมาก็จอดรอตามเวลาเป๊ะ ไม่ต้องยืนชะเง้อคอมอง

ต่อแถวข้ามถนนคร้าบบบ

กำลังจะเดินไปวัดเซนโซจิอีกรอบ อยู่ใกล้ๆที่พักครับ เดินแค่ 5 นาที

เด็กญี่ปุ่นเจอกัน เกือบปล่อยพลังใส่กัน

สามล้อลากหน้าวัดเซนโซจิ น่านั่งเที่ยวเหมือนกัน แต่เหลือบเห็นป้ายราคาที่ติดอยู่ TT เดินดีก่า

หลับตาเดินผ่านตลาด nakamise ไปก่อน จะรีบไปไหว้พระ กลัวคนเยอะอ่ะ

กวักธูป ล้างมือ บ้วนปากให้เรียบร้อย ก่อนเข้าวิหารไหว้เจ้าแม่กวนอิม

รองเท้าสานแห่งประตูมหาสมบัติ ผมจ้องมองแล้วได้อารมณ์ดี มันเหมือนเค้าไม่ลืมรากเหง้าของความยากลำบาก ก่อนจะรุ่งเรืองได้จนวันนี้

ไหว้พระก็ยังต่อแถวนะครับ สังเกตดีๆ ไม่ว่ารวยหรือจนมีสิทธิ์เท่ากัน อย่าลืมโยนเหรียญ 5 เยนลงกล่องไม้ ตบมือแล้วอธิษฐาน เพี้ยง!! ขอกลับมาอีกคร้าบ

ใครชอบแนวเครื่องราง ของขลัง มีเพียบครับ แต่ขอบอกว่าแพงป้าดด งั้นหยอดเซียมซี 100 เยน ก็พอ

สำหรับผมแล้ววัดนี้ ไม่ว่าจะมาเดินกี่รอบก็ไม่เบื่อครับ ยังมีอะไรรอบๆให้ดูอีกเยอะ แต่คนเริ่มเยอะแล้ว เดี๋ยวค่อยกลับมาเก็บรอบๆวัดอีกที

จริงๆแล้วนางจะรีบไปช๊อปอ่ะครับ อ่าา เริ่มจาก Nakamise ถนนละลายทรัพย์หน้าวัดก่อนเรย แถวนี้ผมได้แค่ที่ติดตู้เย็นอันละ 350 เยน !! 100 กว่าบาท เฮื๊อก โดนไป 3 อัน ต่อก็ไม่ได้

อีกอย่างที่ชอบมากคือป้ายต่างๆที่ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะออกแนวการ์ตูนย์น่ารักๆครับ ไม่มีรูปผู้ว่าฯ นักการเมือง รึตำรวจ อบต อะไรทั้งสิ้น ดาราก็ไม่ต้อง

จากวัดเซนโซจิ ผมจะเดินทางไปตลาดAmeyoko แถว Ueno โดยรถไฟใต้ดินสาย Ginza Line ทางลงสถานีอยู่ซ้ายมือหน้าวัดครับ

Ueno Station สถานีรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว อายุเกือบร้อยปี

โผล่หัวขึ้นมาจากใต้ดิน ตกใจรถมันหายไปไหนหมดฟร่ะ สะพานลอยที่นี่ดูแลคนเดินดีจริงๆ ทั้งกว้างใหญ่และมีทางเชื่อมต่ออาคารถึงกันเกือบหมด

หิวๆ กำลังเดินไปหาร้านข้าวหน้าปลาดิบชื่อดังแถวตลาด  ผ่านร้านอาหารไทยด้วย แต่ดูทรงแร้วออกจะแต่งร้านแนวค่ายมวย

อีกแค่ 2 ก้าวยังไม่มีใครข้ามเรย เค้ารอสัญญาณไฟอยู่

มองไปรอบๆ บ้านเมืองคนญี่ปุ่นอาจไม่ต่างจากบ้านเรา แต่สิ่งที่ต่างน่าจะเป็นความรับผิดชอบต่อพื้นที่สาธารณะส่วนรวม

เจอแล้วครับ ร้านข้าวหน้าปลาดิบอันลือชื่อ นามว่า Maguro-Ichiba อยู่ใต้ทางรถไฟ ก่อนเข้าตลาด Ameyoko เข้าไปนั่งโล้ด วิธีสั่งก็ไม่ยากครับ นั่งยิ้มเข้าไว้ ดูเมนูที่โต๊ะชี้รูปที่ชอบ แล้วก็รอโซ้ย ไม่ต้องพูดอะไรสักคำ  ช่วงเที่ยงคนญี่ปุ่นจะเข้าเยอะมาก แนะนำให้มาบ่ายนิดๆครับ

