'น้องก้อย'เดินหน้าเอาเรื่อง'โค้ชเช' / 'โค้ชแม็ก' ท้าชน รู้แก่ใจใครพูดจริง-โกหก ‪

ไม่จบ!'ก้อย'ยันเอาเรื่อง'โค้ชเช'
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV
วันที่ 18 กรกฎาคม 2557 20:44 น.46,280 views

'น้องก้อย' ไม่ยอมถอย ยืนกรานขอเอาเรื่อง 'โค้ชเช' ให้ถึงที่สุด ด้วยการให้ออกมาขอโทษผ่านสื่อไทย ขณะที่ 'โค้ชแม็ก' ท้าชน ทุกอย่างรู้กันอยู่แก่ใจ ใครพูดจริง ใครโกหก


                           ความคืบหน้ากรณี "โค้ชเช" เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้วัย 40 ปี ที่ถูกลูกศิษย์ในแคมป์ของตัวเอง คือ "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวรุ่นประชาชน อายุ 23 ปี ออกมาแฉในโลกสังคมออนไลน์ และผ่านสื่อต่างๆ ว่า ถูกโค้ชจอมยิ้มบรายนี้ลงโทษเกินกว่าเหตุ ด้วยการทำร้ายร่างกายชกเข้าที่ใบหน้าและท้องจนบาดเจ็บปวดกราม หลังเจ้าตัวลงสนามแข่งขันช้า เนื่องจากอุปกรณ์ป้องกันตัวไม่พร้อม จนเกือบจะถูกกรรมการผู้ตัดสินจับแพ้ฟาวล์ให้แก่คู่ต่อสู้ชาวเกาหลีใต้ ในการแข่งขันเทควันโด "โคเรีย โอเพ่น 2014" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เมืองกองจู ประเทศเกาหลีใต้ จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วในเวลานี้

                           ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวมีท่าทีจะบานปลายกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ถึงขนาดวงการเทควันโดไทยต้องสูญเสีย โค้ชเช ที่สร้างผลงานให้แก่ประเทศชาติมานานถึง 12 ปี คว้าเหรียญทองในเวทีระดับนานาชาติมาแล้วทุกรายการ ยกเว้นแค่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์อย่างเดียวเท่านั้น แบบไม่มีวันกลับ เนื่องจากเจ้าตัวรู้สึกเสียใจและกดดันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คาดคิดว่า การลงโทษนักกีฬาจะถูกกระแสสังคมต่อต้านขนาดนี้ ยิ่งวันเดินทางกลับมาของทัพนักเทควันโดทีมชาติไทยทั้ง 18 ชีวิต ปรากฏว่า ไร้เงาโค้ชเชเดินทางกลับมาด้วย ส่งผลให้หลายคนวิตกกังวลว่า โค้ชเช อาจถอดใจไม่อยากกลับมาเมืองไทยอีกแล้ว

                           ล่าสุด "เจ้าแม็ก" ชัชวาล ขาวละออ อดีตนักเทควันโดทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์โลก ในฐานะ 1 ใน 2 สตาฟฟ์โค้ชไทยที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนสั่งให้ "น้องก้อย" นั่งรอในตรงจุดวอร์มนักกีฬาแล้วจะกลับมาเรียกตัวอีกที เปิดเผยว่า น้องก้อยต้องรู้ตัวเองว่าจะต้องลงแข่งขันในคู่ที่เท่าไหร่ เวลาอะไร เพราะเล่นเทควันโดในประเทศมานานเป็น 10 ปี อีกทั้งในระดับนานาชาติก็เคยลงแข่งขันมาแล้ว 2 รายการ คือ ชิงแชมป์เอเชีย ที่อุซเบกิสถาน กับ กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่จีน ก็มีเหรียญกลับมาตลอด น่าจะรู้ดีว่าตัวเองต้องเตรียมความพร้อมขนาดไหน เพราะทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคนทุ่มเทแรงกายและใจในการฝึกซ้อมให้ดีที่สุดแล้ว เวลาในสนามแข่งขันจึงเป็นหน้าที่ของนักกีฬาเอง เพราะตัวนักกีฬาคนนี้ไม่ใช่เด็กๆ หรือประเภทเยาวชนแล้ว เป็นถึงระดับประชาชน ต้องรู้ดีว่าสมควรทำอะไรบ้าง ไม่ใช่มองแต่มุมตัวเองว่า พอแพ้แล้วต้องมาหาคนผิด แถมยังมามองว่า สตาฟฟ์โค้ชไทยเป็นคนทำให้เกิดเรื่องรุนแรงดังกล่าว

