หนังใกล้จะเข้าฉายให้ได้ชมกันแล้ว ผมเลยขอเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่รู้หรือไม่รู้ก็ได้
จากหนัง Guardians of the Galaxy หนังลำดับที่ 4 แห่งเฟส 2 ของจักรวาลมาร์เวลภาพยนตร์
(MCU) ที่จะเข้าฉายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เอามาให้อ่านกันเล่นๆครับ (หากซ้ำขออภัยนะครับ)
- ทีมผู้สร้างกล่าวว่า
ร็อคเก็ต แร็คคูน นั้นเป็นผลผลิตจากการทดลองสร้างคาแรคเตอร์
ในหนังที่ไม่เคยมีมาก่อน :
"เขาเป็นสัตว์ตัวเล็กๆที่ถูกทดลองโน่นนี่มากมาย รวมทั้งฝังรูปแบบ
ของไซเบอร์เนติกส์ลงไป เขาจึงเป็นเหมือนครึ่งเครื่องจักรครึ่งแรคคูน และเขาก็เป็นพวกหัวแข็ง
บ้าพลัง โกรธง่าย เป็นสัตว์ขี้โมโห ไม่มีอะไรที่เหมือนกับเขาอีกเแล้ว ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งง่ายๆเลย"
- ตอนที่
เดฟ บาทิสต้า รู้ว่าตัวเองจะได้รับบทเป็น
แดร็กส์ เดอะ เดสทรอยเยอร์
นั้น เขาถึงกับน้ำตาซึมด้วยความดีใจ ที่ได้รับบทเป็นตัวละครในหนังสือการ์ตูนมาร์เวล จนถึงขนาด
ไปเข้าคอร์สเรียนการแสดงเป็นพิเศษเพื่มรับบทนี้โดยเฉพาะ
- พระเอกของเรื่อง
คริส แพรตต์ นั้นทุ่มเทกับการออกกำลังกายฟิตหุ่นเป็นอย่างมาก
ไดเอทติดกันเป็นเวลาหกเดือนเต็มๆ จนน้ำหนักลดลงไปถึง 60 ปอนด์ ในที่สุดเขาก็สามารถเข้า
ฉากที่ไม่ได้ใส่เสื้อข้างนอกได้อย่างภาพภูมิใจ แพรตต์ว่ามันเป็นการลดน้ำหนักที่หักโหมสุดๆ
ตอนที่เขาเห็นหุ่นของตัวเองในมอนิเตอร์ในฉากนั้น
"มันน่าตื่นต้นสุดๆที่ได้เห็นหุ่นที่สุดเพอเฟ็ค
ที่สุดของตัวเองบนจอ"
-
แบรดลีย์ คูเปอร์ ใช้เสียงและวิธีการพูดของ ทอมมี่ เดวิโต้ (โจ เพซซี่
ตัวละครในหนัง Goodfellas) เป็นต้นแบบในการให้เสียงเป็น ร็อคเก็ต แร็คคูน
- ที่
ดจิมอน ฮอนซู รับเล่นบท
คอแรธ นั้นก็เพราะลูกชายของเขานั่นเอง
โดยลูกชายเคยพูดบางอย่างที่ทำให้ฮอนซูถึงกับผงะ
"ลูกชายของผมชอบซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง
พวก สไปเดอร์-แมน ไออ้อนแมน แบทแมน มาก มีอยู่วันหนึ่งเขาพูดว่า 'พ่อ ผมอยากมีผิว
ขาวครับ เพราะสไปเดอร์-แมนเป็นคนผิวขาว' ผมช็อคเลยนะนั่น" (ฮาา ..คงอยากจะให้ลูก
เห็นตัวเองเป็นตัวละครผิวสีที่ดูดีบนจอน่ะเอง)
- ความจริงในแผนงานเดิมนั้น หนังจะมีไออ้อนแมนมาในบทรับเชิญครับ (เพื่อเคารพแก่
หนังสือการ์ตูนหัวปัจจุบันที่มีไออ้อนแมนอยู่ในทีม ตอนช่วงปี 2013) แต่แผนก็ต้องเปลี่ยน
ไปเพราะ
โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ บอกว่าเขาจะไม่กลับมารับบท
