สุนัขถูกรถชนเป็นอัมพาตขอความช่วยเหลือค่ะ
เมื่อวันพุธที่ 16/7/57 เรากับพี่สาวขับไปรถไปทำงานผ่าน ถ.รัตนาธิเบศร์ เหตุเกิดตอนประมาณ 7.30 น. ที่เกิดเหตุคือบริเวณก่อนถึงแยกบางพลู
ตรงเลนหลักมีสุนัขถูกรถชนอยู่ที่เลนซ้าย รถยนต์ทุกคัน ขับผ่านไปด้วยความเร็วสูง น่าหวาดเสียวมาก เพราะเขาทำราวกับว่า หมาที่นอนเจ็บอยู่กลางถนน ลุกก็ลุกไม่ได้ เขาพร้อมจะขับรถทับมันไปเลย เราเห็นว่านวล (เราตั้งชื่อว่านวลนะค่ะ) พยายามจะลุกแต่ลุกไม่ขึ้น เห็นขาขยับอยู่ไหวๆ พี่สาวเราขับออกไปจอดที่ทางคู่ขนานแล้วก็วิ่งไปดูกัน
โชคดีมากที่มีกลุ่มมอเตอร์ไซค์ใจดีจำนวนหนึ่งช่วยจอดปิดทางรถด้านหลังให้ และมีพี่ผู้ชายกับพี่ผู้หญิงคู่หนึ่งลงจากมอเตอร์ไซค์มาอุ้มนวลวางไว้ที่ฟุตบาทเกาะกลางคั่นระหว่างทางหลักกับทางคู่ขนาน สภาพนวลพยายามจะลุกแต่ลุกไม่ได้ ที่ท้องมีรอยแดงขนาดใหญ่ ฉี่ไหลออกมาเป็นเลือด กับมีรอยถลอกที่หู
พี่ผู้ชายกำลังจะหาโรงพยาบาลสัตว์แถวนั้น แต่พี่เขาก็ไม่สามารถเอานวลขึ้นมอเตอร์ไซค์ได้ เรากับพี่สาวเลยเอานวลมาที่รพ.สัตว์รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ ระหว่างทาง นวลพยายามจะลุกขึ้นแต่ก็ลุกไม่ได้ และหายใจดังมากพอไปถึงหมอประเมินอาการให้แล้วบอกได้เลยว่ากระดูกสันหลังและซี่โครงหักที่จุดเดียวกัน เพราะว่าไม่สามารถลุกได้ และต้อง x-ray ดูว่าปอด ตับ กระเพาะปัสสาวะมีปัญหาด้วยหรือไม่ (มารู้ทีหลังว่านวลเป็นหมาเด็ก เพราะทางรพ.สัตว์ไม่สามารถสวนกระเพาะปัสสาวะได้ เนื่องจากเล็กมาก) เราต้องขอฝากนวลไว้ก่อนเพราะวันนั้นเราต้องไปทำงานวันแรก (หลังจากตกงานมา 2 เดือน) ซึ่งทางรพ.ก็โอเค แต่ว่าให้จ่ายค่ามัดจำไว้ก่อน 5,000 บ.