                           "เจ้าแม็ก" กล่าวต่อว่า แต่ทำไมน้องเขาไม่มองมุมความผิดพลาดของตัวเองบ้าง เกี่ยวกับความไม่พร้อมในการใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวตอนนั่งรอลงแข่งขัน แถมยังมาบอกว่า มีโค้ชไทยมาสั่งให้ถอดชุดอุปกรณ์ออกไปก่อน จึงทำให้ลงแข่งขันล่าช้า ทั้งที่จริงแล้วเรื่องแบบนี้มันเป็นสไตล์นักกีฬาแต่ละคนว่า ชอบใส่อุปกรณ์ก่อนลงสนามเวลามากน้อยแค่ไหนแตกต่างกันไป หากน้องเขาใส่ใจถึงหน้าที่ของตัวเองจริงๆ ทำไมตอนคู่แข่งชาวเกาหลีใต้เดินลงไปในสนาม ตัวน้องก้อยเองไม่เดินตามไป มัวนั่งทำอะไรอยู่ เพราะตัวเขาจะต้องรู้ดีว่า คู่ต่อสู้ที่จะลงแข่งขันเป็นใคร ยิ่งในเวลานั้นตนกำลังไปดูแลนักกีฬาที่ลงสนามพร้อมกันถึง 3 คน จะให้มาประกบดูแลน้องก้อยคนเดียวได้อย่างไร เพราะขนาดนักกีฬาในระดับเยาวชนยังรู้เรื่องเลย

                           ที่สำคัญไปกว่านั้น สาเหตุที่โค้ชเชไม่พอใจคงเกิดจากความไม่ใส่ใจของตัวน้องก้อยเอง ปล่อยให้คู่แข่งมารอที่สนามแล้ว จนทำให้โค้ชเชรู้สึกอับอายคนทั้งสนาม มันส่อให้เห็นถึงการอบรมสั่งสอนของโค้ชเชและทีมงานทั้งหมดว่าเป็นเช่นไร เนื่องจากโค้ชเชห่วงภาพลักษณ์ของประเทศไทยและสมาคมเป็นอย่างยิ่ง เพราะกว่านักกีฬาจะผ่านมาถึงตรงจุดนี้ได้ ต้องทุ่มเทและฟิตซ้อมอย่างหนักมานานเป็นปี เพราะตัวโค้ชเชเองต้องการให้นักกีฬาทุกคนประสบความสำเร็จสูงสุด ไม่มีลำเอียงว่าเด็กใครเด็กมัน แต่ทุกคนอยู่ได้ด้วยผลงานและความสามารถเป็นหลัก

                           "หากโค้ชเชมองว่า น้องก้อยเป็นตัวสร้างปัญหาสร้างความวุ่นวายคงไม่เอามาติดทีมชาติด้วยแน่ ยิ่งไปกว่านั้น โค้ชเชก็ตั้งความหวังกับน้องก้อยไม่น้อย เพราะฝีเท้าของเด็กคนนี้ดีพอสมควร เห็นได้จาก 2 รายการที่ผ่านมา เขาสามารถสร้างผลงานที่ดีกลับมาได้ แถมรายการนี้หากตัวน้องก้อยเตรียมตัวดีๆ ก็น่าจะมีเหรียญกลับมาได้อีกเช่นกัน ดังนั้นการพูดกล่าวหาสตาฟฟ์โค้ชไทย เจ้าตัวจะน่ารู้ดีว่าใครพูดความจริง หรือโกหกกันแน่ เนื่องจากที่ผ่านมา น้องก้อยไม่ยอมรับผิดเรื่องของตัวเองเลย แต่มักจะโทษคนอื่น"