โทนี่ สตาร์ค
ในอนาคตอีกแล้ว และเขาได้เซนต์สัญญากับมาร์เวลสุดแค่หนัง The Avengers 3 เท่านั้น
- ผู้กำกับ
เจมส์ กันน์ บอกว่าเขาเลือก คริส แพรตต์ เพราะการออดิชั่น ไม่ใช่เพราะ
หุ่นของเขา (ที่ในตอนนั้นยังอ้วนตุ๊ต๊ะอยู่) แถมยังบอกอีกว่าถ้าเขาไม่สะดวกจะลดน้ำหนัก
จะใช้ CGI สร้างซิกแพคให้เขาในหนังแทนก็ได้นะ (ฮา) แต่แพรตต์ก็ยืนยันว่าจะลด กันน์
เลยให้เวลาไป 6 ว่าต้องลดลงให้ได้ 50 ปอนด์ แต่สุดท้ายแพรตต์ก็ลดลงไปได้ถึง 60 ปอนด์
- ตัวอย่างแรกของหนังที่ฉายให้ผู้ชมในงานดูนั้น ฉากที่
ปีเตอร์ ควิลล์ หรือ สตาร์-ลอร์ด
ชูนิ้วกลางขึ้นมานั้น ตอนนั้นในฉากนั้นยังไม่มีการใส่เอฟเฟคเบลอนิ้วลงไปเลย
เล่นเอาเหวอไปตามๆกัน
-
โซอี้ ซัลดาน่า เกือบทำ คริส แพรตต์ ซี่โครงหักในฉากต่อสู้มาแล้ว เพราะตอน
ซ้อมฉากต่อสู้นั้นทั้งคู่จะใส่เครื่องป้องกันเป็นอย่างดี ทำให้บู๊ด้วยแรงกันจริงๆอย่างปลอดภัย
แต่พอตอนถ่ายทำจริงที่ไม่มีการใส่เครื่องป้องกัน และแพรตต์ก็ไม่ได้บอกซัลดาน่าเพราะคิด
ว่าเธอรู้แล้ว จนพอถ่ายทำจริงๆซัลดาน่าก็เตะแพรตต์เข้าไปเต็มแรงจนล้มซี่โครงกระแทกพื้น
(โอ้แม่เจ้า O_O) จนบัดนี้ยังมีรอยช้ำนั่นบนตัวเขาอยู่เลย
- ในหนังนั้น
โรแนน ดิ แอคคิวเซอร์ วายร้ายหลักของเรื่องจะทำงาน
โดยอยู่ภายใต้คำสั่งของธานอส เช่นเดียวกับในหนังสือการ์ตูน
-
อดัม แซนด์เลอร์,
เดวิด เทนแนนท์,
ชาร์ลโต้ โคเพลย์,
จิม แครี่ และ
เอช จอน เบนจามิน คือหนึ่งในตัวเลือกแรกๆใน
การมาพากย์เสียงเป็น ร็อคเก็ต แรคคูน
- นี่คือรายชื่อทั้งหมดของนักแสดงที่มาออดิชั่นบทสตาร์-ลอร์ด ได้แก่
โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน,
เอ็ดดี้ เร้ดเมย์น,
เจนเซ่น แอคเลส,
ลี เพซ (ที่ได้บทโรแนนไปแทน),
เวส เบนท์ลีย์,
แจ็ค ฮุสตัน,
แคม กิแกนเดท,
ซุลลิแวน สเตเพิลตัน,
โลแกน มาร์แชล-กรีน,
แกเรตต์ เฮดลันด์,
คริส โลแวลล์,
เจมส์ มาร์สเดน,
จิม สเตอร์เจส,
โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์,
แอรอน พอล,
ไมเคิล โรเซนบัม,
เกลนน์ ฮาวเวอร์ตัน และ
จอห์น คราซินสกี้
- ในหนังนั้น มีเพียง
ยอนดู คนเดียวที่เป็นตัวละครในทีม
GOTG ทีมดั้งเดิมเมื่อปี 1969 ในหนังสือการ์ตูน
-
คาเรน กิลเลน ถึงกับลงทุนโกนผมของเธอ
จริงๆเลยเพื่อรับบทเป็น
เนบิวล่า
-
จอสส์ วีดอน ผู้กำกับ The Avengers นั้นเป้นที่ปรึกษาให้กันน์เป็นอย่างดีให้
กับการเชื่อมต่อกันระหว่างหนังของเขากับหนังเรื่องอื่นๆในจักรวาล MCU
- เจมส์ กันน์ ไม่ได้ดูเทปออดิชั่นของ คริส แพรตต์ มาก่อน คนที่อยู่ตอนแพรตต์