ตอนเย็นค่ำๆ เลิกงานแล้ว เรากับพี่สาวก็ไปเยี่ยมนวล นวลนอนอยู่ในกรงแบบเงียบๆ มีสายน้ำเกลือ กับสายสวนปัสสาวะคาอยู่ ไม่สนใจเรา แต่เราลองแตะๆขาหน้า เขาก็มองมานิดหน่อย เราไม่ค่อยกล้าแตะเขามาก เพราะก็เพิ่งเจอกันครั้งที่ 2 กลัวว่านวลอาจจะกัดเราเอาได้ แต่นวลก็มีมองๆอยู่บ้าง หมากรงอื่นๆเห่าเรากันใหญ่ คงเพราะผิดกลิ่น พอสักพักก็มีคุณหมอมาอธิบายอาการให้ฟัง เราคาดไม่ถึงเลยว่า นวลจะเป็นอัมพาตตลอดชีวิต คุณหมอบอกว่าแม้ว่าเมื่อนวลแข็งแรงดีแล้ว และสามารถเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดความเจ็บปวดจากการที่กระดูกสันหลังหักได้ แต่โอกาสที่จะกลับมาเดินได้น้อยกว่า 5% เพราะกระดูกสันหลังข้อที่ 13 และ 14 แตกออกเป็นชิ้นๆ และกระดูกซี่โครงก็หัก และอื่นๆ (เรามึนๆงงๆ พยายามตั้งใจฟังแต่ว่ารู้สึกช็อคตรงที่ว่าจะเดินไม่ได้อีกแล้ว ฉี่เองก็ไม่ได้ นวลยังอายุไม่มากเลย) เรายังไม่รู้เลยว่าแล้วจะอึออกได้เองไหม
ดังนั้นต้องมีเรื่องต้องบีบฉี่ให้ด้วย และต้องกินยาปฏิชีวนะไปตลอดชีวิตเพราะว่าถึงบีบฉี่ยังไงก็ต้องมีค้างในกระเพาะปัสสาวะซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
พอวันรุ่งขึ้น เราก็ไปเยี่ยมนวลตอนค่ำๆ ถ่ายรูปมาด้วย
ซึ่งตรงนี้เราต้องขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ ค่าใช้จ่ายที่ต้องฝากนวลไว้ที่รพส. ประมาณ 400-500 บ.ต่อวัน ซึ่งเงินค่ามัดจำในตอนแรกนั้นใกล้จะหมดลงแล้วค่ะ เนื่องจากค่าตรวจวินิจฉัยครั้งแรกที่เข้า admit ก็ประมาณ 3,500 บ. (ทั้งนี้ค่ายาบางส่วน ทางรพ.ได้เอาของที่เป็นยาบริจาคมาให้ ทำให้ไม่เสียเงินค่ายามากไปกว่านี้ ต้องขอขอบคุณรพส.สัตว์รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ด้วย)
และเราอยากขอความกรุณา ถ้าใครมีความประสงค์อยากรับนวลไปดูแล ก็ขอความกรุณาด้วยค่ะ บ้านเราเป็นทาวน์เฮาส์ขนาดเล็ก ไม่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ใหญ่ อีกปัญหาคือคงต้องมีการดูแลนวลด้วย ซึ่งเรากับพี่สาวเป็นคนทำงานออกตอนเช้ากลับดึกและเป็นงานที่ต้องออกต่างจังหวัดบ่อยคราวละหลายวัน เรารู้ตัวดีว่าไม่มีเวลาจะดูแลนวลได้ หรือคงจะจัดการได้ไม่ดี จึงต้องมาขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ
และช่วงนี้เราอยากได้คำแนะนำ ระหว่างที่เราไม่รู้ว่าจะนำนวลไปไว้ที่ไหน ถ้าหลังจากที่ รพส. ให้ออกจาก รพ.ได้ เราจะทำอย่างไรดีคะ เพราะเราไม่รู้ว่าเราควรฝากนวลไว้ที่ รพส. ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีคนเมตตารับอุปการะนวลหรือควรนำนวลไปไว้ที่ไหน เราไม่รู้ว่าเราจะรับค่าใช้จ่ายได้เท่าไร (คือเราทำงานราชการค่ะ ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร) ตอนนี้คิดไม่ออกเลยค่ะ
ถ้าท่านใด มีเมตตากับนวล ช่วยรับนวลไปอุปการะด้วย นวลเป็นหมาที่มีแววตาฉลาดนะคะ (ส่วนใหญ่หมาที่เรารู้จักก็เป็นหมาฉลาดทั้งนั้น) สีเหลืองนวล ดูดีนะคะ เสียดายเธอไม่น่าเป็นหมาจรข้างถนน ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกรถชน เราเศร้าใจนะคะที่คิดว่าเมื่อวันก่อนนวลยังเดินและวิ่งได้ มาวันนี้เธอต้องเป็นอัมพาต รถที่ชนเธอไม่แม้จะจอดมาดูเธอ ชนแล้วก็รีบขับไป ชีวิตคนอื่นเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอแนะนำในส่วนนี้ดัวยนะคะ
สุนัขถูกรถชนเป็นอัมพาตขอความช่วยเหลือค่ะ
เมื่อวันพุธที่ 16/7/57 เรากับพี่สาวขับไปรถไปทำงานผ่าน ถ.รัตนาธิเบศร์ เหตุเกิดตอนประมาณ 7.30 น. ที่เกิดเหตุคือบริเวณก่อนถึงแยกบางพลู
ตรงเลนหลักมีสุนัขถูกรถชนอยู่ที่เลนซ้าย รถยนต์ทุกคัน ขับผ่านไปด้วยความเร็วสูง น่าหวาดเสียวมาก เพราะเขาทำราวกับว่า หมาที่นอนเจ็บอยู่กลางถนน ลุกก็ลุกไม่ได้ เขาพร้อมจะขับรถทับมันไปเลย เราเห็นว่านวล (เราตั้งชื่อว่านวลนะค่ะ) พยายามจะลุกแต่ลุกไม่ขึ้น เห็นขาขยับอยู่ไหวๆ พี่สาวเราขับออกไปจอดที่ทางคู่ขนานแล้วก็วิ่งไปดูกัน
โชคดีมากที่มีกลุ่มมอเตอร์ไซค์ใจดีจำนวนหนึ่งช่วยจอดปิดทางรถด้านหลังให้ และมีพี่ผู้ชายกับพี่ผู้หญิงคู่หนึ่งลงจากมอเตอร์ไซค์มาอุ้มนวลวางไว้ที่ฟุตบาทเกาะกลางคั่นระหว่างทางหลักกับทางคู่ขนาน สภาพนวลพยายามจะลุกแต่ลุกไม่ได้ ที่ท้องมีรอยแดงขนาดใหญ่ ฉี่ไหลออกมาเป็นเลือด กับมีรอยถลอกที่หู
พี่ผู้ชายกำลังจะหาโรงพยาบาลสัตว์แถวนั้น แต่พี่เขาก็ไม่สามารถเอานวลขึ้นมอเตอร์ไซค์ได้ เรากับพี่สาวเลยเอานวลมาที่รพ.สัตว์รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ ระหว่างทาง นวลพยายามจะลุกขึ้นแต่ก็ลุกไม่ได้ และหายใจดังมากพอไปถึงหมอประเมินอาการให้แล้วบอกได้เลยว่ากระดูกสันหลังและซี่โครงหักที่จุดเดียวกัน เพราะว่าไม่สามารถลุกได้ และต้อง x-ray ดูว่าปอด ตับ กระเพาะปัสสาวะมีปัญหาด้วยหรือไม่ (มารู้ทีหลังว่านวลเป็นหมาเด็ก เพราะทางรพ.สัตว์ไม่สามารถสวนกระเพาะปัสสาวะได้ เนื่องจากเล็กมาก) เราต้องขอฝากนวลไว้ก่อนเพราะวันนั้นเราต้องไปทำงานวันแรก (หลังจากตกงานมา 2 เดือน) ซึ่งทางรพ.ก็โอเค แต่ว่าให้จ่ายค่ามัดจำไว้ก่อน 5,000 บ.