                           อย่างไรก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียดของน้องก้อย ส่วนตัวจะให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการสอบสวนของสมาคม ที่มี "เสธ.โต พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ อดีตประธานเตรียมนักกีฬาไทย ที่มาทำหน้าที่เป็นประธาน เพื่อให้ผู้ใหญ่เป็นคนพิจารณาตัดสินใจอีกที และหาหนทางแก้ไขให้ดีขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ในข้อมูลเชิงลึกไปกว่านี้ไม่อยากพูดอะไรมาก คงต้องรอให้กระบวนการสอบสวนสิ้นสุดลงเสียก่อน พร้อมกันนี้อยากให้น้องก้อยอย่าไปพูดอะไรออกสื่อให้มากไปกว่านี้ มีอะไรให้มาเจอตนและพูดกันตรงๆ เพื่อปรับความเข้าใจและไม่ต้องการให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางสังคมเรื่องใหญ่ อยากให้ทุกอย่างยุติโดยเร็วที่สุด เพราะเรายังมีภารกิจอีก 2 รายการ คือ ยูธโอลิมปิก และเอเชี่ยนเกมส์ เพราะตนมีความรู้สึกที่ดีในฐานะโค้ชไทยกับนักกีฬาคนนี้อยู่ตลอด บางเรื่องเป็นเรื่องภายในแคมป์ทีมชาติ ไม่ควรเอามาพูดในที่แจ้ง ทำไมตอนน้องก้อยประสบความสำเร็จไม่เห็นเอาคุณงามความดีของโค้ชไทยและโค้ชเกาหลีใต้มาชื่นชมในโลกออนไลน์ หรือออกสื่อกันบ้างล่ะ ที่ผ่านมามีนักกีฬาคนอื่นๆ หรือแม้กระทั่งตนที่เป็นนักกีฬามาตั้งแต่เยาวชนไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ กระทั่งพัฒนามาเป็นผู้ช่วยโค้ชให้โค้ชเช หากประพฤติตัวทำผิดก็ยังโดนโค้ชเชทำโทษอยู่ดี แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความผิดนั้นๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกคนก็ยอมรับมันได้และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ทำไมน้องก้อยจึงไม่ยอมยุติเสียที ส่วนตัวไม่อยากคิดว่า มีใครอยู่เบื้องหลังในเรื่องทั้งหมดนี้

                           ขณะที่ "น้องก้อย" รุ่งระวี กล่าวว่า แม้ในเวลานี้โค้ชเชจะออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านสื่อของเกาหลีใต้แล้วก็ตาม แต่ขอยืนยันว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อ เพราะเวลานี้กระแสสังคมมองว่า ตนเป็นคนผิด ส่วนตัวอยากให้สังคมไทยรู้ว่า โค้ชเชได้ทำอะไรกับตนลงไปบ้าง โดยเฉพาะการขอโทษผ่านสื่อในเมืองไทยยังไม่เห็นมีเลย

                           ด้าน นายณณัฏฐ์ เขมโสภต ที่ปรึกษาสมาคมเทควันโด กล่าวว่า ผู้บริหารสมาคมไม่ได้นิ่งนอนใจและจะบินไปเคลียร์ปัญหาที่เกาหลีใต้โดยด่วน ส่วนโค้ชเชเองก็มีกำลังใจรอบข้างที่ดีมาก การคุยกับโค้ชเชนั้น คงต้องเปิดอกคุย เพราะเราเองก็อยากรู้ว่า นอกจากเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โค้ชเชมีปัญหาหรืออึดอัดใจกับเรื่องใดอีก หลังจากนี้สมาคมจะไม่ให้เกิดเรื่องในลักษณะนี้ขึ้นมาอีกเช่นกัน โดยก่อนรับนักกีฬาเข้าแคมป์ทีมชาติจะต้องมีการจัดปฐมนิเทศน์ให้แก่ผู้ปกครองและนักกีฬาทุกคนได้รับทราบถึงกฎเกณฑ์และระเบียบของนักกีฬาที่ตรงกัน จะได้ไม่มีปัญหาตามมาอีก

                           สำหรับการสอบสวนกรณีดังกล่าวจะมีขึ้นวันที่ 19 กรกฎาคม เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ชุดแรก ประกอบด้วยนักกีฬาทั้งหมด 18 คน และสตาฟฟ์โค้ชไทยอีก 2 คน ส่วนเวลา 13.00 น. เป็นชุดที่สอง ที่มี "น้องก้อย" รุ่งระวี ที่ที่ทำการสมาคม กกท.หัวหมาก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่