มาออดิชั่นคือทีมงานคนอื่น จนกระทั่งแพรตต์มาอ่านบทของตัวเองให้กันน์ฟัง
แค่ 30 วินาที กันน์ก็มั่นใจแล้วว่าแพรตต์คือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับบทนี้
- ในหนัง สตาร์-ลอร์ด ไม่ใช่ลูกครึ่งมนุษย์กับชาว Spartax เหมือนในหนังสือการ์ตูน
แต่เป็นเด็กที่เกิดในยุค 80 ที่ถูกจับตัวไปอยู่นอกโลกและถูกเลี้ยงดูอยู่ในกลุ่มโจ
The Ravagers ของยอนดู
- เบซิลิโอ เดล โทโร่ บอกว่า เดอะ คอลเลคเตอร์
คือ
"Liberace เวอร์ชั่นอวกาศ" (Liberace คือชื่อ
ของนักเปียโนยุค 50)
- มีข่าวลือว่า
อดัม วอร์ล็อค จะมีบทบาทในหนังด้วย แต่พอเสร็จสิ้นขั้นตอนเขียน
บท ไอเดียเรื่องวอร์ล็อคก็ถูกตัดออกไป และคิดว่ามันคงจะดีกว่าจะเก็บเอาไว้ใช้ในหนัง
เรื่องต่อไปในอนาคต
- อิทธิพลในการสร้างหนังที่กันน์ใช้ยึดเป็นแนวทาง ก็คือหนัง Iron Man ภาคแรกของ
จอน แฟฟโร นั่นเอง
"หนังของเราคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของมาร์เวล MCU เฟส 2
ฉะนั้นเราจึงใช้ความสนุกตื่นเต้นครบเครื่องของหนัง Iron Man ภาคแรกเป็นแนวทาง"
- ในหนัง เดอะ คอลเลคเตอร์ จะมีสถานที่ส่วนตัวและที่เก็บของสะสมของ
ตนเองที่สถานีอวกาศ
โนว์แวร์ (Knowhere) ซึ่งในหนังสือการ์ตูนนั้น
มันคือที่ตั้งฐานทัพของทีม GOTG
- ในตอนแรกนั้น ดจิมอน ฮอนซู มาออดิชั่นบท แดร็กส์ ก่อน (เช่นเดียวกับ ลี เพซ
ที่มาทดสอบบท สตาร์-ลอร์ด ก่อน) แต่ในที่สุดดจิมอนก็ได้รับบทคอแรธไป แล้วเข้าใจ
ทันทีว่าทำไมบาทิสต้าถึงได้บทแดร็กส์ไป หลังจากเขาได้ดูเทปออดิชั่นของบาทิสต้า
แล้วคิดว่าเขาเหมาะสมกับบทแดร็กส์มากจริงๆ
- เมคอัพและเครื่องแต่งกายของคอแรธ ทำให้ฮอนซูรู้สึกขยับเขยื้อนตัวลำบากมาก
ในการถ่ายทำ (แต่พอเห็นนักแสดงคนอื่นๆคงเลิกบ่น XD เพราะแต่งองค์ทรงเครื่องพอๆกัน)
- นี่ถือเป็นหนังเรื่องแรกในจักรวาล MCU ที่ไม่มีเส้นเรื่องเกี่ยวข้องกับ The Avengers
(คือไม่เกี่ยวข้องในโครงสร้างเรื่อง ตัวละครจาก GOTG จะไม่ไปเจอกับเหล่าฮีโร่ใน
The Avengers : Age of Ultron)
-
โซอี้ ซัลดาน่า ต้องการให้กาโมร่าเป็นเทคนิคการเมคอัพตัวเขียวจริงๆ
ไม่ใช่ CGI หรือโมชั่นแคปเจอร์ (เธอคงชินกับเทคนิคแบบนี้มาเยอะแล้วใน
Avatar เลยขอบู๊แบบตัวปลิวๆดีกว่า)
- เจมส์ กันน์ บอกว่า ยานมิลาโน ของสตาร์-ลอร์ดนั้น อ้างอิงมาจากรถ Hot Rod
"รูปลักษณ์ และโครงสร้างของมันช่วยย้ำเตือนความทรงจำเกี่ยวกับโลกของเขา"
