**** Spoil ระดับหนักหน่วงนับจากความเห็นแรกเป็นต้นไป
เหมาะสำหรับคนดูหนังเรื่องนี้แล้วเท่านั้น *****
รอจังหวะอยู่นานเหมือนกันกว่าจะได้ดูเรื่องนี้
แต่แอบสปอยตัวเองด้วยการนั่งฟังเพลงประกอบหนัง
ไปหลายต่อหลายรอบ เพื่อซึมซับ Mood ของหนังเรื่องนี้ไปอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะเนื้อหาของเพลงแต่ละเพลง เพราะหนังแนวนี้
จะใช้เพลงเป็นส่วนหนึ่งของหนัง พอๆ กับการเล่าเรื่อง
ผ่านบทพูดของตัวละครเลยทีเดียว ดังนั้นการฟังเพลงไปก่อน
เข้าใจความหมาย ก็ทำให้เวลาดูหนังก็อินได้มากขึ้น
หลังจากดูจบ ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ แม่มโคด GTH เลย
คือมันทั้ง Feel Good โลกสวย และอุ่นใจหลังดูจบ
แต่สิ่งที่เหนือกว่า ก็คือเรื่อง Mood & Tone ที่หนังสื่อสารออกมาได้ชัดเจนมาก
สองอย่างนี้ช่วยเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้อบอุ่น
และตรึงใจคนดูได้อย่างที่คนดูไม่รู้ตัว เพราะส่วนใหญ่
จะฝังใจกับกับเพลงมากกว่า เรียกว่าเดินออกโรงมา
พร้อมกับฮัมเพลง Lost Star ออกมาแบบไม่รู้ตัว
ส่วนเนื้อเรื่องก็เบาๆ เรื่อยๆ มาเรียงๆ ตามสูตรหนังรักทั่วไป
ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่อะไร ให้ต้องคิดต้องวิเคราะห์ให้ปวดหัว
แต่ที่มันทำให้เราติดตา ติดใจ มันคือเรื่องของ Mood & Tone
ที่เป็นตัวขับหนังเรื่องนี้แบบเงียบๆ มากกว่า ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบมากๆ เลย
อีกอย่างหนังเรื่องนี้เป็นแนว Coming of Age ที่สวยงามมากอีกเรื่องเลย
ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นชินกับหนังแนวเด็กน้อยที่ค่อยๆ เติบโตมากกว่า
แต่เรื่องนี้เป็น Coming of Age ของผู้ใหญ่ที่กำลังก้าวเดินบนเส้นทางที่ตัวเอง
เชื่อมั่นอยู่ว่ามันคือเส้นทางที่ถูกต้อง และสวยงาม
แต่เมื่ออยู่ดีๆ สะดุดล้มกลางทาง ตัวละครเหล่านั้นทำอย่างไรต่อไป
ในการผลักตัวเองให้ลุกขึ้นยืน และก้าวเดินต่อไปได้อีกครั้ง
อีกทั้งยังพูดถึง Coming of Age ในเรื่องของวงการเพลงด้วย
ว่าอยู่ในยุคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และคนที่ตามกระแสเหล่านี้ไม่ทัน
ก็กำลังหลงอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างไม่รู้ตัว
ว่าควรจะทำอย่างไร จะเดินไปทางไหน และจะรับมือมันอย่างไร
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ซ่อนเป็นบทรองของหนังเรื่องนี้
เนื่องจากมีหลายคนรีวิวและพูดถึงหนังเรื่องนี้ไปเยอะแล้ว
ผมเลยคิดว่าจะลองพูดถึงแง่มุมอื่นของหนังเรื่องนี้บ้าง
ซึ่งถือว่าส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญของหนังเรื่องนี้เลย ซึ่งนั่นก็คือ...
... เพลงประกอบภาพยนต์ ...
ดังนั้นเพลงจึงมีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว
และแน่นอนว่าแม้จะมีการแปลบางเพลงไว้
แต่บางทีด้วยอะไรหลายๆ อย่างในหนัง
ทำให้บางทีบางคนยังสับสน และไม่เข้าใจ
ว่าเนื้อหาที่สื่อสารถึงตัวละครในแต่ละเพลงนั้น
มันมีความหมาย ที่มาที่ไปอย่างไร
มามะ... มาลองฟังแล้วเดาๆ มั่วๆ ไปกับผมดีกว่า
ถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็อย่าด่ากันเลยครับ
[CR] In-Depth Review: Begin Again - When Two Lost Stars try to begin again...