ตอนเย็นค่ำๆ เลิกงานแล้ว เรากับพี่สาวก็ไปเยี่ยมนวล นวลนอนอยู่ในกรงแบบเงียบๆ มีสายน้ำเกลือ กับสายสวนปัสสาวะคาอยู่ ไม่สนใจเรา แต่เราลองแตะๆขาหน้า เขาก็มองมานิดหน่อย เราไม่ค่อยกล้าแตะเขามาก เพราะก็เพิ่งเจอกันครั้งที่ 2 กลัวว่านวลอาจจะกัดเราเอาได้ แต่นวลก็มีมองๆอยู่บ้าง หมากรงอื่นๆเห่าเรากันใหญ่ คงเพราะผิดกลิ่น พอสักพักก็มีคุณหมอมาอธิบายอาการให้ฟัง เราคาดไม่ถึงเลยว่า นวลจะเป็นอัมพาตตลอดชีวิต คุณหมอบอกว่าแม้ว่าเมื่อนวลแข็งแรงดีแล้ว และสามารถเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดความเจ็บปวดจากการที่กระดูกสันหลังหักได้ แต่โอกาสที่จะกลับมาเดินได้น้อยกว่า 5% เพราะกระดูกสันหลังข้อที่ 13 และ 14 แตกออกเป็นชิ้นๆ และกระดูกซี่โครงก็หัก และอื่นๆ (เรามึนๆงงๆ พยายามตั้งใจฟังแต่ว่ารู้สึกช็อคตรงที่ว่าจะเดินไม่ได้อีกแล้ว ฉี่เองก็ไม่ได้ นวลยังอายุไม่มากเลย) เรายังไม่รู้เลยว่าแล้วจะอึออกได้เองไหม
ดังนั้นต้องมีเรื่องต้องบีบฉี่ให้ด้วย และต้องกินยาปฏิชีวนะไปตลอดชีวิตเพราะว่าถึงบีบฉี่ยังไงก็ต้องมีค้างในกระเพาะปัสสาวะซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
พอวันรุ่งขึ้น เราก็ไปเยี่ยมนวลตอนค่ำๆ ถ่ายรูปมาด้วย
ซึ่งตรงนี้เราต้องขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ ค่าใช้จ่ายที่ต้องฝากนวลไว้ที่รพส. ประมาณ 400-500 บ.ต่อวัน ซึ่งเงินค่ามัดจำในตอนแรกนั้นใกล้จะหมดลงแล้วค่ะ เนื่องจากค่าตรวจวินิจฉัยครั้งแรกที่เข้า admit ก็ประมาณ 3,500 บ. (ทั้งนี้ค่ายาบางส่วน ทางรพ.ได้เอาของที่เป็นยาบริจาคมาให้ ทำให้ไม่เสียเงินค่ายามากไปกว่านี้ ต้องขอขอบคุณรพส.สัตว์รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ด้วย)
และเราอยากขอความกรุณา ถ้าใครมีความประสงค์อยากรับนวลไปดูแล ก็ขอความกรุณาด้วยค่ะ บ้านเราเป็นทาวน์เฮาส์ขนาดเล็ก ไม่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ใหญ่ อีกปัญหาคือคงต้องมีการดูแลนวลด้วย ซึ่งเรากับพี่สาวเป็นคนทำงานออกตอนเช้ากลับดึกและเป็นงานที่ต้องออกต่างจังหวัดบ่อยคราวละหลายวัน เรารู้ตัวดีว่าไม่มีเวลาจะดูแลนวลได้ หรือคงจะจัดการได้ไม่ดี จึงต้องมาขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ
และช่วงนี้เราอยากได้คำแนะนำ ระหว่างที่เราไม่รู้ว่าจะนำนวลไปไว้ที่ไหน ถ้าหลังจากที่ รพส. ให้ออกจาก รพ.ได้ เราจะทำอย่างไรดีคะ เพราะเราไม่รู้ว่าเราควรฝากนวลไว้ที่ รพส. ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีคนเมตตารับอุปการะนวลหรือควรนำนวลไปไว้ที่ไหน เราไม่รู้ว่าเราจะรับค่าใช้จ่ายได้เท่าไร (คือเราทำงานราชการค่ะ ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร) ตอนนี้คิดไม่ออกเลยค่ะ
ถ้าท่านใด มีเมตตากับนวล ช่วยรับนวลไปอุปการะด้วย นวลเป็นหมาที่มีแววตาฉลาดนะคะ (ส่วนใหญ่หมาที่เรารู้จักก็เป็นหมาฉลาดทั้งนั้น) สีเหลืองนวล ดูดีนะคะ เสียดายเธอไม่น่าเป็นหมาจรข้างถนน ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกรถชน เราเศร้าใจนะคะที่คิดว่าเมื่อวันก่อนนวลยังเดินและวิ่งได้ มาวันนี้เธอต้องเป็นอัมพาต รถที่ชนเธอไม่แม้จะจอดมาดูเธอ ชนแล้วก็รีบขับไป ชีวิตคนอื่นเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอแนะนำในส่วนนี้ดัวยนะคะ