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่รู้หรือไม่รู้ก็ได้ จากหนัง Guardians of the Galaxy
หนังใกล้จะเข้าฉายให้ได้ชมกันแล้ว ผมเลยขอเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่รู้หรือไม่รู้ก็ได้
จากหนัง Guardians of the Galaxy หนังลำดับที่ 4 แห่งเฟส 2 ของจักรวาลมาร์เวลภาพยนตร์
(MCU) ที่จะเข้าฉายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เอามาให้อ่านกันเล่นๆครับ (หากซ้ำขออภัยนะครับ)
- ทีมผู้สร้างกล่าวว่า ร็อคเก็ต แร็คคูน นั้นเป็นผลผลิตจากการทดลองสร้างคาแรคเตอร์
ในหนังที่ไม่เคยมีมาก่อน : "เขาเป็นสัตว์ตัวเล็กๆที่ถูกทดลองโน่นนี่มากมาย รวมทั้งฝังรูปแบบ
ของไซเบอร์เนติกส์ลงไป เขาจึงเป็นเหมือนครึ่งเครื่องจักรครึ่งแรคคูน และเขาก็เป็นพวกหัวแข็ง
บ้าพลัง โกรธง่าย เป็นสัตว์ขี้โมโห ไม่มีอะไรที่เหมือนกับเขาอีกเแล้ว ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งง่ายๆเลย"
- ตอนที่ เดฟ บาทิสต้า รู้ว่าตัวเองจะได้รับบทเป็น แดร็กส์ เดอะ เดสทรอยเยอร์
นั้น เขาถึงกับน้ำตาซึมด้วยความดีใจ ที่ได้รับบทเป็นตัวละครในหนังสือการ์ตูนมาร์เวล จนถึงขนาด
ไปเข้าคอร์สเรียนการแสดงเป็นพิเศษเพื่มรับบทนี้โดยเฉพาะ
- พระเอกของเรื่อง คริส แพรตต์ นั้นทุ่มเทกับการออกกำลังกายฟิตหุ่นเป็นอย่างมาก
ไดเอทติดกันเป็นเวลาหกเดือนเต็มๆ จนน้ำหนักลดลงไปถึง 60 ปอนด์ ในที่สุดเขาก็สามารถเข้า
ฉากที่ไม่ได้ใส่เสื้อข้างนอกได้อย่างภาพภูมิใจ แพรตต์ว่ามันเป็นการลดน้ำหนักที่หักโหมสุดๆ
ตอนที่เขาเห็นหุ่นของตัวเองในมอนิเตอร์ในฉากนั้น "มันน่าตื่นต้นสุดๆที่ได้เห็นหุ่นที่สุดเพอเฟ็ค
ที่สุดของตัวเองบนจอ"
- แบรดลีย์ คูเปอร์ ใช้เสียงและวิธีการพูดของ ทอมมี่ เดวิโต้ (โจ เพซซี่
ตัวละครในหนัง Goodfellas) เป็นต้นแบบในการให้เสียงเป็น ร็อคเก็ต แร็คคูน
- ที่ ดจิมอน ฮอนซู รับเล่นบท คอแรธ นั้นก็เพราะลูกชายของเขานั่นเอง
โดยลูกชายเคยพูดบางอย่างที่ทำให้ฮอนซูถึงกับผงะ "ลูกชายของผมชอบซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง
พวก สไปเดอร์-แมน ไออ้อนแมน แบทแมน มาก มีอยู่วันหนึ่งเขาพูดว่า 'พ่อ ผมอยากมีผิว
ขาวครับ เพราะสไปเดอร์-แมนเป็นคนผิวขาว' ผมช็อคเลยนะนั่น" (ฮาา ..คงอยากจะให้ลูก
เห็นตัวเองเป็นตัวละครผิวสีที่ดูดีบนจอน่ะเอง)
- ความจริงในแผนงานเดิมนั้น หนังจะมีไออ้อนแมนมาในบทรับเชิญครับ (เพื่อเคารพแก่
หนังสือการ์ตูนหัวปัจจุบันที่มีไออ้อนแมนอยู่ในทีม ตอนช่วงปี 2013) แต่แผนก็ต้องเปลี่ยน