**** Spoil ระดับหนักหน่วงนับจากความเห็นแรกเป็นต้นไป
เหมาะสำหรับคนดูหนังเรื่องนี้แล้วเท่านั้น *****
รอจังหวะอยู่นานเหมือนกันกว่าจะได้ดูเรื่องนี้
แต่แอบสปอยตัวเองด้วยการนั่งฟังเพลงประกอบหนัง
ไปหลายต่อหลายรอบ เพื่อซึมซับ Mood ของหนังเรื่องนี้ไปอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะเนื้อหาของเพลงแต่ละเพลง เพราะหนังแนวนี้
จะใช้เพลงเป็นส่วนหนึ่งของหนัง พอๆ กับการเล่าเรื่อง
ผ่านบทพูดของตัวละครเลยทีเดียว ดังนั้นการฟังเพลงไปก่อน
เข้าใจความหมาย ก็ทำให้เวลาดูหนังก็อินได้มากขึ้น
หลังจากดูจบ ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ แม่มโคด GTH เลย
คือมันทั้ง Feel Good โลกสวย และอุ่นใจหลังดูจบ
แต่สิ่งที่เหนือกว่า ก็คือเรื่อง Mood & Tone ที่หนังสื่อสารออกมาได้ชัดเจนมาก
สองอย่างนี้ช่วยเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้อบอุ่น
และตรึงใจคนดูได้อย่างที่คนดูไม่รู้ตัว เพราะส่วนใหญ่
จะฝังใจกับกับเพลงมากกว่า เรียกว่าเดินออกโรงมา
พร้อมกับฮัมเพลง Lost Star ออกมาแบบไม่รู้ตัว
ส่วนเนื้อเรื่องก็เบาๆ เรื่อยๆ มาเรียงๆ ตามสูตรหนังรักทั่วไป
ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่อะไร ให้ต้องคิดต้องวิเคราะห์ให้ปวดหัว
แต่ที่มันทำให้เราติดตา ติดใจ มันคือเรื่องของ Mood & Tone
ที่เป็นตัวขับหนังเรื่องนี้แบบเงียบๆ มากกว่า ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบมากๆ เลย
อีกอย่างหนังเรื่องนี้เป็นแนว Coming of Age ที่สวยงามมากอีกเรื่องเลย
ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นชินกับหนังแนวเด็กน้อยที่ค่อยๆ เติบโตมากกว่า
แต่เรื่องนี้เป็น Coming of Age ของผู้ใหญ่ที่กำลังก้าวเดินบนเส้นทางที่ตัวเอง
เชื่อมั่นอยู่ว่ามันคือเส้นทางที่ถูกต้อง และสวยงาม
แต่เมื่ออยู่ดีๆ สะดุดล้มกลางทาง ตัวละครเหล่านั้นทำอย่างไรต่อไป
ในการผลักตัวเองให้ลุกขึ้นยืน และก้าวเดินต่อไปได้อีกครั้ง
อีกทั้งยังพูดถึง Coming of Age ในเรื่องของวงการเพลงด้วย
ว่าอยู่ในยุคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และคนที่ตามกระแสเหล่านี้ไม่ทัน
ก็กำลังหลงอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างไม่รู้ตัว
ว่าควรจะทำอย่างไร จะเดินไปทางไหน และจะรับมือมันอย่างไร
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ซ่อนเป็นบทรองของหนังเรื่องนี้
เนื่องจากมีหลายคนรีวิวและพูดถึงหนังเรื่องนี้ไปเยอะแล้ว
ผมเลยคิดว่าจะลองพูดถึงแง่มุมอื่นของหนังเรื่องนี้บ้าง
ซึ่งถือว่าส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญของหนังเรื่องนี้เลย ซึ่งนั่นก็คือ...
... เพลงประกอบภาพยนต์ ...
ดังนั้นเพลงจึงมีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว
และแน่นอนว่าแม้จะมีการแปลบางเพลงไว้
แต่บางทีด้วยอะไรหลายๆ อย่างในหนัง
ทำให้บางทีบางคนยังสับสน และไม่เข้าใจ
ว่าเนื้อหาที่สื่อสารถึงตัวละครในแต่ละเพลงนั้น
มันมีความหมาย ที่มาที่ไปอย่างไร
มามะ... มาลองฟังแล้วเดาๆ มั่วๆ ไปกับผมดีกว่า
ถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็อย่าด่ากันเลยครับ