ตลาด Ameyoko อารมณ์ น่าจะคล้ายๆ เยาวราช+สำเพ็ง+พาหุรัด บ้านเรา แต่ของจะอยู่รวมๆกัน มีตั้งแต่อาหารสดประจำวัน ของกินถูกๆอร่อยๆเยอะ ไปจนถึงเสื้อผ้ารองเท้า กระเป๋า ที่สำคัญส่วนใหญ่จะเป็นของแท้ครับ

ผมชอบตลาดแบบนี้ครับ ดูแล้วมันเป็นตลาดแท้ๆของคนญี่ปุ่นที่ไว้เดินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่ได้มีไว้จัดฉากขายนักท่องเที่ยวอย่างเดียว เหมือนบางที่ ได้อารมณ์ดีครับ มีตะโกนขายปลาดิบสดๆกันเจี้ยวจ๊าว

พลาดไม่ได้ก็เป็นลูกชิ้นญี่ปุ่น ลูกสีแดงครับ 55 คุงหญิงเล่น สามลูกโต 200 เยน ก็ 60 บาท โดนไป 2 ไม้ 120 บาท เริ่มทำหน้าฟินสุดๆ บ้านเราคงกินได้เป็นโล

จากประสบการณ์ตรงครับ เลยอยากแนะนำว่า ถ้าจะมาเที่ยวญี่ปุ่น อย่าพึ่งตื่นเต้นรีบไปซื้อ แอสเซดเซรี่ พวกเสื้อกันหนาว รองเท้าบูท หมวกไหมพรม รึถุงมือกันหนาวเตรียมมาจากเมืองไทยครับ เพราะที่บ้านเรามีตัวเลือกน้อย ราคาก็แพงด้วย แถมจะหนาวมาก หนาวน้อยก็ยังไม่แน่ใจ อดใจนิดนึงแล้วมาลองดูที่นี่ครับ จะเสียใจมากที่หอบมาตุงกระเป๋าเบย  โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวมาลองใส่จากสถานที่จริงเร้ย จะได้รู้ว่ามันกันหนาวได้กำลังดีกับอากาศมั้ย รับรองยังไม่ตกเทรนญี่ปุ่นแน่นอน ที่แน่ๆผมก็ซื้อใส่เลยครับ ตัวละ 2000 เยน ก็ราว 600 บาท ถ้าบ้านเราก็คงเกือบ 2000 บาท รองเท้าบูทของสาวๆ ราคาก็ตก 5-600 เยน เล่นเอาสาวๆร้องกันลั่นตลาด อุตส่าห์ไปหาซื้อมือสองแถวตลาดวังหลังยังคู่ตั้ง 350 บาท แถมหอบมาแล้วตั้งสองคู่ 55 อดไป รวมๆแล้วที่นี่เป็นสวรรค์นักช๊อบจริงๆครับ อ่าวคุงหญิงหายไปไหนแล้ว สงสัยจมกองผ้าไปแระ

ผู้หญิงหายหาไม่ยากครับ สาวๆทั้งหลายส่วนใหญ่จะมารวมตัวกันที่ร้าน Matsumoto Kiyoshi ร้านขายเครื่องสำอางค์ชื่อก้องโลก มีสาขาอยู่ทั่วทุกหัวระแหงในญี่ปุ่น นางสามารถอยู่ในนั้นได้เป็นวันครับ เพราะร้านมันใหญ่มากแถมมีหลายชั้นอีก เฮ้อ แถวนี้ไม่มีร้านขายหนัง AV มั่งรึ

เห็นป้ายตั้งๆ นึกว่าป้ายบรรพบุรุษ เอิ๊ก ไปดูใกล้ๆ เป็นร้านขายสาหร่าย ลองซื้อฉีกกินดูเรย หอมอร่อยดีครับ แต่ราคาสูงใช้ได้ ของเค้าดีจริง

เดินไปจนสุดทางตัดกับอีกถนน จะเจอร้านแนวซุบเปอร์มาเกต ลองเข้าไปจะมีขนม ของกิน ของใช้ เยอะมากครับ คิตแคตมีเป็นสิบรส ขนมหลอกผู้ใหญ่มีเพียบบบบบ เชิญหยิบรถเข็ญไปรอได้เรยครับ