ไปเพราะ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ บอกว่าเขาจะไม่กลับมารับบท โทนี่ สตาร์ค
ในอนาคตอีกแล้ว และเขาได้เซนต์สัญญากับมาร์เวลสุดแค่หนัง The Avengers 3 เท่านั้น
- ผู้กำกับ เจมส์ กันน์ บอกว่าเขาเลือก คริส แพรตต์ เพราะการออดิชั่น ไม่ใช่เพราะ
หุ่นของเขา (ที่ในตอนนั้นยังอ้วนตุ๊ต๊ะอยู่) แถมยังบอกอีกว่าถ้าเขาไม่สะดวกจะลดน้ำหนัก
จะใช้ CGI สร้างซิกแพคให้เขาในหนังแทนก็ได้นะ (ฮา) แต่แพรตต์ก็ยืนยันว่าจะลด กันน์
เลยให้เวลาไป 6 ว่าต้องลดลงให้ได้ 50 ปอนด์ แต่สุดท้ายแพรตต์ก็ลดลงไปได้ถึง 60 ปอนด์
- ตัวอย่างแรกของหนังที่ฉายให้ผู้ชมในงานดูนั้น ฉากที่ ปีเตอร์ ควิลล์ หรือ สตาร์-ลอร์ด
ชูนิ้วกลางขึ้นมานั้น ตอนนั้นในฉากนั้นยังไม่มีการใส่เอฟเฟคเบลอนิ้วลงไปเลย
เล่นเอาเหวอไปตามๆกัน
- โซอี้ ซัลดาน่า เกือบทำ คริส แพรตต์ ซี่โครงหักในฉากต่อสู้มาแล้ว เพราะตอน
ซ้อมฉากต่อสู้นั้นทั้งคู่จะใส่เครื่องป้องกันเป็นอย่างดี ทำให้บู๊ด้วยแรงกันจริงๆอย่างปลอดภัย
แต่พอตอนถ่ายทำจริงที่ไม่มีการใส่เครื่องป้องกัน และแพรตต์ก็ไม่ได้บอกซัลดาน่าเพราะคิด
ว่าเธอรู้แล้ว จนพอถ่ายทำจริงๆซัลดาน่าก็เตะแพรตต์เข้าไปเต็มแรงจนล้มซี่โครงกระแทกพื้น
(โอ้แม่เจ้า O_O) จนบัดนี้ยังมีรอยช้ำนั่นบนตัวเขาอยู่เลย
- ในหนังนั้น โรแนน ดิ แอคคิวเซอร์ วายร้ายหลักของเรื่องจะทำงาน
โดยอยู่ภายใต้คำสั่งของธานอส เช่นเดียวกับในหนังสือการ์ตูน
- อดัม แซนด์เลอร์, เดวิด เทนแนนท์, ชาร์ลโต้ โคเพลย์,
จิม แครี่ และ เอช จอน เบนจามิน คือหนึ่งในตัวเลือกแรกๆใน
การมาพากย์เสียงเป็น ร็อคเก็ต แรคคูน
- นี่คือรายชื่อทั้งหมดของนักแสดงที่มาออดิชั่นบทสตาร์-ลอร์ด ได้แก่ โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน,
เอ็ดดี้ เร้ดเมย์น, เจนเซ่น แอคเลส, ลี เพซ (ที่ได้บทโรแนนไปแทน),
เวส เบนท์ลีย์, แจ็ค ฮุสตัน, แคม กิแกนเดท, ซุลลิแวน สเตเพิลตัน,
โลแกน มาร์แชล-กรีน, แกเรตต์ เฮดลันด์, คริส โลแวลล์, เจมส์ มาร์สเดน,
จิม สเตอร์เจส, โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์, แอรอน พอล, ไมเคิล โรเซนบัม,
เกลนน์ ฮาวเวอร์ตัน และ จอห์น คราซินสกี้
- ในหนังนั้น มีเพียง ยอนดู คนเดียวที่เป็นตัวละครในทีม
GOTG ทีมดั้งเดิมเมื่อปี 1969 ในหนังสือการ์ตูน
- คาเรน กิลเลน ถึงกับลงทุนโกนผมของเธอ
จริงๆเลยเพื่อรับบทเป็น เนบิวล่า
- จอสส์ วีดอน ผู้กำกับ The Avengers นั้นเป้นที่ปรึกษาให้กันน์เป็นอย่างดีให้
กับการเชื่อมต่อกันระหว่างหนังของเขากับหนังเรื่องอื่นๆในจักรวาล MCU
- เจมส์ กันน์ ไม่ได้ดูเทปออดิชั่นของ คริส แพรตต์ มาก่อน คนที่อยู่ตอนแพรตต์
มาออดิชั่นคือทีมงานคนอื่น จนกระทั่งแพรตต์มาอ่านบทของตัวเองให้กันน์ฟัง
แค่ 30 วินาที กันน์ก็มั่นใจแล้วว่าแพรตต์คือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับบทนี้
- ในหนัง สตาร์-ลอร์ด ไม่ใช่ลูกครึ่งมนุษย์กับชาว Spartax เหมือนในหนังสือการ์ตูน
แต่เป็นเด็กที่เกิดในยุค 80 ที่ถูกจับตัวไปอยู่นอกโลกและถูกเลี้ยงดูอยู่ในกลุ่มโจ
The Ravagers ของยอนดู
- เบซิลิโอ เดล โทโร่ บอกว่า เดอะ คอลเลคเตอร์
คือ "Liberace เวอร์ชั่นอวกาศ" (Liberace คือชื่อ
ของนักเปียโนยุค 50)
- มีข่าวลือว่า อดัม วอร์ล็อค จะมีบทบาทในหนังด้วย แต่พอเสร็จสิ้นขั้นตอนเขียน
บท ไอเดียเรื่องวอร์ล็อคก็ถูกตัดออกไป และคิดว่ามันคงจะดีกว่าจะเก็บเอาไว้ใช้ในหนัง
เรื่องต่อไปในอนาคต
- อิทธิพลในการสร้างหนังที่กันน์ใช้ยึดเป็นแนวทาง ก็คือหนัง Iron Man ภาคแรกของ
จอน แฟฟโร นั่นเอง "หนังของเราคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของมาร์เวล MCU เฟส 2
ฉะนั้นเราจึงใช้ความสนุกตื่นเต้นครบเครื่องของหนัง Iron Man ภาคแรกเป็นแนวทาง"
- ในหนัง เดอะ คอลเลคเตอร์ จะมีสถานที่ส่วนตัวและที่เก็บของสะสมของ
ตนเองที่สถานีอวกาศ โนว์แวร์ (Knowhere) ซึ่งในหนังสือการ์ตูนนั้น
มันคือที่ตั้งฐานทัพของทีม GOTG
- ในตอนแรกนั้น ดจิมอน ฮอนซู มาออดิชั่นบท แดร็กส์ ก่อน (เช่นเดียวกับ ลี เพซ
ที่มาทดสอบบท สตาร์-ลอร์ด ก่อน) แต่ในที่สุดดจิมอนก็ได้รับบทคอแรธไป แล้วเข้าใจ
ทันทีว่าทำไมบาทิสต้าถึงได้บทแดร็กส์ไป หลังจากเขาได้ดูเทปออดิชั่นของบาทิสต้า
แล้วคิดว่าเขาเหมาะสมกับบทแดร็กส์มากจริงๆ
- เมคอัพและเครื่องแต่งกายของคอแรธ ทำให้ฮอนซูรู้สึกขยับเขยื้อนตัวลำบากมาก
ในการถ่ายทำ (แต่พอเห็นนักแสดงคนอื่นๆคงเลิกบ่น XD เพราะแต่งองค์ทรงเครื่องพอๆกัน)
- นี่ถือเป็นหนังเรื่องแรกในจักรวาล MCU ที่ไม่มีเส้นเรื่องเกี่ยวข้องกับ The Avengers
(คือไม่เกี่ยวข้องในโครงสร้างเรื่อง ตัวละครจาก GOTG จะไม่ไปเจอกับเหล่าฮีโร่ใน
The Avengers : Age of Ultron)
- โซอี้ ซัลดาน่า ต้องการให้กาโมร่าเป็นเทคนิคการเมคอัพตัวเขียวจริงๆ
ไม่ใช่ CGI หรือโมชั่นแคปเจอร์ (เธอคงชินกับเทคนิคแบบนี้มาเยอะแล้วใน
Avatar เลยขอบู๊แบบตัวปลิวๆดีกว่า)
- เจมส์ กันน์ บอกว่า ยานมิลาโน ของสตาร์-ลอร์ดนั้น อ้างอิงมาจากรถ Hot Rod
"รูปลักษณ์ และโครงสร้างของมันช่วยย้ำเตือนความทรงจำเกี่ยวกับโลกของเขา"